ลิเวอร์พูล โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ โดมินิค โซบอสซ์ไล ผลัดกันทั้งยิงทั้งจ่ายให้ ลิเวอร์พูล บุกมาย้ำชัยชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ต่อ 0 ทำให้ หงส์แดง จ่าฝูง
เรือใบสีฟ้าของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่มีชื่อ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ อยู่ในเกมนี้ โดยให้ โอมาร์ มาร์มูช เล่นตำแหน่งหน้าเป้าแทน พร้อมด้วย นาธาน อเก้, เควิน เดอ บรอยน์ และ เจเรมี่ โดคู รวมทั้ง อับดูโกดีร์ คูซานอฟ และ นิโก้ กอนซาเลซ 2 แข้งตัวใหม่ ได้โอกาสสตาร์ตตัวจริง อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
อาร์เน่อ สล็อต กุนซือ ลิเวอร์พูล ส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามแนวรุกวาง หลุยส์ ดิอาซ หน้าเป้า ประสานเกมรุกกับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล และ เคอร์ติส โจนส์
ช่วง 10 นาทีแรกเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่าแต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้
นาที 14 ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 จากลูกสูตรเตะมุม อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ส่งมาให้ โดมินิค โซบอสซ์ไล ก่อนจะวางมาที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซัดด้วยซ้ายบอลแฉลบ เจเรมี่ โดคู เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ทำให้ ดาวยิงอียิตป์ ครองดาวซัลโว 25 ประตู และ 15 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และยังเป็นการยิงแมนซิตี้หนที่ 13 ในอาชีพของเจ้าตัวอีกด้วย
นาที 23 โอมาร์ มาร์มูช ได้โอกาสซัดด้วยขวาแต่บอลไม่แรงพุ่งไปเข้าซองของ อลีสซง เบ็คเกอร์
นาที 30 แมนซิตี้ มีลุ้นจาก ฟิล โฟเด้น วางให้ โอมาร์ มาร์มูช ลากเข้าไปยิงด้วยขวาบอลชนเสาเด้งเข้าประตูุไป แต่ผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าของดาวยิงชาวอียิปต์
นาที 38 ลิเวอร์พูล นำห่าง 2-0 จากจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลากขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนไหลบอลมาให้ โดมินิค โซบอสซ์ไล ยิงด้วยซ้ายตรงกลางเขตโทษบอลลอดขา อับดูโกดีร์ คูซานอฟ เข้าประตูไป
ช่วงท้ายเกม แมนซิตี้ บุกหนักหวังทำประตูตีไข่แตกแต่ยังทำไม่ได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ 2-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังนาที 56 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูเพิ่ม ไรอัน กราเฟนแบร์ก ส่งให้ โดมินิค โซบอสซ์ไล ก่อนจะครอสเข้ามาในเขตโทษให้ เคอร์ติส โจนส์ ยิงจ่อๆเข้าไป แต่ VAR ริบประตูจากจังหวะล้ำหน้าของ โซบอสซ์ไล
นาที 59 แมนซิตี้ ได้ลุ้นจาก เจเรมี่ โดคู วางให้ โอมาร์ มาร์มูช ซัดด้วยซ้ายแต่บอลบิดหนีมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ หลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 64 หลุยส์ ดิอาซ ซัดด้วยขวาเต็มข้อ เอแดร์ซอน ต้องลอยตัวปัดออกไปช่วยให้ทีมไม่เสียประตูเพิ่ม
นาที 71 เจเรมี่ โดคู พักอกก่อนซัดด้วยขวาแต่บอลไปเข้าซองของ อลีสซง เบ็คเกอร์
นาที 85 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ไหลให้ โดมินิค โซบอสซ์ไล ยิงไปติดบล็อกของ อับดูโกดีร์ คูซานอฟ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที ไม่มีฝั่งไหนทำสกอร์เพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 คว้าสามแต้มสำคัญ โดยเป็นการชนะทั้งไปและกับในฤดูกาลนี้ ทำให้ “หงส์แดง” จ่าฝูง แข่ง 27 นัด ชนะ 19 เสมอ 7 แพ้ 1 นัด มีเพิ่ม 64 แต้ม ขยับคะแนนทิ้งห่าง อาร์เซน่อล 11 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วน แมนซิตี้ แข่ง 26 นัด ชนะ 13 เสมอ 5 แพ้ 8 นัด มี 44 แต้มเท่าเดิม อยู่อันดับ 4 ของตาราง
หนสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2015
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ริโก้ ลูอิส, อับดูโกดีร์ คูซานอฟ, นาธาน อเก้, ยอสโก้ กวาดิโอล – นิโก้ กอนซาเลซ, เควิน เดอ บรอยน์ – ซาวินโญ่, ฟิล โฟเดน, เจเรมี่ โดคู – โอมาร์ มาร์มูช
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โคนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก – เคอร์ติส โจนส์, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล -หลุยส์ ดิอาซ
เครดิต pptvhd36.com
เรื่องราวเพิ่มเติม
สลาฟโก้ วินซิช อายุ 62 ปี ผู้ตัดสินชาวสโลวีเนียตัดสินดาร์บี้
คริส ฟรูม แชมป์ตูร์ 4 สมัย ได้รับบาดเจ็บกระดูกไหปลาร้าหัก
มิคาเอลา ชิฟฟริน ชนะประวัติศาสตร์สกีอัลไพน์โลกครั้งที่ 100