ปูตินอ้างว่า ยูเครน อาจอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิง Crocus City Hall ในมอสโก แม้ว่าไอเอสออกมาประกาศว่าเป็นผู้ลงมือ
ปูตินกล่าวอ้างว่า ยูเครน อาจอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิง Crocus City Hall จากความโหดร้ายในครั้งนี้แม้ว่าด้านกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) หรือ ไอเอส ออกมายืนยันว่าเป็นผู้ลงมือ อ่านข่าวเพิ่มเติม
ปูตินอ้างว่า ยูเครน อยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิง แม้ไอเอสยันว่าเป็นผู้ลงมือ
หลังเกิดเหตุการโจมตี เซอร์เก โซบิยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกตัดสินใจสั่งให้ยกเลิกกิจกรรมในที่สาธารณะทั้งหมดในกรุงมอสโกตลอดช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้เสียชีวิตในเหตุร้ายครั้งนี้ด้วย
ในเวลาต่อมาไม่นาน หลายพื้นที่ในรัสเซียก็มีคำสั่งให้ยกเลิกกิจกรรมต่าง ๆ ในจำนวนนั้นคือ เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของรัสเซียอย่าง นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กด้วย
มาเรีย ซาคาโรวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกออกมาประณามต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายดังกล่าว โดยเธอเรียกว่า “อาชญากรรมอันทารุณโหดร้าย”
ด้านทางการยูเครนออกมาให้ข่าวอย่างรวดเร็ว โดยปฏิเสธเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมใด ๆ ในเหตุการโจมตีดังกล่าว ขณะที่เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่ถูกรัสเซียรุกรานอย่างเต็มรูปแบบ
“ไม่ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง สำหรับยูเครน ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกตัดสินกันในสนามรบ” มิคาอิโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เผยแพร่โพสต์ผ่านเทเลแกรม
อีกทั้งเหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 6 วันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งและทำให้เขายังอยู่ในตำแหน่งเป็นสมัยที่ 5 ทั้งนี้ การเลือกตั้งในครั้งนี้มีขึ้นโดยปราศจากคู่แข่งฝ่ายค้านเข้าร่วม จึงทำให้ชาติตะวันตกออกมาประณามว่า เป็นการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์และไม่ยุติธรรม
หน้าจอวิดีโอขนาดใหญ่ที่สุดในรัสเซียอยู่ที่อาร์บัต เพื่อไว้อาลัยซึ่งเป็นอเวนิวแห่งใหม่ของกรุงมอสโก
หน้าจอทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงอุทิศให้กับการไว้ทุกข์ โดยขึ้นเป็นภาพเปลวเทียนพร้อมข้อความภาษารัสเซียว่า “Skorbim” หรือ “เราไว้อาลัย”
ขณะนี้รัสเซียกำลังร่วมไว้อาลัยให้กับเหยื่อจากการสังหารหมู่ในโครคัส ซิตี ฮอลล์ (Crocus City Hall) ขณะนี้ตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่นิ่ง และการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตยังคงดำเนินต่อไป
ทั่วประเทศลดธงชาติรัสเซียลงครึ่งเสา ด้านกิจกรรมบันเทิงและการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ก็ถูกยกเลิก และผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ต่างสวมชุดสีดำ ถึงแม้ว่า Crocus City Hall ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมอสโก แต่นับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่แสดงดนตรีที่โดดเด่นที่สุดในรัสเซีย
การนองเลือดในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตกลับกลายเป็นนรกแทน โดยพบว่าผู้โจมตีไม่ได้สังหารด้วยกระสุนปืนเท่านั้น แต่ยังใช้ไฟร่วมอีกด้วย
พวกเขาจุดไฟเผาตัวอาคาร และจากวิดีโอที่คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียเผยแพร่ออกมาก็ทำให้เห็นการถล่มของหลังคาและคานโลหะลงมา
ด้านตำรวจตรึงกำลังอยู่ภายนอกตัวอาคาร จากจุดที่ผู้สื่อข่าวยืนอยู่ เรามองเห็นเพียงเสี้ยวความเสียหายที่เกิดจากเพลิงไหม้ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรแห่งนี้ นี่เป็นสัญญาณที่บ่งถึงความหายนะที่เกิดขึ้นด้านใน
ในเวลาเดียวกัน ผู้คนกำลังต่อแถวเพื่อวางช่อดอกไม้บริเวณอนุสรณ์สถานชั่วคราวเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากความโหดร้ายในครั้งนี้
ข้าวของผู้ไว้อาลัยมีจำนวนมากจนแทบจะเป็นภูเขาขนาดย่อม ๆ เลยก็ว่าได้เพราะนอกจากดอกกุหลาบและดอกคาร์เนชันแล้ว ผู้คนยังวางตุ๊กตาและของเล่นไว้บนดอกไม้ เนื่องจากในบรรดาผู้เสียชีวิตมีเด็กด้วย พวกเขาเขียนข้อความไว้อาลัยไว้ด้วย หนึ่งในนั้นเขียนสื่อถึงผู้โจมตีก่อเหตุว่า “แกมันกากสวะ เราจะไม่ยอมให้อภัยแกเด็ดขาด”
ฝูงชนมีทั้งความโกรธและความโศกเศร้าต่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น
กลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) หรือ ไอเอส กล่าวอ้างว่าตนอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงดังกล่าวนี้ พร้อมกับเผยแพร่ภาพความรุนแรงที่แสดงถึงการกระทำอันดุเดือดเลือดพล่านของผู้โจมตี
ด้านเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาเผยว่า ไม่มีเหตุผลให้สงสัยคำกล่าวอ้างของกลุ่มไอเอสในครั้งนี้ แต่ปฏิกิริยาของรัสเซียกลับต่างออกไป ทางการรัสเซียพยายามนำเสนอแนวคิดที่ระบุว่า ยูเครนอยู่เบื้องหลังการโจมตีที่โหดร้ายและทารุณครั้งนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
จากคำปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวอ้างว่ามีมือปืนทั้ง 4 คน ถูกจับกุมขณะพยายามหลบหนีไปยังยูเครน โดยเขากล่าวว่า “มีการเปิดช่องทางเตรียมรองรับพวกเขาแล้ว หากพวกเขาข้ามพรมแดนเข้าไปในยูเครนได้”
ทางรัฐบาลยูเครนออกมาปฏิเสธทันที แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นักวิจารณ์ผู้สนับสนุนรัฐบาลรัสเซียหยุดส่งต่อแนวคิดที่ว่า การโจมตีนี้มีความเชื่อมโยงกับยูเครน
บนเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ มอสคอฟสกี คอมโซโมเลต์ (Moskovsky Komsomolets) เป็นสื่อสนับสนุนรัฐบาล ได้ตีพิมพ์บทความที่มีแนวคิดเพื่อต่อต้านยูเครนในหัวข้อว่า
“ควรประกาศให้ยูเครนเป็นรัฐก่อการร้าย” ซึ่งมีบทสรุปว่า “ถึงเวลาทำลายระบอบการปกครองของเคียฟแล้ว… พวกแก๊งนั้นต้องตายให้หมด รัสเซียมีทรัพยากรเพียงพอที่จะทำสิ่งนี้”
นี่อาจจะทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า เครมลินจะตอบสนองต่อเหตุโจมตีอันรุนแรงนี้อย่างไร ผู้นำรัสเซียกำลังวางแผนใช้โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่โครคัส ซิตี ฮอลล์ เพื่อยกระดับความรุนแรงสงครามของรัสเซียในยูเครนหรือไม่ ?
เครดิต BBC.COM
เรื่องราวเพิ่มเติม
ขนม ศศิกานต์ ประกาศแยกทาง ครูเต้ย หลังเพิ่งคลอดลูกคนที่ 2
รวงข้าว ญาตาวีมินทร์ ยังแรงต่อเนื่องลิ่วรอบ 8 คนแบดมินตัน
เหรียญ USDT เครื่องมือฟอกเงิน ดิไอคอน ไข 1 คำถามตามยากจริง?