11 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ Switzerland เป็นเมืองในฝันของใครหลายคน
11 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ไปสัมผัส เมืองแห่งฝันดั่งเทพนินาย
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ ผลข่าว.COM
11 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ 1. Lauterbrunnen เลาเทอร์บรุนเนิน
หมู่บ้านในรัฐเบิร์นของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวใน 11 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) แปลว่า Many Fountains ซึ่งเป็นการบ่งบอกให้เห็นถึงทิวทัศน์ของเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี มีน้ำตกที่สูงที่สุดในยุโรป นั้นคือน้ำตก Staubbach ที่ดิ่งลงมาจากหน้าผาเกือบ 300 เมตร เลยทีเดียว และมีน้ำตกเยอะมากถึง 72 แห่งในหุบเขา
ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบตั้งอยู่กลางหุบเขาที่สูงชัน อยู่ลึกเข้ามาจากเมืองอินเทอร์ลาเคินราว 12 กิโลเมตร ที่นี้ยังเป็นทางผ่านไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ในแถบเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยทัศนียภาพทั้งธรรมชาติที่สวยงามจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งที่ต้องมาให้ได้!
2. Fribourg ฟรีบูรก์
ฟรีบูรก์ (Fribourg) เป็นเมืองเล็กๆ ที่เก่าแก่ของสวิต เป็นเมืองแห่งปราสาท สามารถแวะถ่ายรูปได้หลายจุด อยู่ระหว่างทางไปเมืองโลซาน ไฮไลท์ของเมืองนี้คือ Zaehringen Bridge เป็นสะพานเก่าแก่ที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำซารีนค่ะ
ฟรีบูรก์ เป็นเมืองที่ถูกคั่นกลางด้วยแม่น้ำซารีน โดย 2 ฝั่งแม่น้ำจะพูดกันคนละภาษา คือ สวิส-ฝรั่งเศส และสวิส-เยอรมัน หมู่บ้านนี้ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นยุคกลาง ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีเสน่ห์ และมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามมากๆ อีกด้วย
3. Zermatt เซอร์แมท
เซอร์แมท (Zermatt) เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักๆ มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก สามารถเดินเที่ยว และถ่ายรูปชิคๆ ได้โดยที่ไม่เหนื่อย ถนนสายหลักอย่าง Bahnhof strasse ซึ่งแปลได้ว่า ถนนแถวสถานีรถไฟ ตั้งชื่อตรงตัว เพราะเป็นถนนที่ทอดตรงมาจากสถานีรถไฟของเมืองนั่นเอง
ถ้าพูดถึงเมืองนี้ก็ต้องนึกถึงจุดชมวิว Matterhorn ยอดเขารูปทรงพีรามิดที่อยู่ในหมู่เทือกเขาแอลป์ ซึ่งที่นี่จะมีการเล่นสกีหิมะ สนุกฟินแน่นอน ลักษณะบ้านที่นี่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นชาวสวิสแบบดั้งเดิมไว้ด้วย
4. Interlaken อินเทอร์ลาเคน
อินเตอร์ลาเคน (Interlaken) อยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบ คือ ทะเลสาบเบรียนซ์ และทะเลสาบทูน มีทางขึ้นยอดเขาธารน้ำแข็งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จึงเป็นสถานที่ยอดฮิตของคนรักการเล่นสกี ที่เมืองนี้จะถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า และทะเลสาบ
นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นยอดเขา 3 แห่ง คือ ยอดเขาจุงฟราวน์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 4,158 เมตร ยอดเขามอนซ์ และยอดเขาอีเกอร์ แถบนี้จะมีอากาศบริสุทธิ์ และสวยงามเกินจะบรรยายได้ ไม่แปลกที่จะเรียกว่า “สวยเหมือนเมืองในฝัน” สมคำล่ำลือ
5. Geneva เจนีวา
เจนีวา เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งรองจากเมืองซูริค ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นเมืองนานาชาติ ก็เพราะมีประชากรถึง 1 ใน 3 ล้วนเป็นชาวต่างชาติที่ทำงานในองค์กรสำคัญๆ ที่ตั้งอยู่ ณ เจนีวาทั้งสิ้น เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN), คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินของโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เจนีวา ก็ไม่ได้มีแค่สถานที่สำคัญด้านองค์กรต่างๆ เท่านั้น แต่ยังมีที่เที่ยวแลนด์มาร์คที่ยังคงน่าสนใจที่แขกไปใครมาก็ต้องแวะหลายแห่ง เช่น ทะลสาบเจนีวา ชมน้ำพุเจ็ดโด (Jet d’eau) เป็นน้ำพุยักษ์ที่มีความสูงถึง 140 เมตร ย่านเมืองเก่าเจนีวา (Old Town) ที่ให้คุณได้เดินเล่นสัมผัสบรรยากาศบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์โรมัน รวมไปถึงต้องแวะชิมชีสฟองดูว์ที่โรงแรม Edelweiss หนึ่งในร้านอาหารดั้งเดิมของเจนีวา
6. Lausanne โลซานน์
โลซานน์ (Lausanne) เป็นอีกหนึ่งเมืองเล็กน่ารักริมทะเลสาบใน สวิตเซอร์แลนด์ ที่คนไทยคุ้นหูกับชื่อของเมืองนี้เป็นอย่างดี ผู้คนในเมืองส่วนใหญ่ยังใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก
โลซานน์เป็นเมืองที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการโอลิมปิคสากล หรือ IOC และมีพิพิธภัณฑ์โอลิมปิคตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวาด้วย จึงทำให้เมืองโลซานน์ได้รับการขนานนามว่า “เมืองหลวงแห่งโอลิมปิค” นั่นเอง
7. Bern เบิร์น
เบิร์น (Bern) เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ หรือเมืองหมีนั่นเอง (คำว่า Bern แปลว่า Bear หรือหมีนั่นเอง) เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่งดงาม น่าหลงใหลที่สุดของสวิสเลยแหละ
เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองหลวง จึงมีความเจริญตามสไตล์ศูนย์กลางของประเทศ และมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ที่ทำให้กรุงเบิร์นขึ้นชื่อจริงๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นเขต Old Town หรือเขตเมืองโบราณยุคกลางที่สวยงาม แถมมีความสมบูรณ์ เป็นสถานที่ที่ทำให้สถานที่นี่มีเสน่ห์น่าค้นหา ฟินไปกับการเดินชมวิวเมืองเพลินๆ จนลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียวเชียว
8. Montreux มงเทรอซ์
ที่สุดของเมืองตากอากาศของสวิสที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางที่โรมันใช้สัญจรผ่าน ใครที่ชอบความเนิบๆ ช้าๆ เที่ยวพักผ่อนแบบไม่เร่งรีบน่าจะถูกใจเมืองนี้เป็นพิเศษ
ที่มงเทรอซ์แม้ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรให้ทำมากมายเท่าเมืองอื่นๆ แต่การได้เดินเล่นริมทะเลสาบ ล่องเรือชมบรรยากาศ แวะชมปราสาทชิลยอง (Chillon Castle / Château de Chillon) มีประวัติที่ยาวนานเกือบ 1,000 ปี รับรองได้ว่าคุณต้องได้ชาร์จความเมื่อยล้าเป็นปลิดทิ้งแน่นอน
9. Lucerne ลูเซิร์น
ลูเซิร์น (Lucerne) เป็นอีกหนึ่งหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีความเจริญเอามากๆ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เพราะการติดต่อค้าขายกับอิตาลี ตัวเมือง Lucerne นั้นเคยถูกนำไปขายให้กับราชสำนักฮับสบูรก์ของออสเตรียในปี ค.ศ. 1291 ด้วย แต่ได้กลับคืนมาอยู่ในมณฑลเดิมในปี ค.ศ. 1332
Lucerne นั้นมีที่เที่ยวโบราณเก่าแก่อยู่มากมาย แต่ที่โด่งดังมากที่สุดเห็นจะเป็น สะพานไม้ซาเปล สะพานไม้เก่าแก่ที่สุดในโลก อายุเกือบ 700 ปี ทอดข้ามแม่น้ำรอยส์จากสถานีรถไฟไปสู่ฝั่งเมืองเก่า มีหลังคาที่เป็นแบบโบราณ เชื่อมต่อไปถึงป้อมแปดเหลี่ยมที่ตั้งอยู่กลางน้ำ แต่ก่อนเคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ และเก็บเอกสารรวมทั้งของมีค่าของเมือง อีกสถานที่สำคัญก็คือ ทะเลสาบ Lucerne ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานที่สวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ด้วย รอบๆ ทะเลสาบนั้นยังมีเส้นทางการเดินป่ามากมาย รวมทั้งเส้นทางขี่จักรยานที่พื้นราบ และเส้นทางจักรยานภูเขาไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบแนวผจญภัยอีกด้วย
10. Thun ธูน
ธูน Thun เรียกได้ว่าเป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารักริมทะเลสาบโดยแท้จริง ใครใฝ่ฝันอยากเดินเที่ยวเมืองที่เงียบ สงบ และยังมีปราสาทสูงตั้งอยู่กลางเมือง คุณจะหลงรักที่นี่ ด้วยความที่เป็นเมืองเล็กเลยทำให้หลายๆ คนตั้งเป้าว่าเที่ยวที่นี่แบบ One Day Trip เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมาพักที่นี่ได้จะฟินมาก ใช้ชีวิตสบาย ๆ เดินเล่นริมทะเลสาบน้ำใส อากาศดี หลายๆ คนเรียกที่นี่ว่าเป็นเมือง Lucerne แบบย่อส่วน ทั้งที่ความจริงแล้วที่เมืองนี้ก็มีเสน่ห์ต่างออกไป ไม่แพ้กันเลย
เดินทางออกจากเมืองไม่นาน จะมีอีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญของที่นี่ นั่นคือปราสาทสวย ที่สุดแสนจะโรแมนติกริมทะเลสาบ Thun ชื่อว่า Oberhofen castle เป็นปราสาทเก่ารูปแบบสถาปัตยกรรมนีโอโกธิคที่ได้รับการยกให้เป็นหนึ่งในปราสาทที่คลาสสิกที่สุดในแถบเทือกเขาแอลป์เลยค่ะ
11. Gruyeres กรุยแยร์
กรุยแยร์ เมืองเล็กกลางหุบเขาทางตะวันตกของสวิตเซอร์แลนด์ ใครชอบกินชีสน่าจะคุ้นหูกับชื่อเมืองนี้เป็นพิเศษ เพราะเขาเป็นเมืองต้นกำเนิดของชีสกรุยแยร์นั่นเอง เป็นชีสที่ว่ากันว่าเอาไปทำฟองดูได้ดีที่สุดเลยแหละ สำหรับตัวเมืองก็น่าเที่ยวไม่แพ้กัน ปราสาทเก่าสมัยศตวรรษที่ 13 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติด้วย เพราะมีย่านเก่าบรรยากาศแบบยุคกลาง พื้นที่ปูด้วยหินอ่อน บ่อน้ำกลางเมือง และปราสาทกรุยแยร์ Gruyeres Castle เป็นเมืองที่เหมาะกับคนที่ชอบความสโลว์ไลฟ์ เดินชมเมืองแบบสบายๆ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ แวะชิมชีสอร่อยๆ ไปเรื่อยๆ ตลอดทาง
เครดิต TRUEID.NET
เรื่องราวเพิ่มเติม
แบนเกาหลีได้ผล สาเหตุนักท่องเที่ยวไทยเซ็ง ตม. ทำลดฮวบ 21.1%
บาหลี เก็บภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ดอลลาร์บาหลี
แม่เต่ามะเฟือง สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์วางไข่รังที่ 10 ของฤดู