ลิเวอร์พูล เข้าไปป้องกันแชมป์ หลังเปิดบ้านพลิกกลับมาถล่ม สเปอร์ส 4-0 ทำให้รวมผลสองนัดชนะ 4-1 ผ่านเข้าชิง คาราบาว คัพ ไปพบกับ นิวคาสเซิ่ล
ควีวิน เคลเลเฮอร์ ได้ลงเฝ้าเสาแทน อลีสซง เบ็คเกอร์ ส่วน คอนอร์ แบรดลี่ย์ ได้ลงแทน เคอร์ติส โจนส์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ได้สตาร์ตแทน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ หลุยส์ ดิอาซ อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
อาร์เน่อ สล็อต แชมป์เก่าที่พาลิเวอร์พูล บุกไปแพ้เกมแรก 0-1 เกมนี้ปรับทัพ 4 ตำแหน่งจากนัดชนะ บอร์นมัธ 2-0
แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือสเปอร์ส ส่ง เควิน ดันโซ่ ปราการหลังที่ยืมมาจากล็องส์ สตาร์ตทันที โดย อาร์ชี่ เกรย์ ได้ยืนแบ็คขวา แทน เปโดร ปอร์โร และ ป๊าป ซาร์ ที่ยิงประตูในเกมเบรนท์ฟอร์ด ได้สตาร์
นาทีที่ 7 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูขึ้นนำ แต่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงไปแฉลบแนวรับ สเปอร์ส ดีที่ อันโตนิน คินสกี้ รับไว้ได้
นาทีที่ 30 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จ่ายให้ โดมินิค โซบอลซ์ไล ยิงตามน้ำเข้าไปแต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้า
นาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เปิดบอลไซด์จากข้างเท้าด้านนอกจากทางขวา บอลผ่านหน้าประตู ดาร์วิน นูนเญซ พยายามเตะจักรยานอากาศ และเลยมาถึง โคดี้ กัคโป ยิงผ่านมือ อันโตนิน คินสกี้ ที่เสาสองเข้าไป ทำให้สกอร์รวมเวลานี้เท่ากัน 1-1
นาทีที่ 44 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูที่ 2 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้วอลเลย์ด้วยซ้าย บอลกระเด้งลงพื้นข้ามคานออกไป
ช่วงทดเจ็บนาที 45+1 ริชาร์ลิซอน เจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง มาติส แตล แข้งใหม่ลงไปแทน จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำเพียง 1-0
กลับมาครึ่งหลังนาที 46 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กะยิงยัดเสาแรกแต่ อันโตนิน คินสกี้ ยังปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 49 อันโตนิน คินสกี้ ออกมาพลาดคว้าขา ดาร์วิน นูนเญซ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และก็เป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงเข้าไปในนาที 51 และเป็นประตูที่ 26 ในทุกรายการฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ขยับนำ 2-0 สกอร์รวม 2 นัด แซงนำ 2-1
นาทีที่ 60 โคดี้ กัคโป เปิดเข้ากลางมาให้ โดมินิค โซบอลซ์ไล ที่ไม่มีตัวประกบได้โหม่ง แต่บอลเบาตรงตัว อันโตนิน คินสกี้
นาทีที่ 62 โคดี้ กัคโป ยิงทะแยงมุม อันโตนิน คินสกี้ ปัดไปชนเสา ได้เพียงเตะมุมเท่านั้น
นาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูที่ 3 แต่ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ปั่นด้วยขวาบอลโค้งชนเสา
นาทีที่ 75 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นมาจ่ายให้ คอนอร์ แบรดลี่ย์ แตะต่อให้ โดมินิค โซบอลซ์ไล ยิงให้ ลิเวอร์พูล นำ 3-0 ทำให้สกอร์รวม หนีเป็น 3-1
นาทีที่ 78 สเปอร์ส มีโอกาสดีที่สุดของเกมนี้แต่ ซน ฮึง มิน ยิงด้วยซ้ายบอลชนคาน
นาทีที่ 80 จากจังหวะเตะมุม เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ขึ้นโหม่งคนเดียวให้ ลิเวอร์พูล นำ 4-0 และเป็นประตูที่ 3 ในฤดูกาลนี้ของกัปตันทีมชาวดัตช์ ทำให้สกอร์รวมเวลานี้ ลิเวอร์พูล นำ 4-1
ช่วงเวลาที่เหลือ ลิเวอร์พูล เน้นครองบอลเผาเวลาให้หมดไป จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ 4-0 สกอร์รวม 2 นัด ชนะ 4-1 ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์คาราบาว คัพ โดยจะพบ นิวคาสเซิ่ล ในวันที่ 16 มีนาคม ที่เวมบลีย์
ผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ – คอนอร์ แบรดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ไรอัน กราเฟนแบร์ก, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอลซ์ไล, โคดี้ กัคโป – ดาร์วิน นูนเญซ
สเปอร์ส (4-3-3) : อันโตนิน คินสกี้ – อาร์ชี่ เกรย์, เควิน ดันโซ่ ,เบน เดวิส, เจด สเปนซ์ – อีฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนตานคูร์, ป๊าป ซาร์ – เดยัน คูลูเซฟสกี้, ริชาร์ลิซอน, ซน ฮึง มิน
เครดิต pptvhd36.com
เรื่องราวเพิ่มเติม
แดเนียล ดูบัวส์ วัย 27 ปี ยังคงมุ่งมั่นในการรีแมตช์ที่อูซีก
วีนัส วิลเลียมส์ อดีตนักเทนนิสมือ 1 ปฏิเสธสิทธิ์ไวลด์การ์ด
แอนนา นอร์ดควิสต์ วัย 37 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมยุโรป