สรวงศ์ เตรียมเจรจา ดอร์น่า สปอร์ต 1-2 เดือนนี้ ต่อสัญญา MotoGP หวังต่อยาว 5 ปี ลดค่าลิขสิทธิ์ พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่บุรีรัมย์ ที่สร้างประโยชน์ให้ประเทศไทย
โดยเรื่องของกีฬาแบ่งเป็นสองอย่างคือ 1.กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ คือเด็กและเยาวชน ที่เป็นนักกีฬาทีมชาติ 2.กีฬาอาชีพ เช่น มอเตอร์สปอร์ต หรือกีฬาประเภทใดก็แล้วแต่ที่ทำอาชีพ ดังนั้น หากภาครัฐคิดจะช่วยในการตั้งไข่จัดกิจกรรมต่างๆ ได้ และร่วมงานกับภาคเอกชน อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าการต่อสัญญาการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ MotoGP ระบุว่า เรื่องของตัวเลขมีความชัดเจน ว่าภาครัฐให้การสนับสนุนมากขึ้นทุกปี
นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า เรื่องของ MotoGP ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาที่ประเทศไทยได้จัดการแข่งขัน โดยภาพรวมแล้วคนไทยได้ประโยชน์ แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการขณะนี้ ซึ่งมีเวลาการเจรจากับบริษัทดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ MotoGP เขาก็รอให้เราเจรจา และกำลังจะเริ่มในเร็วๆ นี้
โดยเรามีความต้องการที่จะต่อสัญญาอีก 5 ปีเหมือนครั้งที่แล้ว และจะมีสิทธิประโยชน์หรือเอื้อประโยชน์ให้กับทางไทยได้หรือไม่ ในฐานะที่ภาครัฐให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ต้องไปพูดคุยกับภาคเอกชน ในการช่วยสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อให้ภาครัฐเบาภาระลงไป
ส่วน มีข้อมูลอะไรที่ต้องการเพื่อไปเจรจาหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเจรจาทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเป็นลูกค้าเดิม และทำสัญญากับบริษัทดอร์น่า สปอร์ต มาโดยตลอด ซึ่งหากเราจะต่อสัญญา ทุกครั้งก็ต้องมีการพูดคุย เพราะหากไม่พูดคุย ก็อาจทำให้ประเทศเสียผลประโยชน์ เช่นเรื่องสิทธิประโยชน์ การลดค่าลิขสิทธิ์
โดยเฉพาะจากเดิมที่เพิ่มขึ้นปีละ 5% ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องผ่านการพูดคุยในช่วงต่อสัญญา ยืนยันว่า การจัดอีเว้นท์แบบนี้ จะทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้จริง
นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า ขออย่าไปแยกระหว่างการจัดการแข่งขันรถสูตร 1 (ฟอร์มูลาวัน) กับ MotoGP ว่าเป็นคนละตลาดกัน ตนมองว่าหากจัดควบคู่กันได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมที่จะจัดทั้ง 2 อย่าง และมีนักแข่งไทย
ใช้ธงชาติไทย แข่งขันอยู่ในฟอร์มูลาวัน ก่อนที่นายสมเกียรติ จันทรา หรือ “ก้อง สมเกียรติ” จะลงแข่งขันใน MotoGP ก่อนที่ก้องจะมาขับ MotoGP ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ไม่ไกลเกินฝันสําหรับคนไทย
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า หากต่อสัญญา MotoGP จะเป็นผลดีต่อประเทศไทย ซึ่งหากไม่ต่อสัญญา จะเสียผลประโยชน์ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องคุยในรายละเอียด โดยส่วนตัว ตนและนายกรัฐมนตรี มีความประสงค์ที่จะต่อสัญญา แต่ช่วงนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งการต่อสัญญาจะยังคงใช้ในสนามแข่งขันเดิมที่ จ.บุรีรัมย์ เพราะมีสนามเดียวในประเทศไทย
ส่วน เวลาที่เหลืออยู่ 1 ปี บริษัทดอร์น่า สปอร์ต จะยังรอการตอบรับจากไทยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ายังคงรออยู่ ซึ่งขณะนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังพูดคุยอยู่โดยตนมอบหมายให้รองผู้ว่า กกท.ไปพูดคุยเบื้องต้น และตนก็จะไปพูดคุยกับบริษัทดอร์น่า สปอร์ต และภาคเอกชนด้วย
เพื่อดูว่ามีอะไรสนับสนุนภาครัฐได้บ้าง เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา มีผู้รับประโยชน์และประสบความสำเร็จในการแข่งขัน MotoGP ที่สามารถดึงลูกค้ามาได้เยอะพอสมควร
ผู้สื่อข่าวได้ว่าเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับคนใหญ่คนโตใน จ.บุรีรัมย์ ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวด้วยนํ้าเสียงหนักแน่นว่า ไม่เกี่ยว ซึ่งความจริงแล้วต้องขอบคุณท่านด้วยซํ้า เพราะเป็นบุคคลตัวตั้งตัวตีที่นำ MotoGP เข้ามาในประเทศไทย และก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล แต่ด้วยข้อจำกัดที่ประเทศไทย ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยของ FIM เพียงสนามเดียว หากจะทำสนามใหม่หรือทําเพิ่ม ต้องพูดคุยกันอีกระยะยาว
ส่วน หากต่อสัญญา คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดเท่าไหร่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตัวผู้จัดการแข่งขันและภาครัฐ ไม่ได้คำนึงถึงกำไร เพราะหากดูในหลายประเทศที่จัดการแข่งขัน ตัวภาครัฐจะไม่ได้กำไรในตัวเอง แต่ภาพรวมจะเกิดเม็ดเงินสะพัด อย่างการแข่งขัน MotoGP 1 รายการ จะเกิดเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 5-6 พันล้านบาท
แต่ทั้งหมดนี้ต้องเกิดการพูดคุย ซึ่งคาดว่าจะภายใน 1-2 เดือน ซึ่งปีนี้โชคดี ที่ไทยได้รับเกียรติเป็นสนามเปิดการแข่งขัน จะสังเกตได้ว่าปีนี้มีกิจกรรมในกรุงเทพฯ ค่อนข้างเยอะ ทั้งการเปิดตัว การจองบัตร
นายสรวงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ ให้การแข่งขัน MotoGP ยังอยู่คู่กับคนไทย และจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับคนไทยทุกคน ขอให้มั่นใจได้ เพราะตนเองก็เป็นแฟนมอเตอร์สปอร์ตคนหนึ่ง ที่ยังอยากจะมีรายการนี้ในประเทศไทย
เครดิต pptvhd36.com
เรื่องราวเพิ่มเติม
คาลัม ฮิลล์ วัย 30 ปี เล็งการ์ด PGA Tour หลังคว้าชัยชนะ
อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช วัย 30 ปีพลาดการฝึกซ้อมกับทีมอัล ฮิลาล
ลอร่า ทร็อต อายุ 32 ปี กังวล เกี่ยวกับอนาคตของการแข่งขัน