วิน เมธวิน ย้อนรอยเส้นทางนักแสดงซีรี่ส์ Y สู่แบรนด์แอมบาสเดอร์ PRADA
สำหรับ วิน-เมธวิน แม้ว่าเขาจะเพิ่งเข้ามาชิมลางในวงการบันเทิงไทยได้ไม่นาน ทว่าความสำเร็จในวงการแฟชั่นระดับโลกก็พิสูจน์แล้วว่า ความสามารถและความพยายามของเขาไม่เคยสูญเปล่าเลย อ่านข่าวเพิ่มเติม
ในช่วง 3-5 ปีมานี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักนักแสดงหนุ่มมากความสามารถเพียงวัย 20 ต้น ๆ อย่าง วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จในด้านงานแสดงเท่านั้น แต่ล่าสุดหนุ่มวินยังได้ถูกประกาศแต่งตั้งจากแบรนด์แฟชั่นระดับโลก
อย่าง PRADA ให้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก หลังจากที่ร่วมงานกับแบรนด์มานานแรมปี ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จของนักแสดงไทยบนอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลกที่น่าจับตามองไม่น้อย
วิน-เมธวิน คือหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งชาวไทย ที่เริ่มต้นกรุยทางด้านงานบันเทิงด้วยการเป็นหนึ่งในเด็กฝึกหัดในสังกัดของช่อง One31 ที่เคยปรากฏตัวมาแล้วในละครดังอย่าง เมีย 2018 ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้ ก่อนที่หลังจากนั้นวินจะย้ายมาเซ็นสัญญากับ
สังกัด GMM Grammy ที่มีผลงานแรกอย่างซีรี่ส์ Y เรื่อง คั่นกู เดอะ ซีรี่ส์ ในบทบาทตัวละคร ไทน์ คู่กับ ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี ซึ่งโด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่ตอนแรกที่ออกฉายกันเลยทีเดียว
ส่งผลให้เกิดกระแสตอบรับดีมากของ #ไบร์ทวิน ครองเมืองจนถึงตอนนี้ กระทั่งที่ซีรี่ส์เรื่องดังกล่าวยังต้องมีภาคต่อในชื่อ เพราะเรา(ยัง)คู่กัน และเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ในชื่อ เพราะเราคู่กัน เดอะมูฟวี่ ที่ประสบความเร็จทั้งในด้านของกระแสนิยมและทำรายได้มหาศาล
สิ่งที่เห็นในตัว วิน-เมธวิน คือการไม่หยุดพัฒนาตัวเองพร้อมเปิดใจทำอะไรใหม่ ๆ เสมอ เช่นการโดดมาร้องเพลงประกอบซีรี่ส์คู่กับไบร์ทอย่างเพลง ยังคู่กัน Still Together และซิงเกิ้ลเดี่ยวอย่าง “คนนั้นต้องเป็นเธอ” ที่ประสบความสำเร็จตามตัวซีรี่ส์ไปแบบไม่ผิดคาด และผลงานอื่น ๆ อีกมาหมาย
กระทั่งที่ล่าสุด วิน-เมธวิน ได้โอกาสสร้างปรากฏการณ์ในพื้นที่ของวงการแฟชั่นทั้งไทยและเทศ แต่ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นการเดินทางไปชมโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2023 ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ในฐานะแขกคนสำคัญของแบรนด์ PRADA บนที่นั่งฟรอนต์โรว์ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มทางโซเชียลมีเดียให้กับแบรนด์ไปสูงสุดถึง 942 ล้านบาท
ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำแบรนด์ ด้วยกระแสนิยมอันท่วมท้นทั่วโลกที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเส้นทางความสำเร็จบนเวทีโลกของเด็กผู้ชายคนนี้ยังอีกยาวไกลแน่นอน