กราดยิงสหรัฐ มือปืนหญิงกราดยิงโรงเรียน
มือปืนหญิงก่อเหตุ สังหารเด็กเล็กและครูที่โรงเรียนประถมในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ของสหรัฐฯ พบว่าเธอซื้อปืน 7 กระบอกดังกล่าวมาอย่างถูกกฎหมาย และซ่อนไว้ที่บ้าน ก่อนนำมาก่อเหตุ อ่านข่าวเพิ่มเติม
กราดยิงสหรัฐ : ตำรวจยังเผยว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ "อยู่ใต้การดูแลของแพทย์จากความผิดปกติทางอารมณ์"
เจ้าหน้าที่ได้ระบุเพิ่มว่า พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุรู้สึกว่า ลูกสาววัย 28 ปี ไม่ควรครอบครองปืน และไม่ทราบว่าลูกของตนซื้อปืนมาซุกซ่อนอยู่ที่บ้าน
ย้อนกลับไปเมื่อกลางดึกของวันที่ 27 มี.ค.66 ตามเวลาในไทย มือปืนหญิงวัย 28 ปี พร้อมอาวุธครบมือ พบปืนไรเฟิลจู่โจม 2 กระบอก และปืนพกอีก 1 กระบอก โดยบุกเข้าไปในโรงเรียนคริสเตียน โคเวแนนท์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมเอกชน ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซีของสหรัฐฯ
โฆษกตำรวจแนชวิลล์ แถลงข่าวว่า มือปืนผู้ก่อเหตุขับรถมายังอาคารโรงเรียน ก่อนบุกเข้าไปในโรงเรียนก่อนยิงปืนใส่ประตูกระจกข้างโรงเรียน แล้วเข้าไป ก่อนจะเดินไปตามอาคารเรียน และเปิดฉากกราดยิงในทันที
ตำรวจเผยชื่อผู้ก่อเหตุ ชื่อ ออดรีย์ เฮล และระบุว่า เป็นหญิงข้ามเพศ โดยเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุเคยเป็นอดีตนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนก่อเหตุ ออดรีย์ เฮลได้เข้ามาดูลาดเลา และสำรวจพื้นที่รอบ ๆ ของโรงเรียน วาดแผนที่ เอาไว้อีกด้วย
โฆษกตำรวจระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้พุ่งเป้าเพื่อสังหารใครเป็นพิเศษ แต่ตั้งใจโจมตี “โรงเรียน และอาคารโบสถ์แห่งนี้”
เข้าจัดการเหตุกราดยิงสหรัฐได้ใน 15 นาที
หลังได้รับแจ้งเหตุ เวลา 22.13 น. ตามเวลาในประเทศไทย หรือ 10.13 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจได้เร่งรุดเข้าไปยังโรงเรียนดังกล่าว และยิงต่อสู้กับคนร้าย ก่อนตัดสินใจยิงวิสามัญฯ คนร้ายในจุดเกิดเหตุ โดยตำรวจยิงคนร้ายเสียชีวิตในเวลา 10.24 น. “รวมแล้วใช้เวลาควบคุมสถานการณ์เพียง 15 นาที หลังได้รับแจ้งเหตุ”
ส่วนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ตำรวจยืนยันว่ามี 6 คน เป็นเด็กอายุ 9 ขวบ 3 คน และอีก 3 คน เป็นพนักงานของโรงเรียนอายุ 60-61 ปี
ภาพจากสื่อสหรัฐฯ แสดงให้เห็นเด็กเล็กจับมือกัน วิ่งหนีออกมาจากโรงเรียน เด็กหลายต่างคนร้องไห้จากเหตุดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่พาพวกเขาออกจากจุดเกิดเหตุ
อีกด้านตำรวจพบแผนที่โรงเรียน และแถลงการณ์ของผู้ก่อเหตุที่เชื่อมโยงกับเหตุกราดยิงในครั้งนี้ด้วย ภายหลังเข้าตรวจค้นบ้านของคนร้าย
จาการสอบสวนแรงจูงใจการก่อเหตุ จากหลักฐานที่พบในบ้านผู้ก่อเหตุพบว่า ผู้ก่อเหตุมีเป้าหมายที่สองในใจ แต่ตัดสินใจโจมตีโรงเรียนแทน เพราะเป้าหมายที่สองมีการรักษาความปลอดภัยที่สูงกว่า
พ่อแม่ของ ออดรีย์ เฮล ที่ก่อเหตุ ระบุว่า เชื่อว่าลูกสาวมีปืนเพียงกระบอกเดียว และได้ขายไปแล้ว พวกเขาเชื่อว่า ลูกไม่ควรครอบครองปืน และไม่ทราบเลยว่าลูก “ซุกซ่อนปืนไว้ในบ้านหลายกระบอก” ตำรวจพบว่า ปืนเหล่านี้ถูกซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย จากร้านขายปืน 5 แห่งทั่วเมือง
ผู้ปกครองกระวนกระวายใจ
หลังเกิดเหตุ รถตำรวจและรถฉุกเฉินหลายสิบคันต่างเข้ามาจอดอยู่โดยรอบโรงเรียนแห่งนี้ ท่ามกลางประชาชนและผู้ปกครองที่เข้ามาเฝ้ารอนานกว่า 1 ชั่วโมง ว่า บุตรหลานของตนปลอดภัยหรือไม่
ซาราห์ ชูฟ นูแมน หนึ่งในผู้ปกครอง กล่าวว่า เขาต้องรอนานถึง 3 ชั่วโมง โดยที่ “ไม่รู้ว่าใครเสียชีวิตบ้าง… เราต้องรอลูก ๆ ของเรา”
นับแต่เริ่มปี 2023 มีเหตุกราดยิงโดยมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 4 คน ในสหรัฐฯ ถึง 131 ครั้ง จากข้อมูลของ คลังข้อมูลความรุนแรงจากปืน หรือ Gun Violence Archive
เหตุกราดยิงในสหรัฐฯ ภายในโรงเรียนเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้น อย่างน่าวิตกกังวล ทางประเทศที่การหาซื้อปืนนั้นทำได้ง่าย และประชาชนจำนวนมากมีปืนในครอบครอบ อย่างไรก็ดี กรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิง ถือว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวแถลงการณ์ถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นนี้ว่า “เป็นเรื่องที่บ้าคลั่ง” และความรุนแรงจากอาวุธปืนกำลังฉีกทึ้ง “จิตวิญญาณ” ของประเทศ พร้อมร้องขอให้สภาคองเกรสผ่านกฎหมายห้ามจำหน่ายอาวุธปืนจู่โจม ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุกราดยิงที่บ่อยครั้ง
เครดิต BBC.COM
เรื่องราวเพิ่มเติม
ขนม ศศิกานต์ ประกาศแยกทาง ครูเต้ย หลังเพิ่งคลอดลูกคนที่ 2
รวงข้าว ญาตาวีมินทร์ ยังแรงต่อเนื่องลิ่วรอบ 8 คนแบดมินตัน
เหรียญ USDT เครื่องมือฟอกเงิน ดิไอคอน ไข 1 คำถามตามยากจริง?