22/11/2024

ผลข่าว ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด

ผลข่าว อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด 24 ชั่วโมง

Burning Sun 2 นักข่าวหญิงสาวไส้วงการ K-POP มุมมืดความอื้อฉาว

Burning Sun

Burning Sun ที่สุดของความอื้อฉาววงการ K-POP นักข่าวหญิงสองคนออกมาแฉมุมมืดความยุติธรรมที่บิดเบี้ยวของสังคมเกาหลี

คดี Burning Sun นับว่าเป็นคดีอื้อฉาวในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้องกับไนต์คลับชื่อดัง Burning Sun ในย่านกังนัม กรุงโซล โยมีอดีตสมาชิกวง Bigbang ซึงรี เคยเป็นหุ้นส่วนของไนต์คลับแห่งนี้ด้วย อ่านผลข่าวเพิ่มเติม

นักข่าวหญิง 2 คน ของเกาหลีใต้ออกมาเปิดโปง คดี Burning Sun และนำตัวศิลปิน K-POP ชื่อดัง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กลับต้องจ่ายด้วย “ราคามหาศาล” จากการเผยแพร่ความจริง

Burning Sun
นักข่าวหญิง คัง คยอง-ยุน ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีเป็นปี ๆ หลังเธอเผยแพร่รายงานข่าวออกไป

ชีวิตของสองนักข่าวหญิงในเกาหลีใต้ พัค ฮโยซิล และคัง คยอง-ยุน ต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจเมื่อพวกเธอได้เข้าไปช่วยเปิดโปงคดีอื้อฉาวทางเพศที่เกี่ยวข้องกับวงการ K-POP ผู้มีชื่อเสียง โดยพวกเธอไม่รู้เลยสักนิดว่า การแสวงหาความจริงครั้งนี้นั้นพวกเธอจะต้องแลกมาด้วยการเสียสละส่วนตัวครั้งยิ่งใหญ่

ในเดือน ก.ย. 2016 พัค ฮโยซิล เธอได้ทำงานเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์อยู่ในกรุงโซล เธอเพิ่งจะเลิกงานสุดสัปดาห์และกำลังจะออกไปพบเพื่อน แต่ขนะนั้นเธอได้รับโทรศัพท์จากบรรณาธิการของเธอที่โทรเข้ามาแล้วบอกว่า เขาเพิ่งได้รับข้อมูลสำคัญจากแหล่งข่าวตำรวจซึ่งเชื่อถือได้ “เขาบอกฉันว่ามีคดีใหญ่กำลังถูกสืบสวน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถ่ายทำวิดีโอลับขณะมีเพศสัมพันธ์และมีดาราชื่อดังเกี่ยวข้องคือ จอง จุนยอง”

Burning Sun
จอง จุนยอง เป็นหนึ่งในศิลปิน K-POP ที่โด่งดังที่สุด ตอนที่เรื่องอื้อฉาวของเขาถูกเปิดโปง

จอง จุนยอง เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังในวง Drug Restaurant และเขาเป็นดาราโทรทัศน์ที่มีแฟนคลับหลายล้านคนด้วยกันแต่แหล่งข่าวเผยว่า แฟนสาวของ จอง จุนยอง ได้กล่าวหาเขาว่าแอบถ่ายวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่เรียกว่า “มอลกา” (molka) ในประเทศเกาหลีใต้

พัค ฮโยซิล เธอจึงได้ยกเลิกอาหารค่ำของเธอกับเพื่อน และรีบกลับไปที่ออฟฟิศทันทีเพื่อพบกับบรรณาธิการของเธอ “พวกเราไม่อยากพลาดข่าวด่วน” ฉันตีพิมพ์เรื่องนี้ในเย็นวันศุกร์ เวลา 22.50 น. ตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน” ภายในไม่กี่นาทีเรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วเกาหลีใต้ “สื่อทุกแห่งต่างพากันคลั่งไปหมด” เธอกล่าว

ทีมบริหารของ จอง จุนยอง รีบออกมาแก้สถานการณ์ พร้อมออกแถลงการณ์โดยระบุว่า การสืบสวนของตำรวจเป็น “เหตุการณ์ไม่สำคัญที่ถูกขยายความเกินจริงโดยสื่อ”

อีกด้านแฟนคลับของ จอง จุนยอง ต่างรีบกล่าวหาแฟนสาว จอง จุนยอง ว่าเธอโกหกเกี่ยวกับเรื่องของดาราดังรายนี้ขึ้นมา จากนั้นพวกเขาก็หันมาโจมตีนักข่าว พัค ฮโยซิล แทน

“สื่อกลายเป็นผู้ร้าย ฉันแบกรับทั้งหมดนั้น” พัค ฮโยซิล กล่าว

นักข่าว พัค ฮโยซิล ถูกแฟนคลับของ จอง จุนยอง ถล่มยับบนโลกออนไลน์ด้วยข้อความดูถูก และมุ่งร้ายกับเธอ ผู้คนโพสต์ภาพใบหน้าและรูปร่างของเธอพร้อมแสดงคำพูดดูถูก เหยียดยาม เช่น หน้าตาอะไรวะเนี่ย อยากจะเหยียบสักที

เธอกล่าวว่า ผู้คนโทรหาบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของเธอและข่มขู่เขาว่า “ถ้าคุณไม่ไล่ พัค ฮโยซิล ออกเราจะจุดไฟเผาอาคารของคุณ”

Burning Sun
พัค ฮโยซิล ถูกโจมตีนับตั้งแต่วินาทีแรกที่รายงานข่าวชิ้นพิเศษของเธอได้รับการตีพิมพ์

พัค ฮโยซิล เผยว่า พวกเขาส่งข้อความขู่ฆ่าฉัน ซึ่งสามีของฉันกังวลมากและบอกไม่ให้ฉันไม่ไปที่สำนักงาน ไม่ให้ออกจากบ้านเพราะมันดูอันตรายมาก 6 เดือนต่อมา การข่มเหงรังแกต่อนักข่าวหญิงรายนี้หนักขึ้นอย่างมาก

“ฉันเริ่มได้รับโทรศัพท์ในช่วงเช้า และพวกเขาจะโทรมาติดต่อกันนานถึง 3-4 ชั่วโมง เมื่อฉันไม่รับโทรศัพท์ พวกเขาก็เริ่มส่งภาพลามกมาให้ฉันแทน” เธอได้รับข้อความเป็นพัน ๆ ข้อความในทุกวัน

และเธอกำลังตั้งครรภ์และตกใจมาก จิตใจของ พัค ฮโยซิล ถูกบั่นทอนจนแม้แต่การออกจากบ้านยังเป็นเรื่องยาก เธอกล่าว หลังจากนั้น เธอได้แท้งลูกไป 2 ครั้งและตอนนี้เธอไม่มีลูกแล้ว แม้ว่าการโดนโจมตีอาจไม่ใช่สาเหตุเดียว แต่เธอเชื่อว่าความเครียดมีส่วนในการแท้งลูกของเธอ “ฉันแน่ใจว่ามันมีส่วนกระทบเรื่องนี้” เธอกล่าว

ในขณะที่ พัค ฮโยซิล ต้องรับมือกับผลกระทบ คัง คยอง-ยุน นักข่าวบันเทิงของ SBS หนึ่งในสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ก็กำลังสืบสวนเรื่องของดารา K-POP หลายคนเธอกำลังจะสานต่อสิ่งที่พัคเริ่มต้นไว้

เมื่อ จอง จุนยอง ถูกสอบปากคำจากตำรวจครั้งแรกในปี 2016 เกี่ยวกับเหตุการณ์ “มอลกา” เขาถูกขอให้ส่งมอบมือถือของเขาเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ และนำส่งให้กับบริษัทนิติวิทยาศาสตร์เอกชนแทน เขาไม่เคยอธิบายการตัดสินใจนี้

จอง จุนยอง ไม่รู้มาก่อนว่ามีการทำสำเนาข้อมูลในโทรศัพท์เอาไว้ในขณะนั้น 3 ปีต่อมา มีผู้แจ้งเบาะแสนิรนามที่เข้าถึงข้อมูลนี้ตัดสินใจปล่อยข้อมูลออกมา และสุดท้ายข้อมูลนี้ก็มาถึงมือนักข่าวคัง “หัวใจของฉันยังคงเจ็บปวดเมื่อนึกถึงมัน” นักข่าวคัง บรรยายช่วงเวลาที่เธอเห็นเนื้อหาข้อมูลในโทรศัพท์นั้น

ตอนได้ข้อมูลในโทรศัพท์ของ จอง จุนยอง เธอคาดหวังว่าจะได้เห็นวิดีโอของจองและแฟนสาวที่นักข่าวพัคได้รายงานในปี 2016 เธอกลับไม่พบวิดีโอนั้น “แต่สิ่งที่เธอค้นพบกลับเป็นกลุ่มแชทที่มีวิดีโอและภาพที่แสดงถึงความลามกอนาจารของผู้หญิงที่หมดสติถูกแชร์กันในกลุ่มซึ่งมี จอง จุนยอง และดารา K-POP ชายคนอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย”

ในกลุ่มนั้นมี ชเว จงฮุน มือกีตาร์หลักของวงร็อค FT Island และ ซึงรี ดาราดังที่เคยเป็นสมาชิกของวง BIGBANG

เมื่อ คัง คยอง-ยุน สืบสวนลึกลงไปเธอได้พบกับการแลกเปลี่ยนข้อความที่น่าตกใจที่บรรยายถึงการรุมข่มขืนหญิงสาวคนหนึ่งที่หมดสติหลังจากที่เธอล้มลงและหัวกระแทกพื้น ด้วยข้อความ “กูกลัวมากเมื่อวาน… มันฟังเหมือนกระโหลกของเธอแตกเลยว่ะ” หนึ่งในชายเหล่านั้นพูดออกมา จอง ส่งข้อความตอบว่า “เป็นคืนที่ตลกที่สุดในชีวิตฉัน”

สิ่งที่ถูกเปิดเผยเหล่านี้ ทำให้นักข่าวคังถึงกับตกใจไปไม่เป็น “พวกเขาน่าขยะแขยงมาก พวกเขาเล่นสนุกกับผู้หญิงเหมือนพวกเธอเป็นของเล่น” เธอกล่าว

นักข่าวคังยังเห็นข้อความที่แสดงให้เห็นว่า “กลุ่มดารานักร้องเหล่านี้ได้รับการปกป้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง” เธอรู้ดีว่าเธอต้องเปิดเผยด้านมืดของวงการ K-POP ให้ได้แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการถูกคุกคามก็ตาม

Burning Sun
พัค ฮโยซิล เคยคิดลาออกจากงานเพราะถูกโจมตีอย่างหนัก

นักข่าวคังยังทำการสืบสวนต่อไป และเมื่อเธอรวบรวมหลักฐานได้เพียงพอแล้ว เธอก็ตีพิมพ์เรื่องราวเปิดโปงพฤติกรรมของสมาชิกในกลุ่มแชท ซึ่งรวมถึงจอง, ชเว และซึงรี

ครั้งนี้มีความแตกต่างออกไป เมื่อเรื่องราวของคังถูกเผยแพร่ออกมา เจ้าหน้าที่ต่างลงมืออย่างรวดเร็วและจองเป็นคนแรกที่ถูกจับกุม เรื่องดังกล่าวทำให้เหยื่อคนอื่น ๆ กล้าที่จะออกมาแจ้งข้อกล่าวหาต่อดาราเหล่านั้น

พวกเขาเหล่านี้ต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก เหยื่อทั้งหมดเคยเห็นมาแล้วว่าสังคมหันหลังให้กับแฟนสาวของจองหลังเธอออกมาพูดความจริงเมื่อปี 2016 หลายคนต้องเอาชนะความกลัวที่จะถูกตีตราและความอับอายเพื่อจะติดตามความคืบหน้าของคดีอาญาต่อนักร้องเหล่านี้ให้ได้ 

แต่ขณะที่คนเหล่านี้กำลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม บรรดาผู้โจมตีกลับพุ่งเป้ามาที่นักข่าวคังด้วย “การโจมตีเรื่องส่วนตัวมาก ๆ อย่างที่ไม่อาจเข้าใจได้”

นักข่าวคังกล่าวว่า “ในตอนนั้นฉันกำลังตั้งครรภ์ใช่ไหม? พวกเขาเลยเรียกฉันว่า นังร่านเฟมิ, นังคนท้องเฟมิ… ฝ่ายซ้ายเฟมิ***” “นั่นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีของการแต่งงานที่ฉันตั้งครรภ์ได้สำเร็จ ฉันจึงกลัวมาก เกรงว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกฉัน หัวใจของฉันรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและเหนื่อยล้ามาก”

นักข่าวคังกล่าวว่าความคิดเห็นที่ “น่าตกใจที่สุดที่ฉันไม่สามารถจะพูดออกมาได้ พุ่งเป้าไปยังลูกของเธอในแคมเปญการโจมตีที่ยาวนานถึง 3 ปี แต่ฉันไม่เสียใจที่ทำข่าวนี้” เธอกล่าว

โจ เอลฟวิง-ฮวาง รองศาสตราจารย์ด้านสังคมและวัฒนธรรมเกาหลีที่มหาวิทยาลัยเคอร์ตินในเพิร์ธ ออสเตรเลีย ออกมาเผยว่าในการเปิดโปงดารา K-POP นั้น นักข่าวพัคและนักข่าวคังต้องประสบกับ “ความรุนแรงชนิดเดียวกัน” กับที่ทำให้เหยื่อยอมเงียบและ “รู้สึกไม่สามารถพูดออกไปได้”

Burning Sun
ซึงรี อดีตสมาชิกของวง BIGBANG

เธอกล่าวว่าการพูดถึงความไม่เท่าเทียมทางเพศในประเทศเกาหลีใต้สามารถทำให้สังคมแตกแยกได้เป็นอย่างมาก และความเกลียดชังผู้หญิงคือหัวใจสำคัญสำหรับสิ่งที่เหยื่อและนักข่าวต้องเผชิญ

“ความเกลียดชังผู้หญิงไม่ใช่แค่สิ่งที่ผู้ชายพูดถึงผู้หญิง แต่เป็นเรื่องของอำนาจและความพยายามที่จะปิดปากทุก ๆ ความคิดที่ว่าทุกเพศมีคุณค่าเท่าเทียมกัน” เธอกล่าว

แม้จะเผชิญกับการข่มเหงส่วนตัวทั้งคู่ แต่ทั้งนักข่าวพัคและนักข่าวคัง ก็สัมผัสได้ว่ากำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นในเกาหลีใต้ ความพยายามที่กล้าหาญของพวกเธอส่งผลกระตุ้นให้เกิดการสนทนาเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ผิดในวงการบันเทิง และการเรียกร้องให้มีการคุ้มครองผู้หญิงจากอาชญากรรมอย่าง “มอลกา” หรือการแอบถ่ายคลิปลับขณะมีเพศสัมพันธ์ มากขึ้น

ปัจจุบันคังเป็นแม่ของลูกสาว 1 คน เธอยังคงถูกหลอกหลอนด้วยการถูกโจมตีทางออนไลน์ที่เธอต้องเผชิญเพราะเธอเปิดโปงความจริง แต่เธอยังมีความหวังว่าความพยายามของพวกเธอจะเป็น “คำเตือนเกี่ยวกับหนทางที่เพศและอำนาจในวงการ K-POP สามารถทำให้เกิดการทุจริต”

Burning Sun
ชเว จงฮุน เดินทางมาถึงสถานีตำรวจกรุงโซลในปี 2019

เธอกล่าวว่า “พวกเราโยนก้อนกรวดเล็ก ๆ ลงในสระน้ำขนาดใหญ่… มันได้สงบลงแล้วอีกครั้ง แต่ฉันก็ยังหวังว่ามันยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คน เพื่อว่าถ้ามีสิ่งแบบนั้นเกิดขึ้นอีก เราจะสามารถเปิดโปงมันได้เร็วมากขึ้น”

ผลการดำเนินคดีทั้งหมดจากคำพิพากษาของศาล ดังนี้

Burning Sun
  • จอง ได้รับโทษจำคุก 5 ปี ในข้อหาร่วมกันข่มขืนและความผิดฐานถ่ายทำและเผยแพร่คลิป “มอลกา”
  • ชเว ถูกตัดสินจำคุก 2 ปีครึ่ง สำหรับการมีส่วนร่วมในข้อหาร่วมกันข่มขืน
  • ซึงรี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาจัดหาหญิงบริการให้แก่นักลงทุน ยักยอกทรัพย์ “มอลกา “และการยุยงให้เกิดความรุนแรง เขาถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน หลังจากอุทธรณ์
  • เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มแชทถูกปล่อยตัวจากข้อกล่าวหาทั้งหมด

ทั้งหมดนี้ได้ถูกปล่อยตัวแล้ว