เรียกได้ว่าเป็นคดีใหญ่ที่สะเทือนสังคมไทยอยู่ไม่น้อย สำหรับ “คดีน้องชมพู่” เด็กหญิงที่ถูกพบเสียชีวิตในป่าภูเหล็กไฟ ในจังหวัดมุกดาหาร ก่อนจะกลายเป็นมหากาพย์เรื่องราววุ่นวายหลังจากนั้น ทั้งการแกะรอตามหาคนร้ายที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจ ไปจนถึงปรากฏการณ์ “ลุงพลฟีเวอร์” ที่กลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน ก่อน “ลุงพลจะถูกจับกุม” อ่านข่าวเพิ่มเติม
การเสียชีวิตน้องชมพู่
วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ช่วงเช้า “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ได้หายตัวออกจากบ้านไปอย่างปริศนา กระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 มีชาวบ้านพบศพน้องอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า บนเขาในป่าภูเหล็กไฟ ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้านน้องชมพู่ถึง 2 กิโลเมตร
หลังการชันสูตรพลิกศพ น้องชมพู่ แพทย์ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ อย่างไรก็ตาม แพทย์ระบุว่าไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้
คดีน้องชมพู่คนไทยรับบทนักสืบ
จากการเสียชีวิตของน้องชมพู่ที่ยังเป็นปริศนา เพราะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “นักสืบโซเชียล” เมื่อคนส่วนใหญ่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สอดคล้องกับความน่าสงสัยหลายอย่าง
คดีนี้ทำให้คนบางส่วนพุ่งเป้าไปที่พี่สาวและพ่อแม่ของน้องชมพู่ ว่าอาจวางแผนฆาตกรรมลูกของตัวเอง ขณะที่บางส่วนก็สงสัยใน “ลุงพล” หรือ นายไชย์พล วิภา ซึ่งเป็นคนที่ใกล้ชิดกับน้องชมพู่มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเผยว่าอย่าตัดสินว่าใครคือฆาตกร แต่ขอให้รอผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน
ในช่วงนั้นเกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายในโลกโซเชียล เช่นเดียวกับกองทัพสื่อมวลชนที่ยกโขยงกันไปที่ “บ้านกกกอก” เปลี่ยนฉากการเสียชีวิตของเด็กหญิงให้กลายเป็น “รายการเรียลลิตี้” ในทันที อีกทั้งผู้ต้องสงสัยยังถูกทำให้กลายเป็นตัวละครที่ผู้ชมคอยส่งกำลังใจเชียร์อีกด้วย
แม้ว่า “ลุงพล” จะถูกสงสัยว่าคือฆาตกรตัวจริง และประชาชนบางส่วนก็ปักใจเชื่อว่าลุงพลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่อย่างแน่นอน แต่สังคมก็ให้ความสนใจไปที่ลุงพลเช่นกัน เนื่องจากคนบางกลุ่มมองว่าลุงพลไม่ใช่คนผิด ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่าลุงพลเป็นฆาตกร
มีเพียงการคาดเดาของคนในสังคม จนเกิดเป็น #Saveลุงพล ขึ้นในโซเชียล ขณะที่สื่อมวลชนก็นำเสนอเรื่องราวของลุงอย่างละเอียด จนเกิดเป็นกระแส “ลุงพลฟีเวอร์”
กระแส “ลุงพลฟีเวอร์” ส่งผลให้ลุงพลกลายเป็น “เซเลบ” มีผู้ติดตามจำนวนมาก ถึงแม้จะเป็นจำเลยในคดีนี้ก็ตาม อีกทั้งยังได้ร่วมร้องเพลงกับนักร้องคนดัง “จินตหรา พูนลาภ” โด่งดังเป็นพลุแตก มีรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์และมีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ลุงพลตัดสินใจเปิดช่องยูทูปของตัวเอง ชื่อ “ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่” ที่มีคนดูนับหลายแสนในแต่ละคลิป
ผ่านไปหลายเดือนยังจับคนทำผิดไม่ได้
ขณะที่บ้านกกกอกกลายเป็นละครโรงใหญ่ของสังคมไทย ประชาชนบางส่วนต่างวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แม้จะเกิดเหตุมาแล้ว 4 เดือน แต่ก็ยังไม่สามารถตั้งข้อหาใครได้
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเผยถึงความคืบหน้าของคดี ระบุช่วงเวลาการเสียชีวิตของน้องชมพู่และน้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นภูเขาได้ด้วยตัวเอง ก่อนจะแจ้ง “ยุติการทำคดีชั่วคราว” จนกว่าจะมีหลักฐานใหม่ ทั้งนี้ คดีนี้มีอายุความ 20 ปี
ระหว่างนั้นลุงพลยังเดินหน้าทำงานบันเทิงต่อไป แต่ก็มีข่าวไม่ดีของลุงพลออกมาให้ได้เห็นบ้าง เช่น คดีบุกรุกป่าสงวน หรือเหตุการณ์ทำร้ายนักข่าว จนกลายเป็นดราม่าใหญ่ เป็นต้น
1 ปีผ่านไป ตำรวจออกหมายจับลุงพล กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ปีเต็ม เริ่มมีความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ออกมาอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวว่าพบเส้นขนในที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากตรวจ DNA สามารถชี้ชัดได้ว่าใครอยู่กับน้องชมพู่ในวันนั้น
วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ “ลุงพล” ใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย
1. พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร
2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
3. กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
จากข้อมูลข้อหาที่แจ้งต่อลุงพลนั้น ไม่ได้ระบุว่าลุงพลเป็นฆาตกรที่ฆ่าน้องชมพู่ แต่เป็นข้อหาที่ระบุว่าลุงพลเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตทางอ้อม พร้อมกันนี้ยังมีการแจ้งข้อหากับป้าแต๋นอีกด้วย
กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2566 ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อ่านคำพิพากษา ให้ลุงพลมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้จำคุก 10 ปี และฐานพรากเด็กไปจากบิดามารดา ให้จำคุก 10 ปี รวมเป็น 20 ปี และยกฟ้องป้าแต๋น
เรื่องราวเพิ่มเติม
ดราม่าอาจารย์ ม.พะเยา ให้นักศึกษาลุยน้ำท่วม 2024 ไปเรียน
ครูเบญ สอบติดอันดับ 1 แต่ชื่อหาย สพฐ. สั่งเด้งผอ.สพม.สระแก้ว
น้ำโขงท่วมหนองคาย สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 500 ล้าน