นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บินตรงเกาหลีใต้ รับฟังปัญหา สวัสดิการแรงงานไทยในเกาหลีใต้
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาเยี่ยมเยียนร้านชำของคนไทย ที่เมืองฮวาซอง จังหวัดคยองกีโด ประเทศเกาหลีใต้ และร่วมรับประทานอาหารเย็นพร้อมพูดคุย พบปะกับแรงงานไทย แลกเปลี่ยนและรับฟังปัญหาของแรงงานไทย สวัสดิการการทำงาน ไปจนถึงการใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ อ่านข่าวเพิ่มเติม
โดยนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอบคุณชาวไทยในเกาหลีที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่ติดหนึ่งใน 10 อันดับที่ชาวไทยออกมาเลือกตั้งมากที่สุด
จึงถือโอกาสนี้เดินทางมาขอบคุณด้วยตัวเองและทางพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มี สส. จำนวนมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งยังมีปีกแรงงาน ทีมต่างประเทศ และทีมเศรษฐกิจ แม้ตนจะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ตั้งใจมารับฟังปัญหาของพี่น้องแรงงานไทยในเกาหลี เพื่อเสนอต่อพรรค และ สส. คนอื่นต่อไป
นาย สนอง วรรณษา ตัวแทนแรงงานไทย ที่มาทำงานกับโครงการจัดหางานของกระทรวงแรงงาน (EPS) เล่าว่า ปัญหาของแรงงานที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุด คือ แรงงานเกษตร โดยเฉพาะผู้หญิง มีจำนวนงานโควตาน้อยกว่าจำนวนแรงงาน
ประเทศเกาหลีใต้มี 4 ฤดูกาล ในช่วงฤดูหนาว เมื่อไม่มีงาน แรงงานจะได้รับผลกระทบ โดนไล่ออกจากงาน ซึ่งมาถึงประเทศเกาหลีใต้แล้ว แต่ไม่สามารถหางานใหม่ได้ตามเวลาที่กำหนด ก็จำเป็นต้องกลับประเทศไทย ทั้งที่กว่าจะสอบผ่านเข้าร่วมโครงการ และเสียเงินหลักแสนในการเดินทาง การตรวจโรค และการเตรียมตัวขั้นตอนต่าง ๆ
นอกจากนี้ แรงงานไทยในเกาหลียังเล่าถึงปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้แรงงานในระบบจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกที่จะเป็นแรงงานผิดกฎหมายด้วย
นายสนอง ได้เสนอเพิ่มชนิดวีซ่าให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับลักษณะงาน และลดความคลุมเครือในการเจรจาให้งานตรงกับสัญญา อีกทั้งจะต้องตรงไปตรงมา รวมถึงเรื่องแทร็กระยะเวลาการทำงาน หากแรงงานทำงานถึงเกณฑ์ สามารถขยายเวลาการทำงานในเกาหลีใต้ได้ยาวนานขึ้น รวมถึงโอกาสในการได้รับวีซ่าทำงานอย่าง E7 ที่จะได้รับสวัสดิการที่ดีขึ้น
นายสนอง กล่าวเสริมอีกว่า รวมไปถึงโมเดลของประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการแรงงานเกษตร และเปิดรับแรงงานเป็นฤดูกาล สามารถเดินทางไปทำงานเฉพาะหน้าเก็บเกี่ยวและกลับไทยเมื่อหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว ก่อนจะเดินทางไปใหม่ในปีต่อไป
ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องโดนออก สามารถบริหารตัวเองได้ ซึ่งทางพรรคได้มีการมองโมเดลนี้ และตั้งใจนำไปเสนอให้ปรับปรุงกับระบบของวีซ่า EPS รวมไปถึงยังมองว่าปัญหาของแรงงาน EPS ในปัจจุบัน คือการไม่ลงรายละเอียดในอุตสาหกรรมแต่ละส่วนที่แตกต่างกันที่มีการทำงานเฉพาะ อย่างวีซ่าเกษตรและอุตสากรรม เป็นต้น
แรงงานไทยในเกาหลีใต้ ยังได้สะท้อนปัญหาสวัสดิการที่หลาย ๆ อย่างขึ้นอยู่กับนายจ้างว่าแต่ละงานอาจจะเจอนายจ้างที่ดีหรือไม่ดี รวมถึงงาน สวัสดิการอย่างเรื่องที่พักที่ไม่ตรงกับสัญญาจ้าง การย้ายงานที่ทำได้ยาก เช่น เรื่องที่พัก ตามสัญญาระบุว่าห้องนอนสองคนต่อหนึ่งห้อง แต่สภาพตอนนี้คือหนึ่งห้องนอน 6 คน และห้องน้ำห้องเดียว
เขากล่าวว่าทั้งที่แรงงานกว่าจะสอบผ่านจนถึงบินมาทำงานต้องใช้เวลาหลายเดือน ใช้เงินหลักแสนบาท แต่กลับมีปัญหาทั้งที่พักและงาน ทำให้ไม่สบายใจ สภาพร่างกายไม่ตรงสายงาน จะขอย้ายงานก็ไม่สามารถทำได้ และเมื่อถามไปถึงศูนย์ช่วยเหลือ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ครอบคลุมความช่วยเหลือ แรงงานหลายคนคิดว่าเงินที่เสียไปไม่คุ้ม แต่ไม่สามารถทำอะไรได้
กลุ่มแรงงานไทยยังร้องขอด้วยว่าต้องการให้มีองค์กรที่สามารถรับฟังปัญหาจากปากคนทำงานจริงๆ ด้วย ไม่ใช่ฟังฝั่งนายจ้างเพียงด้านเดียว
เรื่องราวเพิ่มเติม
ดราม่าอาจารย์ ม.พะเยา ให้นักศึกษาลุยน้ำท่วม 2024 ไปเรียน
ครูเบญ สอบติดอันดับ 1 แต่ชื่อหาย สพฐ. สั่งเด้งผอ.สพม.สระแก้ว
น้ำโขงท่วมหนองคาย สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 500 ล้าน