แบนเกาหลี ติดเทรนด์อันดับ 1 หลังเกิดปัญหาชาวไทยติดตม.เกาหลี แล้วไม่ได้รับการแก้ไข
หากพูดถึงประเทศเกาหลีใต้ หลายคนอาจนึกภาพโซลทาวเวอร์ ย่านกังนัม ไปจนถึงกิมจิ และอาหารซอฟต์พาวเวอร์ที่พบเห็นกันบ่อย ๆ ในซีรีส์ แต่ทว่าสิ่งที่กล่าวมาอาจเป็นภาพจินตนาการของนักท่องเที่ยวชาวไทยก่อนหน้านี้ ที่การเดินทางเข้าไปในแดนโสมนั้นง่ายกว่าที่เป็นอยู่มาก อ่านข่าวเพิ่มเติม
ในปัจจุบันสิ่งที่คนไทยต้องคิดหนักนอกเหนือจากแพลนเที่ยว การเดินทาง และที่พักต่างประเทศแล้ว หากจะเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ นั่นก็คือ ตม. (ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง) นั่นเอง ซึ่งเป็นด่านสุดหินจุดชี้ชะตาว่าคนไทยจะได้เข้าหรือไม่ได้เข้าประเทศเกาหลี
ซึ่งก็มีหลายกรณีด้วยกันในสนามบินอินชอนที่ชาวไทยถูกตม.เกาหลีใต้เรียกตัวเข้าไปซักถามข้อมูลการเดินทาง ก่อนจะชี้ขาดว่าอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้เข้าประเทศ
ก่อนหน้ามีผู้ใช้ X โพสต์ข้อความยาว 23 เธรดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 เล่าประสบการณ์ติดตม.เกาหลีใต้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่การถูกย้ายตัวเข้าไปยังออฟฟิศของตม. พร้อมยื่นเอกสารการท่องเที่ยวเพื่อเป็นหลักฐาน และยังตอบคำถามการเดินทางมาเกาหลีใต้อย่างละเอียดแก่เจ้าหน้าที่
แม้ว่าผู้ใช้ X รายนี้จะมีเอกสารที่ครบถ้วน อีกทั้งการจองที่พัก การวางแผนการเดินทาง และตอบคำถามสดกับตม. ได้อย่างกระฉับกระเฉงพร้อมประสบการณ์การท่องเที่ยวเกาหลีใต้ถึง 4 ครั้งของเธอด้วยกัน แต่ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่ตม. ตั้งแง่กับเงินเดือน
และถามว่ามาเที่ยวเกาหลีใต้ถึง 4 ครั้งทำไมถึงไม่ไปเที่ยวประเทศอื่นบ้าง? แม้ว่าเธอจะตอบคำถามนั้นได้แต่บทสรุปของทริปนี้ คือเธอถูกส่งตัวกลับประเทศไทย
สำหรับปัญหาชาวไทยติดตม.เกาหลีใต้ยิ่งชัดขึ้น เพราะเกิดกระแส #แบนเที่ยวเกาหลี #แบนเกาหลีใน X โดยมีผู้ใช้งานหลายคนที่มีประสบการณ์ติดตม.เกาหลีใต้ออกมาแชร์เรื่องราวมากมาย บางรายวางแผนจะไปพบศิลปินในงานแจกลายเซ็น และได้มีการวางแผนไว้แล้วอย่างดี แต่ทริปที่รัดกุมเป็นอันต้องยกเลิกไปเนื่องจากติดตม.
บางรายเจอคำถามแปลก ๆ ที่ต้องลงรายละเอียดเชิงลึกระดับผู้อยู่อาศัยในเกาหลีเท่านั้นถึงจะตอบได้ หากตอบไม่ได้ก็จะถูกกักตัว และส่งกลับ
นอกจากคนไทยจะแชร์ความผิดหวังของตนที่ต้องพลาดทริปในฝันจากการกวดขันของเจ้าหน้าที่ตม.เกาหลีใต้ ยังลุกลามไปถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ ที่มีวิธีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับคนไทย ทั้งสีหน้า ท่าทาง และอารมณ์ของเจ้าหน้าที่แล้ว มาตรฐานในการคัดกรองของเจ้าหน้าที่ได้ลุกลามไปยังการเหยียดเชื้อชาติของคนเกาหลีใต้ที่ถูกยกมาพูดคุยภายใต้แฮชแท็กนี้เช่นเดียวกัน
แบนเกาหลี หากมองอีกด้าน
หากมองอีกด้านความเข้มงวดของตม.เกาหลีใต้ อาจมีจุดเริ่มต้นจากปัญหาการลักลอบเข้าไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายของชาวไทย ข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรารายงานว่า วันที่ 6 มีนาคม นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า
“จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ มีคนไทยและแรงงานไทยพำนักในเกาหลีใต้จำนวน 209,909 คน โดยพำนักอย่างถูกกฎหมาย 57,470 คน และผิดกฎหมายอีก 152,439 คน หากเปรียบเทียบกับข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้พบว่าจำนวนแรงงานไทยพำนักผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นจากสถิติในเดือนมิถุนายน 2565 โดยมีจำนวน 139,245 คน”
อีกแรงจูงใจหลักนั่นก็คือค่าแรงของเกาหลีใต้ที่สูงกว่าค่าแรงไทย จากการพูดคุยกับแรงงานไทยในเกาหลีใต้ในโครงการ EPS (Employment Permit System) ออกอากาศเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2023 ระบุว่า
“งานของเขาได้รับค่าแรงอยู่ที่ 2,080 บาท/วัน หรือ 50,000 บาท/เดือน ยังไม่รวมโอที ขณะที่งานก่อสร้างที่ไทยได้ค่าแรงที่ 600 บาท/วัน เกาหลีใต้จึงเป็นอีกหนึ่งปลายทางของแรงงานชาวไทยนั่นเอง”
จากสัมภาษณ์แรงงานไทยในเกาหลียังระบุสาเหตุที่คนไทยเลือกเป็นแรงงานผิดกฎหมายมากกว่าเป็นแรงงานถูกกฎหมาย ว่าหากมากับโครงการจ้างงานถูกกฎหมายจะมีขั้นตอนหลายอย่างทั้งการสอบ และต้องรอนายจ้างไฟเขียวเข้าทำงาน ซึ่งคนไทยบางคนต้องรอถึง 2 ปีกว่าจะได้รับการตอบรับเพื่อเป็นแรงงานในเกาหลีใต้
อีกทั้งยังพบว่าแรงงานชาวไทยที่ร้องขอไปเป็นแรงงานต่างประเทศตามโครงการแล้ว แต่มีปัญหาที่อาจผลักให้ต้องไปเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เช่น โรงงานไม่ตรงสัญญาจ้าง มีการบิดเงินเดือนไม่ตรงตามที่ตกลงระหว่างลูกจ้างนายจ้าง
หนำซ้ำเมื่องานหมดนายจ้างก็ขับแรงงานชาวต่างชาติออก แรงงานเหล่านี้จึงกระโดดไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายเพื่อความอยู่รอด โดยปัญหาแรงงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรและปศุสัตว์
นี่จึงอาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตม.เกาหลีเข้มงวดในการคัดกรองคนเข้าเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้มีชาวต่างชาติลักลอบเข้าไปเป็นแรงงานผิดกฎหมาย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชาวไทยจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษจากการคัดกรอง แต่ความเข้มงวดยังไม่เท่ากับการส่งใครกลับก็ได้โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่มีมาตรฐานที่ชี้ชัดว่า ชาวต่างชาติคนดังกล่าวต้องการเข้ามาเป็นแรงงานผิดกฎหมายหรือไม่
การสร้างมาตรฐานของตม.เกาหลีใต้ และความสมเหตุสมผลในการคัดกรองคนเข้าเมืองของตม.เกาหลีใต้นั้นยังเป็นข้อสังเกตด้านความเป็นธรรมกับชาวต่างชาติอยู่
โดยเฉพาะชาวไทยที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งหากมิได้รับการปรับปรุงระบบที่รอบคอบในการคัดกรองชาวต่างชาติมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย หรือการตกเป็นแพะรับบาปของชาวไทยที่ต้องการไปเที่ยวอย่างสุจริต ก็อาจจะยังเป็นปัญหายืดเยื้อต่อไปไม่สิ้นสุด
เรื่องราวเพิ่มเติม
ดา เอ็นโดรฟิน ประกาศข่าวดี ตั้งท้องลูกคนที่ 2
มิวศุภศิษฏ์ ลาสิกขาแล้วหลังเข้าพิธีอุปสมบทศึกษาพระธรรม17วัน
รวงข้าว ญาตาวีมินทร์ ยังแรงต่อเนื่องลิ่วรอบ 8 คนแบดมินตัน