กลุ่มติดอาวุธ ฮามาส เปิดปฏิบัติการอัล-อักซา ฟลัด (Operation Al-Aqsa Flood) โดยมีการอ้างว่ายิงจรวดจำนวนมากข้ามชายแดนทางตอนใต้ของอิสราเอล เพื่อเปิดทางให้นักรบติดอาวุธแทรกซึมเข้าไปในอิสราเอลจากหลายทิศทาง และมีบางส่วนเข้าไปในชุมชนใกล้ฉนวนกาซา ได้สังหารประชาชนและจับพวกเขาเป็นตัวประกัน อ่านข่าวเพิ่มเติม
ฮามาสคือใคร
ฮามาสเป็นกองกำลังติดอาวุธของปาเลสไตน์มีความเคร่งศาสนาอิสลามซึ่งปกครองฉนวนกาซา กลุ่มฮามาสสาบานว่าจะทำลายล้างอิสราเอล และได้ทำสงครามกับอิสราเอลหลายครั้งนับตั้งแต่เข้ายึดครองฉนวนกาซาในปี 2007
ระหว่างการสู้รบของกลุ่มฮามาสได้ยิงหรืออนุญาตให้กลุ่มอื่น ๆ ยิงจรวดนับหลายพันลูกใส่อิสราเอล และเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอย่างรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง ขณะที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มฮามาสอยู่หลายครั้ง รวมถึงการร่วมกับอียิปต์ในการปิดล้อมฉนวนกาซาตั้งแต่ปี 2007 โดยระบุว่าเป็นไปเพื่อรักษาความปลอดภัย
อิสราเอล สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร รวมไปถึงอีกหลายชาติมหาอำนาจ จัดให้กลุ่มฮามาสหรือกองกำลังทหารของฮามาส เป็นกลุ่มก่อการร้าย ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสได้รับการสนับสนุนทั้งด้านเงินทุน การจัดหาอาวุธ และการฝึกซ้อมรบ จากอิหร่าน
ฉนวนกาซาคืออะไร
ฉนวนกาซามีอาณาเขตยาว 41 กม. กว้าง 10 กม. ตั้งอยู่ระหว่างอิสราเอล อียิปต์ และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีประชากรประมาณ 2.3 ล้านคน และถือเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
อิสราเอลควบคุมน่านฟ้าเหนือฉนวนกาซาและแนวชายฝั่ง จำกัดผู้คนและสินค้าที่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าออก ขณะที่ทางอียิปต์ก็ควบคุมและจำกัดบุคคลที่ผ่านเข้าออกฉนวนกาซาทางด้านชายแดนทางบกที่ติดกับอียิปต์
องค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ประชาชนที่อยู่ในฉนวนกาซาราว 80% ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากนานาชาติ และประมาณ 1 ล้านคนต้องขอรับความช่วยเหลือด้านอาหาร
ทำไมอิสราเอล-ฮามาสถึงสู้รบกัน
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การโจมตีโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เกิดขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า โดยกลุ่มฮามาสยิงจรวดหลายพันลูกใส่อิสราเอล ขณะที่นักรบกลุ่มฮามาสฝ่าแนวชายแดนและเข้าบุกโจมตีชุมชนชาวอิสราเอล สังหารพลเรือนหลายสิบคน และจับตัวประกันจำนวนมาก
อิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศกลับทันที โดยระบุว่ากำลังกำหนดเป้าหมายไปยังพื้นที่ติดอาวุธในฉนวนกาซา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน
ข้อพิพาทที่ปาเลสไตน์
เขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาตามที่รู้จักกันว่าเป็นดินแดนปาเลสไตน์เช่นเดียวกับเยรูซาเลมตะวันออกและอิสราเอลที่ล้วนแล้วเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่เรียกว่าปาเลสไตน์ตั้งแต่สมัยโรมัน
พื้นที่อิสราเอล-ปาเลสไตน์นี้ เป็นที่อยู่อาศัยของทั้งชาวยิว (อิสราเอล) และชาวอาหรับ (ปาเลสไตน์)
ดินแดนปาเลสไตน์เดิมนี้เป็นอาณาจักรของชาวยิวในคัมภีร์ไบเบิล และชาวยิวถือว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของบรรพบุรษของพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว แต่ชาวอาหรับในปาเลสไตน์กล่าวว่านี่เป็นบ้านของพวกเขาเช่นกัน
เมื่อปี 1947 สหประชาชาติมีมติให้แบ่งปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐของชาวยิวและชาวอาหรับแยกกัน โดยให้เยรูซาเลมเป็นเมืองนานาชาติ โดยผู้นำชาวยิวตอบรับแผนนี้ แต่ฝ่ายอาหรับได้ปฏิเสธ
ปี 1948 ผู้ปกครองชาวอังกฤษและผู้นำชาวยิวประกาศสถาปนาอิสราเอลเป็นรัฐ โดยชาวปาเลสไตน์ไม่ยอมรับสิทธิในการดำรงอยู่ของอิสราเอล และได้เกิดสงครามขึ้นจากกองทัพประเทศอาหรับเข้าร่วมด้วย
ชาวปาเลสไตน์จำนวนหลายแสนคนถูกบังคับให้อพยพออกจากบ้านตัวเอง และกว่าจะมีการประกาศหยุดยิงในปีถัดมา อิสราเอลก็เข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของปาเลสไตน์สำเร็จแล้ว
จอร์แดนได้เข้าควบคุมพื้นที่ที่เรียกว่าเวสต์แบงก์ อียิปต์ได้ครอบครองฉนวนกาซา ส่วนเยรูซาเลมถูกแยกออกเป็นของกองกำลังอิสราเอลฝั่งตะวันตก และของกองกำลังจอร์แดนในฝั่งตะวันออก
อย่างไรก็ตามชาวปาเลสไตน์ยังใช้ชื่อปาเลสไตน์เป็นคำกลางสำหรับเวสต์แบงก์ กาซา และเยรูซาเลมตะวันออก
ด้วยความที่ไม่มีการบรรลุข้อตกลงใด ๆ ทำให้ต่างฝ่ายก็ต่างโทษกันและกันว่าเป็นที่มาของความขัดแย้งและการทำสงครามเรื่อยมาอีกหลายทศวรรษ
ในปี 1967 ได้เกิดสงครามใหญ่หรือที่รู้จักกันในชื่อ สงคราม 6 วัน (Six Day War) อิสราเอลสามารถยึดครองเยรูซาเลมตะวันออก, เขตเวสต์แบงก์, ฉนวนกาซา, พื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบสูงโกลันของซีเรีย และแหลมไซนาย ไว้ได้
ผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ส่วนใหญ่และลูกหลานของพวกเขาอาศัยอยู่ในกาซาและเขตเวสต์แบงก์ และในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจอร์แดน, ซีเรีย และเลบานอน คนเหล่านี้และลูกหลานไม่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเกิด ด้านอิสราเอลระบุว่าจะทำให้คนล้นประเทศและเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐยิว
อิสราเอลถือว่าพื้นที่ในเยรูซาเลมทั้งหมดเป็นเมืองหลวงของตน ขณะที่ชาวปาเลสไตน์บอกว่าเยรูซาเลมตะวันออกจะเป็นเมืองหลวงในอนาคตของพวกเขา โดยสหรัฐฯ เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยอมรับการอ้างเป็นเจ้าของเยรูซาเลมทั้งเมืองของอิสราเอล
สำหรับช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา อิสราเอลได้เข้ามาก่อสร้างและตั้งถิ่นฐานในพื้นที่นี้ โดยมีชาวยิวกว่า 6 แสนคนอาศัยอยู่ อีกด้านชาวปาเลสไตน์มองว่าการลงหลักปักฐานนี้ผิดกฎหมายนานาชาติ และเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการเพื่อสันติภาพ แต่อิสราเอลก็ปฏิเสธ
เครดิต BBC.COM
เรื่องราวเพิ่มเติม
ดราม่าอาจารย์ ม.พะเยา ให้นักศึกษาลุยน้ำท่วม 2024 ไปเรียน
ครูเบญ สอบติดอันดับ 1 แต่ชื่อหาย สพฐ. สั่งเด้งผอ.สพม.สระแก้ว
น้ำโขงท่วมหนองคาย สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 500 ล้าน