อัปเดตความคืบหน้าคดีการตายปริศนาจาก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยล่าสุดเจอเหยื่อที่อาจจะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา “แอม” แล้ว 12 คน ในจำนวนนี้มี 1 คนที่รอดชีวิต อ่านข่าวเพิ่มเติม
พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ “หากครอบครัวใดคิดว่า แอม น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคนในครอบครัวสามารถมาแจ้งความได้ แม้จะไม่มีศพแล้วก็ตาม”
แอม ไซยาไนด์ อัปเดตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีทั้งหมด 11 ศพ พบในพื้นที่ จ.อุดรธานี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี และ กาญจนบุรี
โดยแต่มีเพียงคดีของ ก้อย คนเดียวที่อยู่ในความดูแลของกองบังคับการปราบปราม ขณะที่คดีอื่น ๆ ให้ท้องที่เกิดเหตุเข้าดูแลและรับผิดชอบ โดยมีพนักงานสอบสวนจากส่วนกลางคอยช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด และทุกคดี พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ จะพร้อมเข้าตรวจสอบสำนวนด้วยตัวเอง โดยในวันศุกร์ที่ 28 เมษายนนี้
ซึ่งได้นัดหมาย ให้พนักงานสอบสวนทุกคดีเข้ามาประชุม รายงานความคืบหน้าพร้อมกันที่สโมสรตำรวจ ในส่วนของผู้รอดชีวิตขณะนี้ ที่ยืนยัน มี 1 คน และ เพิ่งทราบข้อมูลล่าสุดว่ามีผู้ที่รอดชีวิตและเกี่ยวข้องกับ “แอม” เพิ่มอีก 1 คน อยู่ในจังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นมีลักษณะคล้ายกันเหมือนกันทุกเคส แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด อยู่ระหว่างเรียกเข้ามาสอบปากคำ
นอกจากนี้ ยังมีผลรายงานจากแพทย์ที่ผ่าชันสูตรศพเคสในจังหวัดนครปฐม 1 ใน 3 คน ซึ่งเป็นเคสของสารวัตรปู หรือ พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ พบสาร “ไซยาไนด์” ในเลือดของผู้เสียชีวิต ทำให้เป็นพยานหลักฐานในการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 1 คดีด้วย หลังจากก่อนหน้านี้พบสารดังกล่าวที่เคสในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง
อีกด้านประเด็นการทำงานของพนักงานสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ กรณีพบคดีการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ แล้วไม่ได้ส่งชันสูตรศพแต่อย่างใดนั้น ตามกฎหมายกำหนดนั้น ยอมรับว่า ในทางปฏิบัติทำได้ไม่ทั่วถึง
เนื่องด้วยในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีแพทย์นิติเวช พนักงานสอบสวนจึงยึดความประสงค์ของญาติเป็นหลัก ว่า ติดใจหรือไม่ มีความประสงค์ส่งศพผ่าชันสูตรหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะพบว่า กรณีหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย ครอบครัวผู้สูญเสียมักไม่ติดใจ ไม่ประสงค์ ให้ผ่าชันสูตร
แต่ในอนาคตทางเจ้าหน้าที่จะกำชับให้พนักงานสอบสวนทุกพื้นที่ เคร่งครัดสำหรับการปฎิบัติงานในการส่งศพผ่าชันสูตร ทุกกรณีที่พบว่า เป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัว แอม ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
ทำความรู้จักลักษณะของ "ฆาตกรต่อเนื่อง" หลังสังคมผงะกับคดี "แอม ไซยาไนด์"
คดีสะเทือนขวัญในขณะนี้อย่างคดีที่มี แอม ผู้ต้องหาที่เกี่ยวพันการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ น.ส. ศิริพร ขันวงษ์ หรือ “ก้อย” ชาว จ. กาญจนบุรี ขณะที่ไปปล่อยปลากับเธอเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่าเข้าข่าย “ฆาตกรรมต่อเนื่อง” หรือไม่
ข้อหาอย่างเป็นทางการตามหมายจับออกโดยศาลอาญา คือ “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมของกลาง คือ ขวดไซยาไนด์ ทำให้ผู้ต้องหารายนี้ถูกตำรวจสอบสวนกลางจับกุมตัวมาสอบปากคำเมื่อวันที่ 25 เม.ย.
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เผยต่อสื่อมวลชนว่า คดีนางสรารัตน์ อดีตภรรยาของรองผู้กำกับการในพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเกี่ยวพันการเสียชีวิตของ ก้อย ได้พบหลักฐานเป็น “สารไซยาไนด์” อยู่ภายในบ้าน สอดคล้องกับผลการผ่าพิสูจน์ของผู้เสียชีวิตที่พบสารชนิดนี้อยู่ในร่างกาย
“จากการขยายผลการสืบสวน” รอง ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ยังมีเหยื่อรายอื่น ๆ ด้วยรวม 13 ราย ใน 5 จังหวัด และรอดชีวิต 1 คน ซึ่งแต่เดิมญาติของผู้เสียชีวิตเข้าใจว่า เสียชีวิตเอง จนกระทั่งได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ น.ส. ศิริพร จึงเกิดความสงสัยและเข้าร้องเรียน หนึ่งในจำนวนนั้นมีอดีตสามีของนางสรารัตน์รวมอยู่ด้วย
วันที่ 26 เม.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. มีผู้เสียหายที่ถูกวางยาแต่รอดชีวิตมาได้ เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่สโมสรตำรวจ เชื่อว่าจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวน ส่วนผู้เสียหายที่รอดชีวิตเชื่อว่าเป็นเพราะตนอาจจะได้รับปริมาณยาน้อย หรือผู้ก่อเหตุยังคำนวณปริมาณยาได้ไม่ชำนาญ อีกทั้งผู้เสียหายพบแพทย์ได้อย่างทันกาล
วันศุกร์ที่ 27 เม.ย. เวลา 10.00 น. ได้นัดหมายให้พนักงานสอบสวนทุกคดี เข้าประชุมรายงานความคืบหน้าพร้อมกัน ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีบางรายไม่ได้ผ่าชันสูตร ทำให้เป็นอุปสรรคในการสืบสวนสอบสวนคดี แต่มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ที่ผ่าชันสูตรศพ ซึ่งสั่งการให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
และยอมรับว่า “ผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นคนรู้จักกับน.ส. แอม” ในลักษณะการเป็นเจ้าหนี้ และเป็นญาติพี่น้องหรือครอบครัวของตำรวจ จึงยังไม่สามารถชี้ชัดว่าเป็นการฆ่าล้างหนี้หรือฆาตกรรมต่อเนื่อง
ทนายของ แอม ไซยาไนด์ ปฏิเสธ
ข้อมูลจากพีพีทีวี ซึ่งได้ติดต่อ แอม เพื่อสอบถามข้อมูล ก่อนจะถูกควบคุมตัว แอม กล่าวว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พร้อมบอกว่า จะเรียกร้องความเป็นธรรม ด้วยการไปศาล และจะไม่ให้ข้อมูลกับสื่อแต่อย่างใด
เมื่อถูกควบคุมตัวที่สโมสรตำรวจ และผ่านการสอบปากคำ แอม หลายชั่วโมง สื่อมวลชนพยายามสอบถามว่าผู้ก่อเหตุกระทำผิดจริงหรือไม่ เธอร้องไห้และไม่ตอบคำถาม มีเพียงทนายความของเธอที่ตอบแทนว่าผู้ต้องหาขอใช้สิทธิไม่ตอบคำถามและต่อสู้ทางกฎหมายเท่านั้น
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ สันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะต้องการทรัพย์สินของเหยื่อ รวมถึง แอม มีพฤติกรรมเลือกเหยื่อจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะในแวดวงตำรวจ โดยเหยื่อจะต้องเป็นคนมีเงินเท่านั้น
ภายหลังถูกจับกุม มีการเปิดเผยรายชื่อการเล่นแชร์ ที่ถูกสื่อตั้งชื่อว่า “วงแชร์มรณะ” จำนวน 6 คน รวมถึง แอม ด้วย โดยผู้เล่นแชร์เสียชีวิตเกือบทุกคน ขณะนี้ ตำรวจเข้าติดต่อสมาชิกวงแชร์ที่ยังมีชีวิตอยู่ คือ “แต้ว” เป็นพยานแล้ว
โดย แต้ว ให้สัมภาษณ์กับช่อง 3 ว่า เคยขอเงินคืนจาก แอม แต่กลับถูกยืมเงินเพิ่ม 5 หมื่นบาท พร้อมอ้างว่า ถูกยืมเงินจากคนในวงแชร์ที่เสียชีวิตไปเมื่อไม่นานนี้
“หนูไม่เห็นมีคนส่งในวงเลย… แล้วเขาก็ส่งรูปว่ามีผู้หญิงเป็นลม บอกว่า พี่น้อยผัก เสียชีวิตแล้ว พี่ (แอม) ต้องยุบวงแชร์นี้นะ” แต้ว กล่าว ถึงบทสนทนากับแอมเมื่อปีที่แล้ว
และยังเผยอีกว่า จากการสอบประวัติ แอม ไซยาไนด์ มีพี่สาวเป็นเภสัชกร อยู่ในอำเภอโพธาราม จ. ราชบุรี ขณะนี้ได้สั่งชุดสืบสวนภูธร จ. ราชบุรีเข้าค้นหาหลักฐานว่า พี่สาวของแอมจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ อีกด้านตรวจค้นบ้านพักของแอม ที่ จ.นครปฐมนั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล
รายละเอียดการเสียชีวิตของเหยื่อ
รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ รายงานอ้างอิงตำรวจ เล่าถึงการเสียชีวิตของเหยื่อ 12 ราย เป็นผู้เสียชีวิต 11 ราย และสามารถรอดชีวิตมาได้ 1 ราย ตามที่มีข้อมูลในเวลานี้ ซึ่งต้องสงสัยว่า แอม ไซยาไนด์ เป็นผู้ก่อเหตุ
- น.ส. ดาริณี เทพหวี (ฟ้า) อายุ 34 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ” เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2563 ทรัพย์สินสูญหาย 60,000 บาท
- นายสุรัตน์ ทรพับ อายุ 35 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตหลอดเลือดหัวใจตีบ” เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 จ.กาญจนบุรี และพบเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ตายโอนเข้าบัญชีของแอม 60,000 บาท
- ร.ต.อ. หญิงกานดา หรือผู้กองนุ้ย (โตไร่) อายุ 36 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตระบบไหลเวียนโลหิตและหายใจล้มเหลว” เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 จ.นครปฐม
- นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ เสียชีวิต วันที่ 15 ส.ค. 2565 ใน จ.เพชรบุรี
- น.ส. กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ อายุ 44 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตเลือดออกในสมอง” เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 ที่ปั๊ม ปตท. ใน จ.ราชบุรี ช่วงที่เสียชีวิตพบเงินในบัญชีธนาคารถูกถอนออกไป 300,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ สูญหายอีกอย่างละเส้น
- นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ (แต้) อายุ 35 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตหัวใจเต้นผิดจังหวะ” เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ที่บ้านพักใน จ. อุดรธานี ทรัพย์สินสูญหาย ได้แก่ สร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 8 บาท พระเครื่องมูลค่า 100,000 บาท พร้อมเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
- พ.ต.ต. หญิงนิกา แสงจันทร์ อายุ 38 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว” เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 ที่บ้านใน จ.นครปฐม ทรัพย์สินสูญหาย ได้แก่ เงินสด 10,000 บาท และเงินในบัญชีถูกถอน 140,000 บาท
- น.ส. ศิริพร ขันวงษ์ (ก้อย) อายุ 33 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตหัวใจล้มเหลว” เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2566 ที่ท่าน้ำบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทรัพย์สินสูญหายเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 50,000 บาท
- น.ส. รจรินทร์ นิลห้อย (เจ๊น้อยขายผัก) อายุ 39 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตเลือดเป็นกรด” เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2566 ที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร เธออยู่ในวงแชร์เดียวกับ แอม
- น.ส. ผุสดี สามบุญมี (ครูอ๊อด) อายุ 39 ปี “สาเหตุการเสียชีวิตไม่แน่ชัด” เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2565 จ.นครปฐม โดยอยู่ในวงแชร์เดียวกับ แอม
- น.ส. มณีรัตน์ พจนารถ “สาเหตุการเสียชีวิตไม่แน่ชัด” วันที่ 10 ก.ย. 2565 ใน จ.นครปฐม
- น.ส. กานติมา แพสอาด (ปลา) อายุ 36 ปี ผู้รอดชีวิต “มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มือชา หลังรับประทานยาที่ได้จาก แอม ขณะเดินเล่นอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน กาญจนบุรี แต่เคราะห์ดีมีผู้ให้การช่วยเหลือทัน” จากการตรวจสอบพบว่า แอม ติดหนี้ ปลา 250,000 บาท
ฆาตกรต่อเนื่อง มีลักษณะเป็นอย่างไร
เนื่องจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องไม่ได้เกิดขึ้นในสังคมไทยบ่อยครั้ง ทีมข่าวจึงรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเพื่ออธิบายและทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของฆาตกรต่อเนื่อง (serial killer) ดังนี้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ห้องสมุดสุขภาพจิต ของกระทรวงสาธารณสุข อธิบายลักษณะของ “ฆาตกรต่อเนื่อง” อ้างคำนิยามโดยสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (FBI) หมายถึง ฆาตกรที่ฆ่าคนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อสนองความต้องการหรือความพึงพอใจทางจิตใจของตน โดยจะมีช่วงว่างเว้นระหว่างเหยื่อแต่ละราย ซึ่งต่างจากฆาตกรรมหมู่ที่จะสังหารบุคคลหลาย ๆ คนในคราวเดียวกัน
“ฆาตกรต่อเนื่อง” ส่วนใหญ่เป็นการกระทำของบุคคลเดียว มีแรงจูงใจในการกระทำความผิด อาจมีได้ตั้งแต่ความโกรธ แสวงหาความตื่นเต้น ผลประโยชน์การเงิน หรือแม้กระทั่งการเรียกร้องความสนใจ
วิธีการในการกระทำนั้นมักจะเป็นรูปแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ และเหยื่อมักจะมีลักษณะบางอย่างร่วมกัน เช่น ลักษณะทางประชากร รูปร่าง เพศ และเชื้อชาติ เป็นต้น
ลักษณะที่พบได้บ่อย มีดังนี้
- ความผิดปกติทางจิต หรือความผิดปกติของบุคคลิกภาพ
- มักมีประวัติถูกทำทารุณกรรมทางร่างกาย ทางจิตใจ หรือทางเพศจากสมาชิกในครอบครัว
- มีลักษณะของพฤติกรรมทางเพศที่เบี่ยงเบนร่วมด้วย
- ระดับสติปัญญาอยู่ในระดับปกติหรือต่ำกว่าปกติ
- บ่อยครั้งที่ฆาตกรมักจะถูกกลั่นแกล้งหรือแยกตัวออกจากสังคมในวัยเด็ก
- เคยมีประวัติกระทำความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น หลอกลวง ลักขโมย ก้าวร้าวรุนแรง เป็นต้น
เครดิต BBC.COM
เรื่องราวเพิ่มเติม
ดราม่าอาจารย์ ม.พะเยา ให้นักศึกษาลุยน้ำท่วม 2024 ไปเรียน
ครูเบญ สอบติดอันดับ 1 แต่ชื่อหาย สพฐ. สั่งเด้งผอ.สพม.สระแก้ว
น้ำโขงท่วมหนองคาย สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 500 ล้าน