แม้ชื่อรุ่น iPhone 17 Air จะบ่งบอกถึงแนวคิดความเบาและบางเฉียบเป็นหลัก แต่สิ่งที่ทำให้แฟน ๆ หลายคนเซอร์ไพรส์คือการที่มีข่าวลืออย่างหนักว่า Apple
Apple อาจ ลดขนาดแบตเตอรี่ของ iPhone 17 Air ให้ต่ำกว่า 3,000 mAh เพื่อแลกกับดีไซน์ที่บางลงและน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ จุดนี้เองที่กลายเป็นทั้งคำถามและความสงสัยในหมู่ผู้ใช้งาน ว่าการตัดสินใจนี้จะกระทบกับประสบการณ์การใช้งานหรือไม่ อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
จากรายงานของแหล่งข่าวสายซัพพลายเชนในจีน ระบุว่า iPhone 17 Air จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุประมาณ 2,800 mAh ซึ่งถือว่าต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 15 หรือ iPhone 16 ที่มีแบตแตะระดับ 3,200–3,300 mAh
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple วางแผนใช้ ชิป A19 รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพด้านการจัดการพลังงานที่ดีกว่าเดิมถึง 25% ร่วมกับหน้าจอ OLED รุ่นใหม่แบบ LTPO ที่รีเฟรชเรตแปรผันได้ เพื่อให้การใช้งานในชีวิตประจำวันยังคง “อึด” เทียบเท่ารุ่นที่แบตใหญ่กว่า
Apple ยังมุ่งเน้นให้ iPhone 17 Air เป็นรุ่นที่เจาะกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการมือถือที่ “เบา” เป็นพิเศษ โดยคาดว่าตัวเครื่องจะบางกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมา พร้อมตัวเครื่องแบบ Unibody ผิวสัมผัสแมตต์ใหม่ น้ำหนักอาจไม่ถึง 140 กรัม ซึ่งเป็นจุดขายที่แตกต่างจากรุ่น Pro อย่างชัดเจน
แม้จะมีแบตลดลง แต่ iPhone 17 Air ยังคงรองรับระบบชาร์จเร็ว MagSafe และคาดว่าจะมาพร้อม USB-C เต็มรูปแบบ รองรับ PD ชาร์จไวถึง 30W อีกทั้งยังมีข่าวลือว่า Apple กำลังทดสอบ โหมดประหยัดพลังงาน AI ซึ่งจะช่วยยืดอายุแบตระหว่างวันให้ยาวนานขึ้นโดยไม่กระทบกับความลื่นไหลในการใช้งาน
ในยุคที่ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับขนาดและน้ำหนักของอุปกรณ์พกพา iPhone 17 Air แบตลดลง อาจไม่ใช่ข้อเสีย แต่คือจุดเปลี่ยนที่เปิดแนวทางใหม่ให้ Apple พัฒนาอุปกรณ์ที่บาง เบา แต่ยังคงพลังและประสิทธิภาพครบครัน ซึ่งหากข่าวนี้เป็นจริง จะเป็นการพลิกภาพจำของมือถือแบตใหญ่แต่หนัก ไปสู่การใช้ชิปและเทคโนโลยีแบตอัจฉริยะเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม
เครดิต sanook.com
