10 ที่เด็ด เที่ยวภาคใต้ ที่เที่ยวสวยๆ ทะเลสวย น้ำใส ไปแล้วฟินแน่นอน
10 ที่เด็ด เที่ยวภาคใต้ นอกจากทะเลจะมีน้ำใส หาดทรายขาวแล้ว สายมูก็ไม่ควรพลาดนะ
หาสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ผลข่าว.COM
10 ที่เด็ด เที่ยวภาคใต้ 1. เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
10 ที่เด็ด เที่ยวภาคใต้ คงไม่พ้นเกาะสมุย ซึ่งนับเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวไทย 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบ ล้อมรอบด้วยภูเขา ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงคลื่นลมสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด เกาะสมุย เป็นเกาะที่มีหาดทรายที่สวยทรายสีขาวมีชื่อหลายแห่ง อาทิ หาดเฉวง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม หาดละไม นักท่องเที่ยวที่ต้องการหาดทราย ทะเล สายลม และแสงแดด มีต้นมะพร้าวริมชายหาด ชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล และน้ำทะเลใสมาก ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องกลับไปเที่ยวซ้ำบ่อยๆ แน่นอน
ที่ตั้ง : อ.เกาะสมุย .สุราษฎร์ธานี
2. เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นเกาะที่มีเกาะเล็กๆ 3 เกาะเชื่อมกันอยู่ บรรยากาศช่างเงียบสงบ สามารถเห็นหาดทรายเชื่อมกันเวลาที่น้ำลงเป็นเกาะที่มีหาดทรายละเอียดขาว น้ำทะเลใสมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสงบเป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้น และน้ำลึกที่ยังคงความสมบูรณ์และสวยงามที่นักนิยมการดำน้ำมักจะแวะเวียนมาอยู่เสมอ
บนเกาะยังมีจุดชมทัศนียภาพที่สามารถจะมองหาดทรายสามหาดที่เชื่อมต่อกันได้อย่างสวยงามและมีที่พักอยู่ตามไหล่เขาทำให้สามารถมองเห็นความงามของท้องทะเลได้
ที่ตั้ง : อ.เกาะสมุย .สุราษฎร์ธานี
3. เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล
เกาะหลีเป๊ะ หรือ เกาะลีเป๊ะ เป็นเกาะกลางทะเลอยู่ในเขตจังหวัดสตูล อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง ห่างจากแผ่นดินของจังหวัดสตูล 85 กิโลเมตร เขตอำนาจการควบคุมของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาในจังหวัดสตูล จุดเด่นของทางเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มนวล ขาวเหมือนกับแป้งเป็นชายหาดบนเกาะที่อุดมไปด้วยท้องทะเลที่สดใสสะอาด สวยงาม เป็นเกาะที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว และมีน้ำที่ตื้นเขิน เกาะหลีเป๊ะ มีชายหาดที่สำคัญ ๆ อยู่ 4 หาด ได้แก่
- หาดพัทยา จะอยู่ทางตอนใต้ของเกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเป็นอับดับ 1
- หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหลีเป๊ะ ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านชาวเล
- หาดคาร์มา จะอยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งหันหน้าเข้ากับเกาะอาดัง
- หาดซันเซ็ท อยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งหันหน้าเข้ารับแสงของพระอาทิตย์ ตามชื่อเรียกของหาด
เกาะหลีเป๊ะ ถือเป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางตอนใต้ของทะเลอันดามันของไทย เนื่องจากพื้นที่ถัดไปคือทะเลสากลที่เชื่อมกับทะเลของประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย เป็นเกาะที่มีความกว้างระหว่างหัวเกาะไปท้ายเกาะประมาณ 3 กิโลเมตร จัดเป็นเกาะขนาดเล็ก
ที่ตั้ง : อ.เมือง จ.สตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/UW8e9u3VHAkCuNuV6
4. เกาะลังกาจิว & เกาะกุลา จ.ชุมพร
เกาะลังกาจิว ตั้งอยู่ในท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย ในพื้นที่ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ บริเวณรอบ ๆ ของเกาะลังกาจิวจะมีแนวปะการังหนาแน่นและสวยงามมาก น้ำทะเลสวยใส จึงสามารถมองเห็นแนวปะการังได้จากบริเวณชายหาด หาดทรายก็ขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ได้รับสัมปทานรังนกจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
นอกจากนั้น ยังมีลายพระหัตถ์จารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สลักอยู่บนผาหินหน้าปากถ้ำรังนก คราวที่เสด็จประพาสทอดพระเนตรการเก็บรังนกอีแอ่น ปรากฏปี ร.ศ. 108 นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริปจากเมืองชุมพร หากใครที่อยากไปกางเต็นท์นอนชิลล์ๆ ที่เกาะ แนะนำว่าให้ลองไปแคมป์ปิ้งที่เกาะกุลาดูนะคะ จะได้เสน่ห์ไปอีกแบบ
ที่ตั้ง : ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร
พิกัด : https://goo.gl/maps/U9WC5FCjSEw1DP1QA
5.เขื่อนเชี่ยวหลาน (เขื่อนรัชชประภา) จ.สุราษฎร์ธานี
เขื่อนรัชประภา หรือที่เรา รู้จักกันดีในชื่อ ว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” อันเป็นชื่อดั้งเดิม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบัน เป็นชื่อที่ได้พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทะเลสาบเหนือเขื่อนเต็มไปด้วย ภูเขาหินปูนธรรมชาติที่มีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตา รวมกับนำทะเลใสๆ เหมาะกับนั่งเรือถ่ายรูปเอามากๆ
ที่ตั้ง : ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/ADaeDT94bc9zUj169
6. เกาะพยาม จ.ระนอง
สำหรับหนึ่งในเจ้าของฉายามัลดีฟส์เมืองไทย นั่นก็คือ“เกาะพยาม” นั่นเอง เกาะพยาม เป็นเกาะสวยใสแห่งอันดามัน เจ้าของฉายา “มัลดีฟส์แห่งเมืองไทย”เป็นฉายาของสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในบ้านเรา ที่มีทั้งแม่น้ำ ทะเล ทะเลสาบ ที่ให้บรรยากาศและมุมมองดูเหมือน “เกาะมัลดีฟส์” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในฝันสวรรค์ของคนรักทะเลเลยแหละค่ะ
บนเกาะพยามไม่ได้มีเสน่ห์แค่เฉพาะมุมมัลดีฟส์เมืองไทยเท่านั้น หากแต่บนเกาะแห่งนี้ยังมีอีกหลายมุมให้เราได้ไปสัมผัสในมนต์เสน่ห์ความงามกัน ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ หาดทรายชายทะเล วิว วิถีชีวิตของคนบนเกาะ ล้วนทำให้เราตกหลมรักจนต้องไปซ้ำแน่นอน
ที่ตั้ง : อ.เมือง จ.ระนอง
พิกัด : https://goo.gl/maps/tGfHtC5fgFGkdEfz9
7. ภูเขาหญ้า จ.ระนอง
ภูเขาหญ้าหรือเขาหัวล้านหรือเขาผี เป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น ในแต่ละฤดูจะได้บรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันไป ในฤดูฝนมีหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุมแนวเขา บางครั้งจึงเรียกว่า ภูเขาหญ้า ส่วนในฤดูหนาวและฤดูร้อนจะได้บรรยากาศของหญ้าแห้งสีน้ำตาลก็ให้ความรู้สึกอลอุ่นไปอีกแบบ ที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบแบบ 360 องศา ยังได้รูปสวยๆ ที่ถ่ายได้มินิมอลมากๆ
ที่ตั้ง : ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง
พิกัด : https://goo.gl/maps/jUMGQEVqwGEUqdbg9
8. วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) จ.นครศรีธรรมราช
สถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้นเมื่อก่อนได้มี หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ดังของสายปักษ์ใต้ซึ่งได้เดินทางกลับจากกรุงศรีอยุธยา และมาปักกรด เดินธุดงค์ อยู่บริเวณนั้นเพื่อพักแรมส่วนไอ้ไข่นั้น อายุประมาณ 9 – 10 ขวบเป็นลูกศิษย์ซึ่งติดตามหลวงปู่ทวดมาด้วย เมื่อหลวงปู่ทวดมาถึงสถานที่ดังกล่าวกลับพบว่ามีทรัพย์สมบัติ และ ศาสนสถานนั้นเป็นสถานที่ที่สำคัญมากจึงได้ให้ ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติและสถานที่ดังกล่าว ณ ที่นั้น และหมู่บ้านนั้นภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “หมู่บ้านโพธิ์เสด็จ” จวบเท่าปัจจุบัน
และตามคำบอกเล่ายังกล่าวเน้นคำว่า “สัจจะ” เป็นเรื่องสำคัญมากเท่าที่ประสบ และพบเจอมาเมื่อท่านบนบานศาลกล่าวอะไร ก็ต้องนำสิ่งของนั้นมาแก้บนด้วย สมดั่งคำร่ำลือ “ขอได้ ไหว้รับ” อย่างแน่นอน สายมูไม่ควรพลาดนะ
ที่ตั้ง : ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
9. ท่าปอม คลองสองน้ำ จ.กระบี่
มีจุดเด่นคือ ลำคลองมีทั้งช่วงที่น้ำจืดสนิท และช่วงที่มีน้ำกร่อยเมื่อน้ำทะเลลดน้ำในคลองจืดสนิทยามน้ำทะเลขึ้นก็เปลี่ยนเป็นคลองน้ำเค็มได้ลำธารที่ใสสะอาดราวกระจก แหล่งศึกษาเชิงนิเวศวิทยาเพื่อเรียนรู้ความสมบูรณ์ของธรรมชาติทั้งในแง่ของทางน้ำใต้ดินและพืชพรรณที่สามารถเติบโตได้ทั้งในน้ำและบนดิน คลองสองสายน้ำ อุดมไปด้วยหญ้าทะเลเขียวสดงอกงามจำนวนมากทำให้สามารถพายเรือแคนูในคลองสองน้ำได้หรือใช้เส้นทางเดินธรรมชาติ
เมื่อพายเรือมาผ่านป่าพรุน้ำจืดและรอยต่อป่าสองถิ่นตลอดแนวลำคลอง ความยาวประมาณ 700 เมตร ตลอดทางเดินนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความงามของพื่ชวงศ์ปาล์ม และผักพื้นบ้านนานาชนิด เรียกได้ว่าได้ชมธรรมชาติแบบเต็มอิ่มสุดๆไปลย
ที่ตั้ง : ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่
พิกัด : https://goo.gl/maps/rymZyrS7Jjdhb6er5
10. ปราสาทหินพันยอด จ.สตูล
ปิดท้ายด้วยปราสาทหินพันยอด ชายหาด บวกเข้ากับน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหินหน้าตาคล้ายกับปราสาทที่มียอดแหลมนับพัน เป็นที่แปลกตาและสวยเอามากๆ ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านบ่อเจ็ดลูก ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จังหวัดสตูล เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกมากว่าหลายร้อยล้านปีทำให้หินมีรูปร่างแปลกตา
การมาเที่ยวที่นี่ต้องพายเรือคายัคลอดผ่านช่องแคบเข้าไป เพื่อดูหินทรงปราสาท นอกจากปราสาทหินพันยอด เกาะเขาใหญ่แล้ว ทางชุมชนยังมีบริการนำเที่ยวเส้นทางพายเรือคายัคชมสันหลังมังกรตัวเล็กหรือทะเลแหวก ที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดบ้านบ่อเจ็ดลูกด้วยนะ หากใครสนใจไปได้เลย
ที่ตั้ง : ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/8uosF5tuFTZWMtgR8
เรื่องราวเพิ่มเติม
แบนเกาหลีได้ผล สาเหตุนักท่องเที่ยวไทยเซ็ง ตม. ทำลดฮวบ 21.1%
บาหลี เก็บภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ดอลลาร์บาหลี
แม่เต่ามะเฟือง สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์วางไข่รังที่ 10 ของฤดู