ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เชลซีเป็นฝ่ายเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ 2-1 จาก ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในศึกพรีเมียร์ลีก 2025-26
เอสเตเวา มายิงประตูชัยช่วงทดเจ็บนาที 90+6 ให้ เชลซี เปิดบ้านชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเกมนี้ทั้ง เอ็นโซ่ มาเรสก้า โดนใบแดง ขณะที่ อาร์เน่อ สล็อต ก็โดนใบเหลืองเช่นกัน ซึ่งผลเกมนี้ทำให้ “หงส์แดง” เสียตำแหน่งจ่าฝูงให้อาร์เซน่อล ในศึกพรีเมียร์ลีก 2025-26
เอ็นโซ่ มาเรสก้า ปรับทีมเชลซี 3 จุด หลังชนะ เบนฟิก้า ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก จอช อาเชียมปง แทน เทรวอห์ ชาโลบาห์ ที่ติดแบน ส่วน รีช เจมส์ กลับมายืนเป็นมิดฟิลด์ โดยใช้ ชูเอา เปโดร จบสกอร์ อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
อาร์เน่อ สล็อต ปรับ 5 ตำแหน่งจากเกมลิเวอร์พูลแพ้ กาลาตาซาราย 0-1 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเกมนี้จับ ฟลอเรียน เวียตซ์ เป็นสำรองเท่านั้น โดยมี อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้สตาร์ตแทน ฮูโก้ เอกิติเก้ ที่เจ็บ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ได้เฝ้าเสาแทน อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่เดี้ยงเช่นกัน
นาทีที่ 14 กลายเป็น เชลซี 1-0 ขึ้นนำจากลูกยิงไกลสุดสวยระยะประมาณเกือบ 25 หลาของ มอยเซส ไกเซโด้ ที่รับบอลมาจาก มาโล่ กุสโต้ และไม่มีตัวประกบก่อนกดด้วยขวาบอลพุ่งเป็นลูกไฟเข้าไปชนิดที่ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ หมดสิทธิ์ป้องกัน
นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูตีเสมอ แต่ เบอนัวต์ บาเดียชิล มาบล็อกลูกยิงของ โดมินิค โซบอสซ์ไล เอาไว้ได้
นาทีที่ 39 อเลฮานโดร กานาร์โช่ ถูก โดมินิค โซบอสซ์ไล ผลักล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทยเลอร์ บอกไม่ฟาวล์ และ VAR เช็กซ้ำแล้วไม่เป็นจุดโทษ เล่นเอา เอ็นโซ่ มาเรสก้า ไม่พอใจและโดนใบเหลืองจากการประท้วง
ช่วงท้ายครึ่งแรก ทั้งสองทีมที่ครองบอลเปอร์เซนต์ใกล้เคียงกัน แต่ ลิเวอร์พูล ยังเรียกประตูตีเสมอไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก เชลซี นำ 1-0
กลับมาครึ่งหลังลิเวอร์พูล ปรับเปลี่ยนผู้เล่นด้วยการส่ง ฟลอเรียน เวียตซ์ ลงมาแทน คอนอร์ แบร็ดลี่ย์ และถอย โดมินิค โซบอสซ์ไล ไปยืนแบ็คขวา
นาที 51 ไรอัน กราเฟนแบร์ก หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงแต่ โรเบิร์ต ซานเชซ ยังป้องกันเอาไว้ได้
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง แม้ ลิเวอร์พูล จะทำได้ดี แต่เชลซี ก็ยังเล่นเกมรับได้แข่งแกร่ง ทำให้สกอร์ยังคงเดิม
นาทีที่ 63 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 เป็นจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กระดกบอลต่อจาก โดมินิค โซบอสซ์ไล ที่ครอสจากสุดเส้นมาลูกมาถึง โคดี้ กัคโป ยิงจ่อๆ ด้วยขวาเข้าไป
นาที 68 จอช อาเชียมปง เล่นต่อไม่ไหวเชลซี ต้องส่ง จอร์เรล ฮาโต้ ทำให้เวลานี้ “สิงห์บูลล์” เสียเซ็นเตอร์ไปแล้วถึง 6 คน
นาทีที่ 73 รีช เจมส์ ไปปะทะ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ล้มในกรอบ แต่ผู้ตัดสินโบกมือว่าไม่เป็นจุดโทษแต่อย่างใด
นาทีที่ 80 แฟนหงส์แดง มีเสียว เมื่อ ไรอัน กราเฟนแบร์ก เกือบโหม่งลูกที่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เปิดมาเข้ามาประตูตัวเอง
นาที 82 อาร์เน่อ สล็อต มาโดนใบเหลืองจากการประท้วง เขาคิดว่าทีมของตัวเองน่าจะได้เตะฟรีคิกจากจังหวะที่กุสโติ เข้าสกัดกัคโป
นาทีที่ 84 จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ มาปัดลูกยิงของ เจมี่ กิตเท่นส์ และ เอสเตเวา 2 ตัวสำรองของเชลซี
ช่วงทดเจ็บ 7 นาที เชลซี มาได้ประตูชัยในนาที 90+6 จาก เอสเตเวา ตัวสำรอง และช่วงนาทีที่ 90+ 8 เอ็นโซ่ มาเรสก้า มาโดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกทำให้จบเกมนี้ เชลซี เฉือนชนะ 2-1 มีเพิ่มเป็น 11 แต้ม ขึ้นอยู่อันดับ 6 ส่วน ลิเวอร์พูล มี 15 คะแนน หล่นจากฝูง หลัง อาร์เซน่อลชนะ เวสต์แฮม เมื่อเกมหัวค่ำทำให้มีเพิ่มเป็น 16 แต้ม
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – มาโล่ กุสโต้, จอช อาเชียมปง , เบอนัวต์ บาเดียชิล, มาร์ก กูกูเรย่า – รีซ เจมส์, มอยเซส ไกเซโด้ – เปโดร เนโต้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเลฮานโดร กานาร์โช่ – ชูเอา เปโดร
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ – คอนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, มิลอส เคอร์เคซ – ไรอัน กราเฟนแบร์ก, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, โคดี้ กัคโป – อเล็กซานเดอร์ อิซัค
เครดิต pptvhd36
