มาร์ค แจ็คสัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนป้ายแดงของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศกร้าวปราสาทสายฟ้า พร้อมชน เมลเบิร์น ซิตี้ ศึก ACL ELITE เกมที่ 3
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท (AFC CHAMPIONS LEAGUE ELITE 2025/26) ลีกสเตจ เกมที่ 3 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อันดับ 7 ที่มี 3 คะแนน มีคิวออกไปเยือน เมลเบิร์น ซิตี้ ทีมแกร่งจากเอลีก ลีกสูงสุดของประเทศออสเตรเลีย ทีมอันดับสุดท้าย ที่ยังไม่มีคะแนน จากการลงสนาม 2 นัดเท่ากัน อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
โดยจะฟาดแข้งกันในวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568 ณ สนามเมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม คิกออฟเวลา 14.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งช้ากว่าเวลาท้องถิ่น 4 ชั่วโมง ในศึก ACL ELITE เกมที่ 3
โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี มาร์ค แจ็คสัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนป้ายแดง ของกองทัพปราสาทสายฟ้า ที่เคยคุมทีมดังในดินแดนจิงโจ้ อย่าง สโมสรเซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส พร้อมด้วย เคอร์ติส กู๊ด ปราการหลัง ดีกรีอดีตทีมชาติออสเตรเลีย ที่เติบโตมาจากทีม เมลเบิร์น ซิตี้ เข้าร่วมแถลงข่าว
โดย มาร์ค แจ็คสัน เปิดเผยถึงเกมในวันพรุ่งนี้ว่า “มันรู้สึกค่อนข้างแปลกแต่ก็ตื่นเต้นมากสำหรับผม ได้มาทำงานกับสโมสรใหม่ และเป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวแทนของทีมใหญ่ในประเทศไทย ทีมให้การต้อนรับผมดีมาก ทั้งสตาฟและนักเตะ ทุกคนให้ความร่วมมือ และเข้าใจแนวทางที่เราต้องการจะเล่น
ผมรู้สึกว่าเราพร้อมสำหรับเกมนี้แล้ว เราต้องการชัยชนะเพื่อกลับมามีลุ้นเข้ารอบ ความคาดหวังมีอยู่เสมอทั้งจากสโมสร และจากของผมเอง แต่ผมมองว่าความกดดันคือสิ่งที่ดี มันทำให้เรามุ่งมั่นมากขึ้น เราได้ซ้อม และปรับระบบให้เข้าที่มากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าลูกทีมของผมพร้อมสำหรับเกมในวันพรุ่งนี้”
ผู้สื่อข่าวถามถึงคู่แข่งอย่าง เมลเบิร์น ซิตี้ ที่กุนซือป้ายแดงปราสาทสายฟ้า รู้จักเป็นอย่างดี ถึงข้อได้เปรียบ มาร์ค แจ็คสัน เผยว่า “ผมรู้จักพวกเขาดีกว่าทีมอื่น ๆ เพราะเคยอยู่ที่นี่มา 2 ปี ผมกับ เคอร์ติส กู๊ด ก็พูดคุยกันบ่อยเกี่ยวกับแนวทางของพวกเขา
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องโฟกัสที่ทีมของเราเอง เราศึกษาพวกเขาไว้บ้างแล้ว แต่เราจะเน้นการเล่นในสไตล์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และพยายามแสดงแนวทางของเราในสนามให้ทุกคนได้เน ไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้า หรือเกมเยือน”
การมารับงานต่อจาก ออสมาร์ ลอสส์ ที่พาทีมคว้า 4 แชมป์ มีความกดดันมากแค่ไหน กุนซือชาวอังกฤษ เผยว่า “สโมสรใหญ่ย่อมมีความกดดันอยู่แล้ว แต่ผมมองว่าความกดดันเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เราต้องโฟกัส และพัฒนาตลอดเวลา ผมเข้าใจสิ่งนี้ดี
และพร้อมรับมือกับมัน การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติของฟุตบอล สิ่งสำคัญคือเราต้องปรับตัวให้เร็ว และทำให้ทีมกลับมาชนะอีกครั้ง ผมเคารพในสิ่งที่ทีมเคยทำได้ และจะค่อย ๆ ใส่แนวทางการทำทีมของผมอย่างค่อยเป็นค่อยไปกับนักเตะ”
นอกจากนี้สื่อยังถามย้อนไปถึงการคุมทีมเก่าอย่าง สโมสรเซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส และการต้องลาจากทีม กุนซือปราสาทสายฟ้า ร่ายยาวว่า “ผมมีช่วงเวลาที่ดีมากที่นั่น และจะจดจำไว้เสมอ แต่ผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมที่เราจะเกินไปต่อสู่ความท้าทายใหม่ ที่ ๆ มีสิ่งที่ดึงดูดผมมากกว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง ผมอยากเดินไปข้างหน้า
และโฟกัสกับสิ่งที่เรากำลังสร้างที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟุตบอลคือการเรียนรู้ไม่มีหยุด ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น หรือโค้ช ทุกครั้งที่ผ่านการแข่งขันคุณจะได้อะไรใหม่เสมอ ผมได้เรียนรู้มากมายจากช่วงเวลาที่คุมทีมเซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส
โดยเฉพาะใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ผมรู้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าสไตล์การทำทีมของผมคืออะไร และการได้ทำงานกับนักเตะที่มีคุณภาพสูงแบบบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือโอกาสที่ดีมาก ๆ ในการนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับใช้”
ส่วน เคอร์ติส กู๊ด เปิดเผยก่อนเกมถึงการต้องมาเยือนถิ่นเก่าว่า “มันรู้สึกแปลกที่ต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง แต่ในฐานะคู่แข่งของ เมลเบิร์น ซิตี้ ที่นี่เองผมยังรู้จักนักเตะ และทีมงานสตาฟโค้ชหลายคนเป็นอย่างดี มันจะเป็นเกมที่พิเศษมาก ๆ แน่นอน ตัวผมเองตั้งตารอที่จะได้เจอกับพวกเขาอีกครั้งในสนามในเกมพรุ่งนี้
ซึ่งผมดีใจที่ได้เห็นเด็ก ๆ ที่รู้จักเหล่านี้พัฒนา และได้โอกาสลงเล่น ตัวอย่างเช่น แม็กซ์ คาปูโต กองหน้าเบอร์ 17 วัย 20 ปี ตอนผมอยู่ที่นั่นเขายังซ้อมกับทีมระดับเยาวชนอยู่เลย แต่ตอนนี้เขาขึ้นมาเป็นตัวหลักให้ทีมแล้ว ถือว่าพัฒนาเร็วมาก”
“ส่วนเกมการแข่งขันพรุ่งนี้ต้องบอกว่าการเล่นของทีมของ เมลเบิร์น ซิตี้ จะเน้นเกมรับ และครองบอลเหนียวแน่น ผมคิดว่าพวกเขาจะทำให้เกมนี้เป็นเกมที่ยากสำหรับเรา แต่อย่างไรก็ดีผมก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ดวลกับพวกเขาอีกครั้ง”
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นยังสอบถามถึงการถูกเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษของ PFA คุณคิดว่าลีกออสเตรเลีย จะสร้าง และรักษานักเตะอย่างคุณขึ้นมาได้อย่างไร กู๊ด เผยว่า “คำถามนี้ตอบยาก ผมอยู่ที่นี่มาหกปีเต็ม เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก เราประสบความสำเร็จทุกอย่าง
แต่ผมรู้สึกว่าอยากลองออกไปหาประสบการณ์ใหม่เหมือนที่นักเตะหลายคนทำ การมาที่ไทย เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ผมไม่เสียใจเลย เพราะได้เรียนรู้ และสนุกกับการเล่นฟุตบอลในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไป”
สำหรับผลการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท (AFC CHAMPIONS LEAGUE ELITE 2025/26) ลีกสเตจ 2 เกมที่ผ่านมา ของทั้ง 2 ทีม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบุรีรัมย์ สเตเดียม เอาชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ไปได้ 2-1 และบุกไปพ่าย เอฟซี โซล 0-3 มี 3 คะแนน
ส่วน เมลเบิร์น ซิตี้ เปิดบ้านแพ้ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา 0-2 และบุกไปพ่าย วิสเซล โกเบ 0-1 ยังไม่มีคะแนน
เครดิต pptvhd36