บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกพ่าย ชลบุรี เอฟซี ที่เหลือ 10 คน ด้วยสกอร์ 2-4 ทำให้ ปราสาทสายฟ้า พ่ายเป็นนัดแรกในศึกThai League 1 ฤดูกาล 2025/26
เกมนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นตั้งแต่นาทีแรก ก่อนจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น ชลบุรี เอฟซี ที่เฉือนเอาชนะไป 2-1 แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ในช่วงท้ายเกมก็ตาม อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตาราง มี 25 คะแนน จาก 9 นัด บุกเยือน “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี อันดับ 13 ที่มี 8 คะแนน จาก 10 นัด ในศึก Thai League 1 ฤดูกาล 2025/26
นาทีที่ 16 จากจังหวะที่ กิตติพงษ์ แสนสนิท เติมเกมขึ้นทางซ้าย ก่อนโยนข้ามแนวรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปถึง อูเกอร์ ฟาน ลิงเกน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ นีล เอเธอร์ริดจ์ เข้าประตู เจ้าถิ่น ชลบุรี เอฟซี ออกนำ 1-0
นาทีที่ 22 อูเกอร์ ฟาน ลิงเกน สลัดตัวประกบจาก ศศลักษณ์ ไหประโคน ก่อนเปิดยัดเข้ากลางประตูให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ได้ซัดทันที แต่ลูกยิงยังไม่ตรงกรอบ ทำให้สกอร์ยังคง 1-0
นาทีที่ 23 เกมยังเป็นของฝั่งเจ้าบ้าน อูเกอร์ ฟาน ลิงเกน ได้บอลจาก ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ก่อนแตะหนี โรเบิร์ต บาวเออร์ ซัดด้วยขวา แต่ลูกยิงยังถูก นีล เอเธอร์ริดจ์ เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 30 ชลบุรี เอฟซี ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน หลังผู้ตัดสินเช็ก VAR จังหวะที่ เลสลีย์ อับโลห์ เข้าสกัดเปิดปุ่มย้ำข้อเท้าของ โกรัน เคาซิซ กองกลาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และถูกตัดสินให้เป็นใบแดงโดยตรงจากจังหวะนี้
นาทีที่ 39 ชลบุรี เอฟซี เกือบได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อดิศักดิ์ ไกรษร แทงบอลทะลุช่องให้ อูเกอร์ ฟาน ลิงเกน หลุดเดี่ยวไปยิง แต่ลูกยิงยังถูก นีล เอเธอร์ริดจ์ เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 40 ชลบุรี เอฟซี เกือบได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โจนาธาน โบลินกิ โชว์ดูดบอลในกรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แต่ผู้ตัดสินมองว่า โบลินกิ มีการฟาวล์ใส่ โรเบิร์ต ซูลจ์ ส่งผลให้ทัพ “ฉลามชล” ยังไม่ได้ประตูจากจังหวะนี้
นาทีที่ 45 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกือบตีเสมอเมื่อ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เปิดบอลให้ โกรัน เคาซิซ วอลเลย์ด้วยขวาเต็มแรง แต่ลูกยิงยังถูก เควิน เมนโดซา ปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม “ปราสาทสายฟ้า” ยังตามหาประตูตีเสมอต่อไป
นาทีที่ 45+9 โรเบิร์ต ซูลจ์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาหน้าปากประตูให้กับ กิลเยร์เม บิสโซลี ที่ได้ขึ้นโหม่งคนเดียว แต่ลูกโหม่งของดาวซัลโวทัพ “ปราสาทสายฟ้า” หลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0
เริ่มครึ่งหลังนาทีที่ 48 อูเกอร์ ฟาน ลิงเกน แทงบอลทะลุช่องให้ โจนาธาน โบลินกิ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบด้วยซ้าย บอลผ่านมือ นีล เอเธอร์ริดจ์ เข้าประตู ชลบุรี เอฟซี ขยับหนี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็น 2-0
นาทีที่ 53 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่มา 2-1 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เปิดบอลจากฝั่งขวาให้ กิลเยร์เม บิสโซลี ที่วิ่งสอดเข้ามาหลังสลัดตัวประกบเกมรับของ ชลบุรี เอฟซี ก่อนซัดเข้าประตูไป
นาทีที่ 61 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตีเสมอ ชลบุรี เอฟซี 2-2 โรเบิร์ต ซูลจ์ รับบอลจาก ศศลักษณ์ ไหประโคน ก่อนยิงไกลด้วยขวา แม้น้ำหนักลูกยิงไม่แรง แต่ทว่าบอลไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่นเข้าประตูไป ทำให้สกอร์เกมคู่นี้กลับมาเท่ากันอีกครั้ง
นาทีที่ 67 โรเบิร์ต ซูลจ์ รับบอลจาก ธีราทร บุญมาทัน หลังเตะมุมสั้นร่วมกัน ก่อนที่จอมทัพชาวออสเตรีย เปิดบอลไปยังหน้ากรอบประตู และเป็น โก มยองซอก ที่ขึ้นโหม่งเต็มแรง แต่บอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 68 เควิน เมนโดซา โชว์ซุปเปอร์เซฟอีกครั้ง หลังจาก นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เปิดบอลให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา พักบอลต่อให้ กิลเยร์เม บิสโซลี วิ่งเข้ามาวอลเลย์ด้วยซ้าย บอลพุ่งเต็มแรง แต่ยังไม่ผ่านมือนายด่านชาวฟิลิปปินส์
นาทีที่ 72 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้โอกาสยิงครั้งแรกในเกมนี้ หลังได้โอกาสดีดบอลด้วยขวา แต่ทิศทางและน้ำหนักยังไม่ดีพอ ถูกทาง เควิน เมนโดซา เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 86 ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง 3-2 จากฟรีคิกระยะประมาณ 40 หลา ของ สันติภาพ จันทร์หง่อม แบ็กขวาของทีม บอลพุ่งเข้าสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม
นาทีที่ 90+12 ชลบุรี เอฟซี ขยับสกอร์หนีห่างเป็น 4-2 จากจังหวะจุดโทษที่ เกร็ก ฮูลา ที่เป็นคนเรียกจุดโทษในจังหวะนี้ หลังจากซัดบอลไปติดมือ ศศลักษณ์ ไหประโคน ในจังหวะก่อนหน้า ก่อนที่จะเป็น เกร็ก ฮูลา ที่เป็นคนมาสังหารเข้าไปกลางประตู
แม้เจ้าถิ่นจะต้องเหลือผู้เล่น 10 คนในนาทีที่ 82 หลัง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ทีมยังคงเล่นเกมรับเหนียวแน่นจนจบเกม คว้า 3 คะแนนสำคัญในบ้านได้สำเร็จ
หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีโอกาสการทำประตูเพิ่มเติม จบเกม ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบสุดมันส์ 4-2 มีเพิ่มเป็น 11 แต้ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 10 ของตาราง ส่วนทีมเยือน มี 25 แต้มเท่าเดิม ยังครองจ่าฝูง
เสียงหลังเกม
โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ กุนซือชลบุรี กล่าวหลังเกมว่า
“เด็กทุกคนแสดงหัวจิตหัวใจของนักสู้ แม้จะเหลือ 10 คนก็ไม่ยอมแพ้ เราเล่นเพื่อศรัทธาแฟนบอลชลบุรีทุกคน
ด้าน อิศเรศ น้อยใจบุญ รักษาการโค้ชบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า
“เรามีโอกาสหลายครั้งแต่จบไม่คม เกมนี้ต้องยอมรับความเด็ดขาดของชลบุรี และเราจะกลับไปแก้ไขในเกมต่อไป”
เครดิต pptvhd36
