พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล บุกชนะ สเปอร์ส 9 คน ขยับขึ้นที่ 5

Liverpool

อูโก้ เอกิติเก้ ทำประตู 3 นัดติดกัน ช่วยให้ Liverpool บุกมาชนะ สเปอร์ส 9 คน 2-1 โดยเกมนี้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค อีกคนที่ทำประตูแต่สุดท้าย

โธมัส แฟรงค์ กุนซือสเปอร์สเกมนี้มีการปรับเพียงจุดเดียวจากเกมล่าสุดที่บุกแพ้ ฟอเรสต์ 3-0 โดย ลูคัส เบิร์กวาลล์ ได้สตาร์ตแทน ริชาร์ลิซอน ด้าน ป๊าป มาตาร์ ซาร์ และ อีฟส์ บิสซูม่า ทั้งคู่เดินทางไปรับใช้ทีมชาติในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2025 อ่านผลข่าวเพิ่มเติม

Liverpool

ทางฝั่ง อาร์เน่อ สล็อต เฮดโค้ช Liverpool มีการปรับหนึ่งตำแหน่ง จากเกมเปิดบ้านชนะ ไบรท์ตัน 2-0 โดย คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ ที่พ้นแบนลงแทน โจ โกเมซ ที่เจ็บพอดี ส่วน โม ซาล่าห์ เดินทางไปเล่นให้อิยิปต์ ในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2025

เกมผ่านไป 20 นาที สเปอร์ส ที่ครองบอลได้ถึง 54 % และมีโอกาสลุ้นทำประตูมากกว่า แต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้

นาทีที่ 27 เจด สเปนซ์ โหม่งชงไปให้ ร็องดาล โกโล มูอานี่ ได้โขกแต่บอลเบาไป อลีสซง เบ็คเกอร์ รับกินสบาย

นาทีที่ 33 สเปอร์ส มาเหลือ 10 คน เมื่อ สจ๊วร์ต แอ็ตเวลล์ ไปดู VAR จากจังหวะที่ ชาวี ซีมอนส์ ไปย่ำใส่ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค โดยเปลี่ยนจากให้ใบเหลืองเป็นใบแดง

นาทีที่ 37 กูเยลโม่ วิคาริโอ มาโชว์ซูเปอร์เซฟปัดลูกยิงของ ฟลอเรียน เวียตซ์ เอาไว้ได้

ช่วง 5 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก สเปอร์ส ที่ตัวน้อยกว่า เน้นรอจังหวะสวนกลับจาก ลิเวอร์พูล เจาะไม่เข้า และเกือบได้ลุ้น 1-2 ครั้งเช่นกัน จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล นำ 1-0

กลับมาครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เปลี่ยน อเล็กซานเดอร์ อิซัค ลงมาแทน คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ ที่เจ็บและถอย โดมินิก โซบอสซ์ไล มายืนแบ็คขวาแทน

Liverpool

นาทีที่ 56 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คริสเตียน โรเมโร่ เปิดไปติด อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ก่อนที่บอลจะมาถึง ฟลอเรียน เวียตซ์ จ่ายให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ยิงด้วยซ้ายให้ สเปอร์ส ขึ้นนำ 1-0

และถือเป็นประตูที่ 2 ของดาวเตะทีมชาติสวีเดน ที่ทำให้กับทีมในฤดูกาลนี้ และจังหวะนี้ อิซัค ก็เจ็บจากจังหวะที่ มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน เข้ามาสกัดในจังหวะยิงจนต้องถูกเปลี่ยนออก

นาทีที่ 64 สเปอร์ส เกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ร็องดาล โกโล มูอานี่ พาบอลเข้าไปในกรอบล ก่อยยิงไปแฉลบ มิลอส เคอร์เคซ บอลมุดลงไปชนคาน

นาทีที่ 66 อูโก้ เอกิติเก้ โหม่งจากลูกที่ เจเรมี่ ฟริมปง เปิดมาให้เข้าไป ทำให้ลิเวอร์พูล นำ 2-0 และถือเป็นการทำประตู 3 นัดติดต่อกันของดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส

นาทีที่ 82 สเปอร์ส ไล่มาเป็น 1-2 ริชาร์ลิซอน ตัวสำรอง ที่ยิงจากจังหวะที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค สกัดลูกที่ ชูเอา ปาลินญ่า เปิดมาไม่โดนมาเข้าทาง ก่อนจะยิงด้วยขวาเข้าไป

ช่วงทดเจ็บ 9 นาที สเปอร์ส มาเหลือ 9 คนนาที 90+3 เมื่อ คริสเตียน โรเมโร่ ไปรับใบเหลืองที่ 2 จากจังหวะไปฟาวล์ใส่ อิบราฮิมา โกนาเต้

จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1 ผ่าน 17 นัด มีเพิ่มเป็น 29 แต้ม ขึ้นไปอยู่อันดับ 5 ส่วน สเปอร์ส มี 22 แต้มเท่าเดิม รั้งอันดับ 13

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม

สเปอร์ส (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ – เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน, เจด สเปนซ์ – โรดริโก้ เบนทานกูร์, อาร์ชี่ เกรย์ – โมฮัมเหม็ด คูดุส, ลูคัส เบิร์กวาลล์ , ชาวี ซีมอนส์ – ร็องดาล โกโล มูอานี่

ลิเวอร์พูล (4-1-2-1-2) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, มิลอส เคอร์เคซ – เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค – โดมินิก โซบอสซ์ไล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ฟลอเรียน เวียตซ์ – อูโก้ เอกิติเก้

Liverpool

เครดิต pptvhd36