เพชรจ้า เคลียร์อวดรวยโชว์รถหรู ถูกมองทำธุรกิจสีเทามั้ย
ถ้าไม่ขาวจริงอยู่ยาก เพชรจ้า เคลียร์ไลฟ์สไตล์อวดรวย โชว์รถหรู ถูกมองทำธุรกิจสีเทามั้ย ลั่นก็ตรวจสอบสิ ดูว่าผมอวดรวยมาก แต่ความเป็นจริงผมปากกัดตีนถีบมากเลยนะอ่านผลข่าวเพิ่มเติม
เป็นอีกหนึ่งคนที่จะถูกสงสัยว่าเกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทาหรือเปล่า สำหรับ ดีเจเพชรจ้า ‘วิเชียร กุศลมโนมัย’ เพราะไลฟ์สไตล์ที่ชอบโพสต์อวดรถหรู หรือรถคลาสสิคที่มีราคาสูง มาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนหลายคนเห็นว่าเป็นพฤติกรรมของพวกกลุ่มคนทำธุรกิจเทา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอ ดีเจเพชรจ้า ที่มาร่วมงานฉลองเปิด “โชว์รูมรถยนต์ไฟฟ้าหรู AVATR11” แห่งแรกในเซาท์อีสต์เอเชีย ณ โชว์รูม AVATR BANGNA ภายในโครงการ แอท ยู พาร์ค บางนา กม.12 หลังจากนั้นจึงได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเรื่องไลฟ์สไตล์อวดรถหรู จนทำหลายคนข้องใจพฤติกรรมความรวย
อวดรถหรู หลายคนสงสัยทำธุรกิจอะไร?
“ใช่ๆ สมัยนี้นะ ถ้าไม่ขาวจริงอยู่ยาก แต่เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะ เพราะว่าค่านิยมที่เอาเงินจากธุรกิจแย่ๆ มาสร้างภาพพจน์ตัวเองเพื่อหลอกให้คนอื่นเชื่อแล้วไปโกงเงินเขาแบบนี้ ไอ้พวกนี้สมควรโดนตำรวจจับไป แต่ตอนนี้คนขาวๆ ก็ไม่อยากโพสต์แล้วนะ จริงๆ”โดนเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะเป็นอีกคนหนึ่งที่
มีรถคลาสสิค แพงๆ ?
“ผมมารุ่นแรกๆ เพราะเราทำคอนเทนต์รถ เราชอบรถทุกสไตล์ จนวันหนึ่งเรามีสตางค์ก็ขยับไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่รถ นาฬิกาก็เหมือนกัน แต่พอได้สัมผัสเราก็ขายเขาออก ก็เอาเงินไปทำอย่างอื่นต่อ”
น้อยใจไหม เล่นพวกนี้คนมองว่าเทา?
“ไม่น้อยใจเลยนะ ก็ตรวจสอบสิ คนที่เขาเทาๆ เขาจะได้ไม่กล้าอวด เขาได้มาผิดกฎหมายนะ ของพี่ตรวจสอบกันไปแล้ว ไอจีมีแต่รถ”
กระแสตอนนี้ก็แรง?
“ตอนนี้คอนเทนต์ในไอจีมันเปลี่ยนไปเยอะมาก ถ้าย้อนกลับไปสิบปีก่อนทุกคนจะพยายามแสดงความหรูหราฟู่ฟ่าหลอกลวงประชาชี ถึงขั้นรูปไม่สวยลงไม่ได้ ต้องไปแต่งให้ชีวิตติดแกรม แต่ตอนนี้คอนเทนต์ดีๆ แนะนำร้านอาหาร อ่านนิทานให้ฟัง อะไรก็ตามสามารถเกิดขึ้นได้เลย โดยไม่ต้องโชว์รวย เมื่อก่อนต้องโชว์รวย”
ตอนนั้นก็ทำแบบนี้ใช่ไหม?
“ไม่ ผมเป็นยุคบุกเบิก ไม่ได้จะโชว์รวย ผมโตมาผมทำงานตลอด ยุคนั้นเราทำงานเก็บตังค์ผมอยากได้เฟอร์รารี่ ผมจะโพสต์ก่อนว่าอยากได้ แล้วทำงานหาเงินมา เมื่อได้เฟอร์รารีจริงๆ ถึงจะโพสต์คู่กับรถ เอาเงินซื้อจริงๆ ประมาณนั้น ยุคนี้ไปโพสต์กับรถใครก็ได้ ไปเช่ามาก็ได้ให้ดูแกรม”
ยังโดนคนถามอยู่ไหม ทำงานอะไร ถึงซื้อรถ 30-40 ล้านได้?
“ผมว่าไม่น่าจะมีนะ ผมเข้าไปพิสูจน์มาหมดแล้ว รวมถึงงานในอดีตที่เราทำมาหมดแล้ว แต่จริงๆ ก็ไม่ได้เหลือเยอะขนาดนั้นนะ แต่ก็ซื้อสิ่งที่ชอบ อย่างแลมโบกินี่พอเสพเสร็จก็ขาย เสร็จก็เอาเงินไปเปิดร้านทำผม เปิดร้านปิ้งย่าง แต่ก็ไม่ได้เหลือขนาดนั้น”
มีคนมาชวนให้เป็นบอสไหม?
“โชคดีมากที่ไม่มี อาจจะเพราะฝั่งนั่นเขาขายเวย์โปรตีน ผมก็ขายเวย์โปรตีนเนี่ยมา 10 ปีแล้ว และมิน่าหล่ะยอดผมดิ่งเลย จริงๆ ไม่ได้พูดเล่นนะ ย้อนไปเมื่อ3ปีที่แล้วแบรนด์ผมน่าจะขายดีที่สุดแล้ว มีลูกค้าเยอะ เราอยู่ในวัตสัน เซ็นทรัล จู่ๆ มาวันหนึ่งยอดขายตก ขายไม่ออก ไปไหนกันวะ อ๋อลูกค้า 6 แสนคน ไปอยู่ที่อื่นแล้ว เรามีแต่ลูกค้าเก่า ไม่มีลูกค้าใหม่ เราก็อ๋อ”
เรื่องที่เกิดขึ้นกับคนบันเทิง เรื่องการโฆษณาต้องระวังขึ้นไหม?
“ไม่นะ ผมว่าเรื่องการระมัดระวังอะไรเนี่ย ก็ใช้ชีวิตตามปกติ เพราะว่าอะไรได้เงินมาเยอะๆ ง่ายๆ ไม่มีอยู่จริง อย่างแบรนด์ผมยอดขายระดับหนึ่ง และก็เพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้เป็น 100 ล้าน 1,000 ล้าน มันเป็นไปไม่ได้ ที่ผมวางไว้คือมียอดขายมากขึ้น เสถียร เมื่อมากขึ้นก็ดันเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เราจะรวยตอนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ไม่ได้จะมารวยตอนปัจจุบัน”
ได้หาตัวแทนขายไหม?
“เมื่อก่อนมี แต่ก็เป็นตัวแทนปกติ อย่างซื้อเวย์ 20 ถัง ก็เอาไปขาย กำไรถังละ 250 เราก็ช่วยทำการตลาดไป”
ตอนนั้นได้ใช้ชีวิตตามกระแสไหม อย่างอวดรวยไหม?
“ชีวิตผมทุกคนจะดูว่าผมอวดรวยมาก แต่ความเป็นจริงผมปากกัดตีนถีบมากเลยนะ อยากได้อะไรมาเราก็ชอบ เราชอบรถก็โพสต์รถ ชอบนาฬิกาก็โพสต์นาฬิกา ไม่มีอะไรหลุดกรอบตัวเองเลย ผมทำรายการรถ ก็จะถ่ายโปรโมต อยู่ที่มุมมองนะ แต่ผมเชื่อว่าคนที่เสพผมเนี่ยเข้าใจหมดแล้ว”
ก็ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่ได้เทาๆ ?
“จะเทาจากไหนหล่ะ อยู่วงการมา 20 กว่าปีนะ (หัวเราะ)”
เครดิต khaosod.co.th
เรื่องราวเพิ่มเติม
โอปอล สุชาตา ในชุด สยามมานุสตรี มิสยูนิเวิร์ส 2024
มาริโอ้ เมาเร่อ คัมแบ็กจอเงิน เล่นหนังในรอบ 3 ปี
กันต์กันตถาวร เผยคำพูด ฟิล์ม หลังในคลิปหลุด20ล้านมีอ้างถึง