แอน ทองประสม รับมือได้ ช่อง3 ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่
แอน ทองประสม รับมือได้ ช่อง3 ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ลั่นต้องแข็งแรงถึงรอด เผยมาตรการเอาสัตว์เข้าฉากในละคร ยกเคสดราม่าเป็นกรณีศึกษาอ่านผลข่าวเพิ่มเติม
ผู้จัดคนเก่ง แอน ทองประสม มาร่วมงานเฉลิมฉลอง “BEAUTY GEMS 60th Anniversary High Jewelry” วันก่อน(11พ.ย.67) ที่ ห้อง Napalai Grand Ballroom ชั้น 1 โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ จากนั้นได้พูดถึงวิกฤตช่อง3 ที่มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ว่ากระทบกับงานผู้จัดของตนเองหรือไม่ รวมไปถึงการทำงานที่ต้องเอาสัตว์มาเข้าฉากในละคร หลังเกิดเคสกับน้องแมวที่กำลังเป็นดราม่าดัง
วิกฤตช่อง3 ที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร กระทบกับงานผู้จัดของเราไหม? “ในรายละเอียดภายในของช่องเราจะไม่ทราบ เพราะว่าเราไม่ได้เข้าไปอยู่ข้างใน แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้จัดก็จะรู้แต่ว่าละครจะถูกคัดสรรค่อนข้างละเอียดขึ้น ไม่ได้ว่าอนุมัติได้ง่ายๆ ต้องนำเสนอกันหลายรอบนิดนึง”
“ทุกวันนี้กว่าละครจะออกมาได้แต่ละเรื่องต้องผ่านหลายด่าน แต่ก่อนอาจจะเร็วกว่านี้ แต่ตอนนี้ก็จะช้าลงหน่อย อย่างตอนนี้ของเรามีอยู่ในกระบวนการที่เตรียมเสนออนุมัติ แต่ยังไม่ได้อนุมัติออกมานะคะ ปกติเราก็จะเสนอทีละเรื่องอยู่แล้ว แต่ที่เห็นว่าปลายปีเรามี 2 เรื่องชนกันเพราะว่าเป็นเรื่องที่มากองรวมกัน จริงๆ เราทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว”
“ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เราก็เห็นด้วยกับมาตรการอะไรบางอย่างของช่อง ชัดเจนไปเลยว่าช่องอยากได้อะไร อยากให้เรานำเสนออะไร ไม่แน่ใจว่าคาแร็กเตอร์ของแต่ละผู้จัดก็อาจจะได้โจทย์ต่างกันหรือเปล่า อย่างของเราก็จะเป็นรักโรแมนติก ถ้าเรานำเสนอแนวบู๊ไปเขาก็คงไม่อนุมัติ แต่ถ้าเป็นผู้จัดท่านอื่นที่ถนัดบู๊ช่องก็อาจจะอนุมัติก็ได้ เหมือนทางช่องคงอาจจะให้ผู้จัดแต่ละคนมีลายเซ็นคาแร็กเตอร์ของใครของมันที่ชัดเจนไปเลย”
นอกจากละครจะอนุมัติยากขึ้นแล้ว งบประมาณก็ลดลงเยอะด้วยไหม? “ด้วยค่ะ อย่างเช่นไปต่างประเทศถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ไป แต่ว่าในคุณภาพที่ทำอยู่ก็เหมือนเดิม เพียงแต่อะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายที่อาจจะยังไม่จำเป็นก็ยังไม่ทำ แต่โดยทางช่องก็รักษามาตรฐานในการทำงานอยู่แล้ว แค่ว่าอะไรที่ดูเป็นโปรดักชั่นที่ใหญ่มากเกินไป ที่ใช้เงินเยอะๆ ไม่จำเป็นก็เก็บไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
“แต่ทั้งหมดมันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงที่เราจะรับได้ เพราะเราไม่ได้เป็นคนที่ทำบิ๊กโปรดักชั่นอยู่แล้ว เราเป็นละครผู้หญิงที่ไม่ได้ตู้มต้าม แล้วก็ไม่ได้เป็นละครประวัติศาสตร์ใหญ่โต ถ้าอย่างนั้นอาจจะใช้เงินเยอะซึ่งอาจจะกระทบหนักหน่อย ส่วนเราก็ทำไปแบบนี้มินิมอลของเรา ซึ่งก็ยังอยู่ในจุดที่เรารับได้อยู่ ถามว่าทางออกของวิกฤตนี้คืออะไร ทางออกก็คือทุกคนต้องแข็งแรงถึงจะรอด คือเราต้องแข็งแรงจริงๆ ต้องทำให้อยู่หมัด และทำให้คนดูชอบจริงๆ ถึงจะรอดค่ะ”
ถามถึงกระแสเกี่ยวกับการเอาสัตว์มาเข้าฉากในละคร ที่ผ่านมาเราเคยต้องเจอเคสแบบนี้ไหม? “เราก็เคยทำละครที่มีสัตว์เข้าฉากค่ะ ตอนนั้นเป็นน้องหมาในเรื่อง “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี” แต่ว่าเขาก็เป็นหมาร่าเริงปกติ ไม่ได้ให้เขามาทำอยู่ในบทบาทที่พิเศษอะไร มันก็เลยไม่ได้มีปัญหา”
“ถามว่ามีมาตรการยังไงในการเอาสัตว์มาเข้าในฉาก กรณีของเราก็จะมีทางเจ้าของที่ต้องดูแลใกล้ชิด ส่วนสัตว์เองก็ต้องผ่านการตรวจมาแล้วว่าไม่ได้เป็นอันตรายกับใคร แล้วก็เป็นน้องหมาที่ได้รับการฝึก และมีใบชัดเจนว่าถูกเทรนมาอย่างดี ส่วนใหญ่เราจะไม่ได้เอาสุนัขหรือสัตว์ที่ไม่ได้มีประสบการณ์มาเข้าฉาก เพราะว่าจะคุมไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเราไม่ได้เอาเขามาทำอะไรที่ยุ่งยาก อีกอย่างเขาก็จะมีระยะของเขาที่โฟกัสได้แค่สั้นๆ เราต้องรีบถ่ายเขาก่อน แล้วเอาเขาไปเก็บ ให้เขาพักให้เขานอนแล้วออกมาใหม่ มันจะมีสูตรของมัน ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของก็จะเป็นคนให้ข้อมูลเรา”
เคสกับน้องแมวล่าสุดที่เกิดขึ้น ค่อนข้างสะเทือนวงการละครเหมือนกัน ตรงนี้มันทำให้เราตระหนักอะไรมากขึ้นอีกไหม? “แอนเข้าใจมุมมองของทุกฝ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นอะไรที่เราได้ศึกษาเรียนรู้ว่าต้องระวังยังไง เพราะเราในฐานะที่ประสบการณ์น้อยกว่าผู้จัดท่านอื่นๆ ด้วย เรายิ่งต้องใส่รายละเอียดค่อนข้างเยอะค่ะ อย่างสมมติถ้าเราไม่รู้บางอย่างเราอาจจะพลาดก็ได้ แต่ว่าตอนนี้มันอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้แล้ว ถ้าจะทำอะไรที่เกี่ยวกับสัตว์ก็ต้องเรียนรู้ค่ะ”
เครดิต khaosod.co.th
เรื่องราวเพิ่มเติม
บุ๋มปนัดดา อวดภาพ น้องอาเธอร์ ลูกชายอายุแค่ 1 วัน
แชมป์ ชนาธิป ไม่มีโปรโมชั่นเดินหน้าเติมรักใส่เต็ม100
แต้ว ณฐพร แง้มแพลนงานแต่ง เผย 1 สิ่งประทับใจในตัว ประณัย