คริสตัล พาเลซ พบ แมนซิตี ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงฯ 17พ.ค.68

คริสตัล พาเลซ พบ แมนซิตี

ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ คริสตัล พาเลซ พบ แมนซิตี ที่เข้าชิงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ในวันที่ 17 พ.ค.68 ไปติดตามความพร้อมกัน

ฟุตบอลเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2024-2025 เดินทางมาถึง รอบชิงชนะเลิศที่สังเวียนเวมบลีย์ ในกรุงลอน คริสตัล พาเลซ ที่เป็นทีมม้ามืดเข้ารอบมา จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เข้าชิงในรายการนี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน อ่านผลข่าวเพิ่มเติม

คริสตัล พาเลซ พบ แมนซิตี

โดยจะเตะกันในเวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย คริสตัล พาเลซ พบ แมนซิตี คู่นี้เจอกันในลีก 2 นัด แมนฯ ซิตี้ บุกไปชนะ ที่เซลเฮิร์ตส์ ปาร์ค 2-2 ก่อนกลับมาถล่มที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม 5-2

โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เฮดโค้ชชาวออสเตรีย รอบรองชนะเลิศ พาทีมชนะ แอสตัน วิลล่า มาได้ 3-0 โดยฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในทุกรายการไม่แพ้ (ชนะ 2 เสมอ 3 ) โดยนัดล่าสุดบุกไปชนะ สเปอร์ส ในเกมลอนดอน ดาร์บี้ 2-0 อดัม วอร์ตัน ที่บาดเจ็บเอ็นข้อเท้า มีโอกาสที่กองกลางทีมชาติอังกฤษจะฟิตกลับมาทันลงเล่นในเกมนี้

โดยจะแทนที่ วิล ฮิจส์ ซึ่งก็มี เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา และ ไดจิ คามาดะพร้อมสอดแทรก เอเบเรชี่ เอเซ่ ที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี ทำไป 5 ประตูจาก 4 เกมหลังสุด และยังมีส่วนร่วมกับ 4 ประตูในเอฟเอ คัพ (ยิงได้ 3 ประตู แอสซิสต์ 1 ครั้ง)

ฤดูกาลนี้จะยืนสนับสนุนเกมรุกร่วมกับ อิสไมล่า ซาร์ โดยมี ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ที่ทำไปแล้ว 17 ประตู รับบทหน้าเป้า ขณะที่ ชาดี รีอัด และ เช็ค ดูกูเร่ ยังคงต้องพักยาว

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” แชมป์รายการนี้่ 7 สมัย พาทีมชนะ ฟอเรสต์ 2-0 มาในรอบรองชนะเลิศ ส่วนฟอร์มล่าสุดพาทีมไม่แพ้ใน 10 เกมหลังทุกรายการ (ชนะ 7 เสมอ 3) ซึ่งเป็นการชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุด

โดยเกมล่าสุดในลีกบุกไปเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับสุดท้าย แบบไร้สกอร์ 0-0 โดยเกมดังกล่าว เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คืนสนามครั้งแรกนับตั้งแต่เจ็บข้อเท้าไปเมื่อปลายเดือนมีนาคม

ซึ่งแข้งทีมชาตินอร์เวย์ ที่ทำได้6 ประตูใน 4 นัดที่พบกับพาเลซ จะได้ล่าตาข่ายต่อไป นิโก้ โอเรลลี่ และมาเตอุส นูเนส อาจถูกเรียกกลับมาเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะรายแรกที่ทำผลงานได้ดีในเอฟเอ คัพ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู 2 แอสซิสต์จากการลงสนาม 5 นัดในรายการนี้

เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ที่มีสถิติที่น่าประทับใจในเอฟเอ คัพ เช่นกัน ก็มีโอกาสเป็นตัวจริง โดยดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม มีส่วนร่วมกับ 4 ประตูในรอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ (1 ประตู 3 แอสซิสต์)

ในขณะเดียวกัน มาเตโอ โควาซิช ,อิลคาย กุนโดกัน , แบร์นาร์โด ซิลวาและนิโก้ กอนซาเลซ คงต้องเบียดแย่งตัวจริงในแดนกลาง ฟิล โฟเด้น และเจมส์ แม็คอาที อาจถูกแทนที่ด้วยเฌเรมี่ โดกู และโอมาร์ มาร์มูช

ส่วน เนธาน อาเก้ และ โรดรี้ เอร์นานเดซ กลับมาซ้อมได้แล้วแต่ไม่น่าพร้อมสตาร์ต เช่นเดียวกับ จอห์น สโตนส์ กับ ออสการ์ บ็อบบ์ ที่ยังไม่ฟิตพอ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน – คริส ริชาร์ดส์, มักซ็องซ์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกฮี – ดาเนียล มูนญอซ, วิล ฮิวจ์ส, อดัม วอร์ตัน, ไทริค มิตเชลล์ – อิสไมล่า ซาร์, เอเบเรชี่ เอเซ่ – ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอเรลลี่ – มาเตโอ โควาซิช ,แบร์นาร์โด้ ซิลวา – เฌเรมี่ โดกู, เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช – เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

คริสตัล พาเลซ พบ แมนซิตี

ความน่าจะเป็นของเกม

คู่นี้ 4 เกมหลังสุดที่พบกัน มียิงรวมกันไม่ต่ำกว่า 4 ประตู โดยเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ไม่แพ้ (ชนะ 2 เสมอ 2 ) เกมนี้เล่นในสังเวียนกลาง ทำให้ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ “เรือใบสีฟ้า” ช่วงหลังฟอร์มอาจดีขึ้น แต่ ลูกทีมของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ หลุดมาถึงรอบชิงก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา

เกมนี้อาจจะออกได้ 3 หน้าก็จริง แต่หากวัดคุณภาพของผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ ยังดูเหนือกว่า และขุนพลที่ม้านั่งสำรองก็ศักยภาพไม่ต่างกัน ทำให้สุดท้าย น่าจะคว้าชัยชนะเป็นสมัยที่ 8 ไปได้

สกอร์ที่คาด

แมนฯ ซิตี้ เฉือนชนะ พาเลซ 2 ต่อ 1

-คู่นี้ดวลกันมาแล้ว 57 นัด คริสตัลพาเลซ ชนะ 12 นัด แมนฯ ซิตี้ ชนะ 31 นัด และจบด้วยผลเสมอ 14 นัด
-คู่นี้พบกันในเอฟเอ คัพ ครั้งล่าสุดคือใน ฤดูกาล 2016-2017 เป็นเกมรอบที่ โดยแมนฯ ซิตี้ บุกไปชนะ 3-0 ที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค

– แมนฯ ซิตี้ ไม่เคยแพ้ ใน 7 เกมหลังสุดที่พบ คริสตัล พาเลซ โดยในจำนวนนี้เป็นการชนะ 4 นัด
-คริสตัล พาเลซ เข้าชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพเป็นครั้งที่ 3 โดย 2 ครั้งก่อนหน้านี้แพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1990 และ 2016

-คริสตัล พาเลซ เป็น 1 ใน 4 สโมสรที่เข้าชิงชนะเลิศ 2 ครั้งโดยไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ เลย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ ควีนส์ปาร์ค (ปี 1884 และ 1885), เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (ปี 1931 และ 1956) และวัตฟอร์ด (ปี 1984 และ 2019)

-แมนฯ ซิตี้ เข้าชิงรายการนี้ เป็นครั้งที่ 14 และคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 7 สมัย รวมถึงการเข้าชิงครั้งนี้เป็นการเข้าชิง เอฟเอ คัพ 3 ครั้งติดต่อกัน โดย 2 ครั้งล่าสุดเป็นการพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และชนะ 1 ครั้ง คือในฤดูกาล 2022-2023

-เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะกลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 2 ที่สามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ในประเทศของอังกฤษทั้ง 2 รายการ 3 สมัยขึ้นไป ต่อจาก อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด (เอฟเอ คัพ 5 สมัย, ลีกคัพ 4 สมัย)

คริสตัล พาเลซ พบ แมนซิตี

เครดิต pptvhd36.com