ซึ่งเป็นสถิติแพงสุดใหม่ของพรีเมียร์ลีก ต่างทุ่มเงินมากกว่าที่เคยในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ 2025-2026 นี้มีการใช้จ่ายเงินเกิน 3,000 ล้านปอนด์
รายงานจาก บีบีซี สื่อดังอังกฤษ เผยว่า 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกต่างทุ่มเงินมากกว่าที่เคยในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ 2025-2026 มีการใช้จ่ายไปแล้ว 3,121 ล้านปอนด์
โดยมีการใช้จ่ายรวม 2,730 ล้านปอนด์ ณ.วันที่ 31 สิงหาคม แต่ทว่าดีลมูลค่ามหาศาลในวันที่ 1 กันยายน ที่เป็นวันกำหนดเส้นตาย โดนเฉพาะการย้ายของ อเล็กซานเดอร์ อีซัค จาก นิวคาสเซิ่ล ไป ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 125 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติแพงสุดใหม่ของพรีเมียร์ลีก ทำให้ยอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 3,087 ล้านปอนด์ อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว ซึ่งทีมชั้นนำใช้จ่ายไป 1.96 พันล้านปอนด์ อีกทั้งยอดเงินรวมในซัมเมอร์นี้มากกว่าที่สโมสรในบุนเดสลีกา, ลาลีกา, ลีกเอิง และเซเรีย อา รวมกันที่ 2,928 ล้านปอนด์
นอกจากนี้ในวันเส้นตายยังมีทั้งดีล แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า เซนเน่อ ลัมเมนส์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งทีมชาติเบลเยียมจาก รอยัล อันท์เวิร์ป ด้วยราคา 18.1 ล้านปอนด์ โยอัน วิสซ่า จาก เบรนท์ฟอร์ด ไปนิวคาสเซิ่ล 55 ล้านปอนด์, ฟูแล่ม ดึงตัว เควิน จาก ชาคตาร์ โดเนตส์ค ด้วยราคา 34.6 ล้านปอนด์แพงสุดประวัติศาสตร์สโมสร
ทั้งนี้ บีบีซี ยังระบุถึง 5 ทีมที่เสริมทัพมากสุด คือ ลิเวอร์พูล ในยุคของ อาร์เน่อ สล็อต ที่ลงตลาดเต็มตัวใช้จ่ายไป 415 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย เชลซี จ่ายไป 285 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย อาร์เซน่อล 255 ล้านปอนด์, นิวคาสเซิ่ล 250 ล้านปอนด์ และ แมนฯ ยูไนเต็ด 216 ล้านปอนด์ ส่วน ฟูแล่ม เป็นทีมที่่ซื้อน้อยสุด ใช้เงินไป 34.5 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตามสโมสรพรีเมียร์ลีก ที่ซื้อผู้เล่นจากลีกยุโรปจะมีส่วนช่วยให้บุนเดสลีกา ลาลีกา และลีกเอิง ปิดตลาดซื้อขาย โดยมีกำไรสุทธิรวมกันมากกว่า 400 ล้านปอนด์
เครดิต BBC