ทุกครั้งที่แฟนหงส์แดงเห็น อลีสซง เบ็คเกอร์ จับขาหลังและทรุดลงกับพื้น ภาพนั้นมักทำให้หัวใจแฟนหงส์แทบหยุดเต้น หมายความว่า เขาเจ็บแฮมสตริงอีกแล้ว
จากความตกใจในตอนแรก ทุกวันนี้เริ่มกลายเป็นความรู้สึกปลงของแฟนหงส์แดง เพราะอาการบาดเจ็บลักษณะนี้เกิดขึ้นกับเขาบ่อยเกินไป
อลีสซงคือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขากลับมีสถิติการบาดเจ็บที่แย่ที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะอาการแฮมสตริงที่เล่นงานเขาซ้ำ ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
และในช่วงสามปีหลัง เขามีปัญหาแฮมสตริงถึงห้าครั้ง ล่าสุดเกิดขึ้นในเกมพ่ายกาลาตาซาราย 0-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบลีกเฟส
ในวัย 33 ปี ลิเวอร์พูลจึงต้องดูแลร่างกายของเขาอย่างใกล้ชิด ทีมแพทย์และทีมฟิตเนสพยายามหาวิธีลดความเสี่ยงให้มากที่สุด แต่ปัญหาเริ่มชัดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2023 เมื่อเขามีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย
ก่อนจะต้องพักยาวเกือบสองเดือนในต้นปี 2024 ทัพหงส์แดงรับรู้ถึงความเสี่ยงนี้ดี จึงเตรียมแผนสำรองไว้ล่วงหน้าในตลาดซัมเมอร์ โดยคว้า จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี นายทวารทีมชาติจอร์เจียจากบาเลนเซีย มาด้วยค่าตัวประมาณ 25 ล้านปอนด์ และยังตัดสินใจเก็บ วิเตซสลาฟ ยารอส เอาไว้ในทีมชุดใหญ่ ไม่ปล่อยยืมตัว เพราะกลัวสถานการณ์ที่อลิสซอนบาดเจ็บจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริง…
คำถามที่ตามมาคือ “ทำไมผู้รักษาประตูอย่างอลิสซอนถึงเจ็บแฮมสตริงบ่อยขนาดนี้” ทั้งที่ปกติแล้วอาการแบบนี้มักเกิดในนักเตะตำแหน่งอื่นซะมากกว่า
นักกายภาพคนหนึ่งเคยอธิบายไว้ว่า รูปแบบการวิ่งของอลีสซงอาจมีส่วน เขาไม่ค่อยมีจังหวะ “swing leg retraction” ซึ่งมันคือการเหวี่ยงขาและเหยียดสะโพกให้สุดในจังหวะเร่งสปีด ทำให้กล้ามเนื้อแฮมสตริงต้องทำงานหนักเกินไปและไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เมื่อกล้ามเนื้อเคยบาดเจ็บมาก่อน ความเสี่ยงที่จะเจ็บซ้ำก็จะมีเพิ่มขึ้น แม้จะมีการฟื้นฟูที่ดีแค่ไหนก็ตาม นักกายภาพอีกคนได้ให้ความเห็นว่า “ในกรณีของอลิสซอน มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะเจ็บซ้ำ เพราะเมื่อแฮมสตริงเคยฉีกมาก่อนแล้ว โอกาสจะเกิดขึ้นอีกก็สูงมาก โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น”
ช่วงหลังอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อกลุ่มนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในวงการฟุตบอล เพราะตารางแข่งขันที่แน่นขึ้นและช่วงพักที่น้อยลง ทำให้นักเตะมีเวลาฟื้นฟูไม่เพียงพอ
ซึ่งอาการบาดเจ็บแฮมสตริงมีตั้งแต่ระดับ เบา,กลาง จนถึงรุนแรง แต่เวลาพักฟื้นในปัจจุบันมักจะนานกว่าเดิม โดยเฉพาะจุดที่บาดเจ็บในส่วนลึกของกล้ามเนื้อ เช่นบริเวณ T-junction ใต้เอ็น ซึ่งรักษายากและเสี่ยงกลับมาเจ็บซ้ำได้ง่าย
อาการบาดเจ็บล่าสุดทำให้อลีสซงพลาดเกมสำคัญหลายแมตช์ ทั้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรอัล มาดริด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึงหลุดจากทีมชาติบราซิลในช่วงพักเบรกทีมชาติอีกด้วย
สิ่งที่ต้องติดตามต่อคืออาการนี้จะส่งผลต่อ “สไตล์การเล่น” ของเขาหรือไม่ เพราะจุดเด่นของอลีสซงคือการออกมาปิดมุมเร็ว การวิ่งออกมานอกกรอบเพื่อเคลียร์บอล ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องเขาต้องใช้แฮมสตริงทำงานอย่างหนักมาก
นักวิเคราะห์ในตำแหน่งผู้รักษาประตูจาก ดิ แอธเลติก วิเคราะห์ไว้ว่า “ถ้ามีผู้รักษาประตูคนไหนที่สามารถปรับตัวได้ นั่นคืออลีสซง แต่การลดการวิ่งหรือลดการเร่งสปีดในเกม มันก็เท่ากับเอาจุดแข็งที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนายทวารที่ดีที่สุดในโลกหายไปด้วย”
ท้ายที่สุด เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายย่อมมีการเปลี่ยนแปลง และอาการบาดเจ็บลักษณะนี้อาจจะไม่หายไปจากตัวเขา ลิเวอร์พูลจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเสี่ยงนี้ต่อไป และแฟนบอลเองก็คงต้องกลั้นใจทุกครั้ง…ที่เห็นเขาออกมาสกัดบอลนอกกรอบเขตโทษ
“เมื่อคุณเคยเจ็บกล้ามเนื้อใหญ่อย่างแฮมสตริงแล้ว มันจะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม 100 เปอร์เซ็นต์อีกเลย” นักวิเคราะห์จาก ดิ แอธเลติก เผยต่อ…
อลีสซงยังคงเป็นหัวใจสำคัญของลิเวอร์พูล และต่อให้สโมสรเตรียมแผนสำรองไว้ดีแค่ไหน ก็ไม่มีใครแทนที่ความมั่นใจและอิทธิพลในสนามของเขาได้จริง ๆ แต่ในยุคที่ฟุตบอลถูกบีบด้วยโปรแกรมแข่ง อาจถึงเวลาที่แฟน ๆ ต้องยอมรับว่า “อาการบาดเจ็บบ่อย” คืออีกด้านหนึ่งของยอดนายทวารคนนี้ ที่ยังคงยิ่งใหญ่ แต่ต้องต่อสู้กับร่างกายของตัวเองทุกครั้งที่ลงสนาม
เครดิต pptvhd36
