อังกฤษ ชนะ เยอรมนี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 คว้าแชมป์ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี U21 และถือเป็นแชมป์รายการนี้ 2 สมัยติดต่อกันและเป็นแชมป์สมัยที่ 4
ฟุตบอลยูโร U21 รอบชิงชนะเลิศ ที่ เทเฮลเน่ โพล ประเทศสโลวาเกีย อังกฤษ แชมป์เก่า พบ เยอรมนี โดยทั้งคู่เป็นแชมป์รายการนี้มาแล้วคนละ 3 สมัย อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
ศึกฟุตบอลยูโร U21 นัดชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา อังกฤษ ชนะ เยอรมนี ป้องกันแชมป์ใบนี้ได้สำเร็จ
ลี คาร์สลี่ย์ พา อังกฤษ ชุดยู-21 เข้าชิงเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน เกมนี้ส่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แข้งลิเวอร์พูลที่ยิงไปแล้ว 4 ประตูในรายการนี้ ยืนเป็น 3 ประสานร่วมกับ เจมส์ แม็คอาตี้ และ โอมารี่ ฮัทชินสัน
อันโตนิโอ ดิ ซัลโว กุนซือเยอรมนี ที่ชนะ อังกฤษ 2-1 รอบแบ่งกลุ่ม ใช้ นิค โวลเทอมาเด้ ที่นำดาวซัลโว 6 ประตู เป็นทีเด็ด
ครึ่งแรก อังกฤษ ได้ประตูนำจาก ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ยิงด้วยซ้ายเข้าไปในนาทีที่ 5 และเป็นประตูที่ 5 ของแข้งจากเมอร์ซี่ไซด์ ในทัวร์นาเมนต์นี้
จากนั้นนาทีที่ 25 เจมส์ แม็คอาตี้ จ่ายให้ โอมารี่ ฮัทชินสัน ยิงลอดขา โนอาห์ อาตูโบลู ผู้รักษาประตูเยอรมนี ให้ อังกฤษ หนีเป็น 2-0
นาที 45+1 พอล เนเบิล เปิดให้ เนลสัน ไวเปอร์ มาโหม่ง ตีไข่แตก ให้ เยอรมนี ทำให้ครึ่งแรก อังกฤษ นำ 2-1
กลับมาครึ่งหลัง เกมเข้มข้นอีกครั้ง เมื่อนาที 61 พอล เนเบิล มาปั่นโค้งด้วยขวาอย่างสวยงามตีเสมอให้ เยอรมนี เป็น 2-2
หลังจากตีเสมอ เยอรมนี พยายามเร่งเกมบุก และช่วงทดเจ็บนาที 90+3 เกือบได้ประตูชัยเมื่อ พอล เนเบิล ยิงไปแฉลบ บรู๊ค นอร์ตัน-คัฟฟี่ ชนคาน จบเกมเสมอ 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษ ออกไปเพื่อหาผู้ชนะ
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาที 90+2 โจนาธาน โรว์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาได้ไม่นานก็พุ่งโหม่ง จากจังหวะที่ ไทเลอร์ มอร์ตัน เปิดมาให้จากทางขวาเสียบเสาเข้าไป อังกฤษ นำ 3-2
นาที 105 เยอรมนี ได้ลุ้นเมื่อ ร็อคโค่ ไรต์ซ ได้โอกาสปั่นด้วยขวา แต่บอลห่างกรอบเยอะ จบช่วงต่อเวลาครึ่งแรก อังกฤษ นำ 3-2
ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ แม้ เยอรมนี จะได้โอกาสเข้าไปกดดันในกรอบของอังกฤษ หลายครั้งแต่ก็ไม่มีสกอร์เพิ่ม โดย เมอร์ลิน โรลห์ ตัวสำรองยิงไปชนคาน จบ 120 นาที อังกฤษ ชนะ 3-2 คว้าแชมป์ยูโร ยู 21 เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 4 หลังเคยทำได้มาแล้วในปี 1982, 1984, 2023
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
อังกฤษ (4-2-3-1) : เจมส์ บีดเดิ้ล – ทีโน่ ลิฟราเมนโต้, ชาร์ลี เครสเวลล์, จาเรลล์ ควอนซาห์, แจ็ค ฮินเชลวู้ด -เอลเลียต แอนเดอร์สัน, อเล็กซ์ สกอตต์ – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, เจมส์ แม็คอาตี้, โอมารี่ ฮัทชินสัน – เจย์ สแตนฟิลด์
เยอรมนี (4-5-1) : โนอาห์ อาตูโบลู – เอ็นนามดี้ คอลลินส์, ทิม เออร์มันน์, ไบรท์ อาร์เรย์-เอ็มบี, นาธาเนียล บราวน์ – เอริก มาร์เทล, ร็อคโค่ ไรต์ซ, บรายาน กรูด้า, นิค โวลเทอมาเด้, พอล เนเบิล – เนลสัน ไวเปอร์
เครดิต pptvhd36.com
