เอ็มบัปเป้ และ เบลลิงแฮม ช่วยทำคนละประตูให้ เรอัล มาดริด เฉือนชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 ในศึก El Clasico 2025/26 โดยเกมนี้ เปดรี้ โดนไล่ออกช่วงทดเจ็บ
เกม เอล กลาซิโก้ นัดที่ 191 เรอัล มาดริด จ่าฝูง เปิด ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับการมาเยือน บาร์เซโลน่า แชมป์เก่า ที่อยู่อันดับ 2 อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
ชาบี อลอนโซ่ กุนซือมาดริด ได้ ดีน เฮาเซ่น ฟิตกลับคือแนวรับ เช่นเดียวกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หายเจ็บกลับมานั่งสำรอง โดยมี คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยินเป็นหน้าเป้า ศึก El Clasico 2025/26
ฮันซี ฟลิค นายใหญ่ บาร์ซ่า ที่ติดแบนไม่ได้ลงคุมข้างสนาม เกมนี้ส่ง เฟร์มีน โลเปซ ที่ฟอร์มกำลังดี ลงทำหน้าแดนกลาง มี ลามีน ยามาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนขนาบข้าง เฟร์ราน ตอร์เรส
นาทีที่ 2 ลามีน ยามาล ไปฟาวล์ วินิซิอุส จูเนียร์ ในจังหวะที่่จะง้างยิงในกรอบ แต่ผู้ตัดสินไปดูจอ VAR มองว่า ยามาล เข้าบอลก่อน พร้อมเปลี่ยนคำตัดสิน
นาทีที่ 12 คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงวอลเลย์ด้วยขวา ระยะเกือบ 25 หลา เข้าไปอย่างสวยงาม แต่ทว่าล้ำหน้า ถูกริบประตูคืน
นาทีที่ 22 จู๊ด เบลลิงแฮม จ่ายให้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่วิ่งทะลุกัปดักล้ำหน้า วิ่งเข้าไปยิงแฉลบ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นิดหนึ่งเข้าไป เรอัล มาดริด นำ 1-0 และถือเป็นประตูที่ 11 ใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ ของดาวยิทีมชาติฝรั่งเศส
นาทีที่ 30 ดีน เฮาเซ่น เติมขึ้นมาเยียดขาขวายิง แต่ วอยเชียค เชสนี่ ยังปัดออกหลังไปได้
นาทีที่ 34 บาร์เซโลน่า ได้ลุ้นประตูตีเสมอ แต่ เฟร์ราน ตอร์เรส ที่ไร้ตัวประกบยิงไปตรง ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับไว้ได้
นาทีที่ 38 มาร์คัส แรชฟอร์ด ตบจากทางซ้าย เข้ามากลางให้ เฟร์มีน โลเปซ ยิงด้วยขวาแบบไม่จับ ให้ บาร์เซโลน่า กลับสู่เกมตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 43 วินิซิอุส จูเนียร์ เปิดจากทางซ้ายมาให้ เอแดร์ มิลิเตา โหม่งต่อที่เสาสองไปถึง จู๊ด เบลลิงแฮม ยิงให้ เรอัล มาดริด นำ 2-1
นาทีที่ 45+1 คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงเข้าไปแต่ก็อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ยังทำประตูที่สองให้ตัวเองในเกมนี้ไม่ได้ จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำ 2-1
กลับมาครึ่งหลัง นาทีที่ 50 จู๊ด เบลลิงแฮม เปิดบอลไปโดนแขน เอริก การ์เซีย ผู้ตัดสินดูจอ VAR และชี้เป็นจุดโทษ โดย คีเลียน เอ็มบัปเป้ รับหน้าที่สังหารแต่ วอยเชียค เชสนี่ เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
เกมผ่าน 65 นาที บาร์เซโลน่า ที่รอจังหวะสวนจากเกมบุกของเรอัล มาดริด แต่ก็ยังทำประตูตีเสมอไม่ได้
นาทีที่ 68 จู๊ด เบลลิงแฮม แม้จะยิงเข้าไปแต่ก็ยังไม่ได้ประตูที่ 3 เพราะล้ำหน้า
นาที 80 คีเลียน เอ็มบัปเป้ และ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ได้ยิงแต่ก็ไปติดบล็อกได้แค่เตะมุมเท่านั้น
นาทีที่ 88 คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงด้วยซ้ายไปที่เสาไกล แต่บอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว
ช่วงทดเจ็บ 9 นาทีไม่มีประตูเพิ่ม แต่ เปดรี้ ของบาร์ซ่า มาโดนเหลืองแดง ไล่ออกช่วงทดเจ็บนาที 100 จบเกม มาดริด เปิดบ้านเฉือนชนะ 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 27 แต้มจาก 10 นัด นำเป็นจ่าฝูงต่อไป ส่วน บาร์เซโลน่า มี 22 แต้ม อยู่อันดับ 2 เหมือนเดิม
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด (4-1-4-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, เอแดร์ มิลิเตา, ดีน เฮาเซ่น, อัลบาโร่ การ์เรราส – โอเรเลียง ชูอาเมนี่ – จู๊ด เบลลิงแฮม, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, อาร์ดา กูแลร์, วินิซิอุส จูเนียร์ – คีเลียน เอ็มบัปเป้
บาร์เซโลน่า (4-3-3 ) : วอยเชียค เชสนี่ – ฌูลส์ คุนเด้, เปา กูบาร์ซี่, เอริก การ์เซีย, โรนัลด์ อาเราโฮ, อาเลฆานโดร บัลเด้ – เปดรี้, แฟร้งกี้ เดอ ยอง, เฟร์มีน โลเปซ – ลามีน ยามาล, เฟร์ราน ตอร์เรส, มาร์คัส แรชฟอร์ด
เครดิต pptvhd36

