ประเทศไทย พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดศึกMotoGP 2026 สนามเปิดฤดูกาล เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ ดอร์น่า ยืนยันต่อสัญญาไทยจัดโมโตจีพี อีก 5 ปี
รัฐบาลไทย นำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี” สนามประเทศไทย ประจำปี 2569 อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
ซึ่งได้รับเกียรติสูงสุด ขึ้นแท่นเกิด สนาม MotoGP 2026 ฤดูกาล เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ตอกย้ำก้าวสำคัญสู่ปีที่ 7 ที่แข็งแกร่งของไทยบนแผนที่มอเตอร์สปอร์ตโลก พร้อมเดินหน้า สานต่อความสำเร็จ ดันไทยสู่ “ฮับมอเตอร์สปอร์ตภูมิภาค” และสร้างต้นแบบเมืองกีฬาอาเซียน จุดพลุคอนเซ็ปต์ ‘More Than a Race’ จัดใหญ่-สนุกขึ้น
ตั้งเป้าเป็นสนามแข่งที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดในปฏิทิน MotoGP ลุ้นสร้างสถิติใหม่ผู้ชมสูงสุดทำลายสถิติเดิม พร้อมเปิดจำหน่ายบัตรวันแรก กระแสตอบรับดีเยี่ยม ที่นั่งแกรนด์สแตนด์ Sold Out ด้วยเวลา 3 นาที 21 วินาที
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย (หัวหมาก) แถลงข่าวจัดการแข่งขันและเปิดจำหน่ายบัตรชม ศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี”
โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล หรือ Pre-Season Test วันที่ 21-22 ก.พ. และ สนามที่ 1 วันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. 2569 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยมี ตัวแทนภาครัฐและเอกชน ทัพสื่อมวลชนและผู้ร่วมงานมากกว่า 400 คน ถือเป็นงานแถลงข่าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีของไทย
ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพการจัดงาน กล่าวว่า การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพ MotoGP เป็นปีที่ 7 และได้เป็นสนามเปิดฤดูกาลถึง 2 ปีติดต่อกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากการทำงานอย่างเข้มแข็งของทุกภาคส่วน
ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง คือเอกลักษณ์ ความเป็นเจ้าบ้านที่อบอุ่น และการสร้างบรรยากาศที่แฟนๆ ไม่มีวันลืม เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสเสน่ห์ไทยอย่างแท้จริง และสร้าง “ภาพจำ” ที่แตกต่างจากทุกสนามทั่วโลก
“ ThaiGP เป็นมากกว่าสนามแข่งขัน แต่เป็นเครื่องมือเชิงนโยบายที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่าน “Sport Tourism” ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โรงแรม ขนส่งและซัพพลายเชนต่างๆ นี่คือ ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่ประเทศได้รับจากการเป็นเจ้าภาพ MotoGP”
“จากผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ไทยต่อสัญญาเป็นเจ้าภาพออกไปอีก 5 ปี (พ.ศ. 2570–2574) สะท้อนว่า รัฐบาลมีเจตนาชัดเจนในการ “เดินหน้าต่อ” เพราะ ThaiGP เป็นทรัพย์สินเชิงยุทธศาสตร์ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน
โดยมอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทยผลักดันให้ประเทศไทยเป็น “ฮับของมอเตอร์สปอร์ตในภูมิภาค” ผ่านการสนับสนุนการแข่งขัน การพัฒนานักแข่งเยาวชน และการใช้ Soft Power สื่อสารภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศไปทั่วโลก”
นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กองทุนฯในฐานะหน่วยงานหลักที่ให้การสนับสนุนการจัดงาน MotoGP ได้เห็นถึงพัฒนาการและผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรมของการจัดการแข่งขัน ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาสร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 25,000 ล้านบาท
และดึงดูดนักท่องเที่ยวรวมแล้วกว่า 1.2 ล้านคน ชี้ให้เห็นว่าการจัดการแข่งขันระดับโลกนี้ คือ “เครื่องยืนยันถึงศักยภาพของประเทศ” ไม่เพียงในมิติของกีฬาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระดับโลก โดยการจัดการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงการจัดกิจกรรมกีฬาระดับนานาชาติเท่านั้น
แต่ยังเป็น “การลงทุนในอนาคตของวงการกีฬาไทย” สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน สร้างอาชีพใหม่ในอุตสาหกรรมกีฬา และส่งเสริมเศรษฐกิจของพื้นที่ในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในต้นแบบของเมืองกีฬาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นเวทีที่ช่วยต่อยอดศักยภาพของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ด้าน อัมปาโร ปอร์โต ผู้อำนวยการอาวุโส ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขัน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณประเทศไทย ผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย สำหรับความร่วมมืออันยอดเยี่ยมและมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ThaiGP โดยต่อสัญญาไปอีก 5 ปี พร้อมทั้งขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้การแข่งขันประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
“ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างมากของโมโตจีพีในภูมิภาคนี้ ด้วยฐานแฟนกีฬาที่แข็งแกร่งและมีความหลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต อีกทั้งยังมีศักยภาพในการขยายฐานผู้ชมได้อีกมาก
โดยการแข่งขัน ThaiGP ถือเป็นหนึ่งในสนามที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในปฏิทินโมโตจีพี และประสบการณ์ของแฟน ๆ ในสนามก็เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของความสำเร็จในด้านการจัดงาน
โดยพื้นที่แฟนโซนของประเทศไทย มีความโดดเด่นด้านกิจกรรมความบันเทิง อาหาร และพื้นที่อเนกประสงค์ ทำให้การแข่งขัน ThaiGP เป็น “ประสบการณ์แบบครบวงจร” ทั้งในและนอกสนาม สะท้อนแนวคิดของโมโตจีพีที่มุ่งให้แฟน ๆ ได้สนุกตลอดช่วงสุดสัปดาห์การแข่งขัน และบุรีรัมย์ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้ประสบการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ในฐานะ Title Sponsor ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เปิดเผยว่า “การสนับสนุนนี้เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เราเห็นผลลัพธ์เชิงบวกอย่างชัดเจน ทั้งการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ขยายโอกาสทางธุรกิจที่จับต้องได้, สร้างคุณค่าร่วมกันให้กับประเทศและคนไทย”
“ด้วยสโลแกน ‘PT GO FOR MAX’ เราตั้งใจมอบประสบการณ์พิเศษมากมายให้กับแฟนๆ เพื่อให้ได้รับความสุขแบบ ‘MAX’ ตั้งแต่ก่อนเริ่มงานไปจนถึงวันงาน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก PT Max Card Plus บัตรแดง หรือ สมาชิก PT Max Card Plus EV บัตรเขียวอ่อน รับส่วนลดซื้อบัตรเข้าชม 25% และ PT Max Card บัตรเขียว รับส่วนลด 20%
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษทั้ง ลด แลก แจก ช็อป จากทางผลิตภัณฑ์ในเครือ ไม่ว่าจะเป็น PT Maxnitron กาแฟพันธุ์ไทย ศูนย์บริการ Autobacs และผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งสินค้าลิขสิทธิ์สุดพิเศษเอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ตให้เลือกซื้อมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์สำคัญคือ กิจกรรม Fan Zone, Hero Walk และ Meet and Greet ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ที่ PT Pavilion ที่เดียวเท่านั้น เราจะทำให้การมาเยือนสนามช้างฯ เป็นมากกว่าการชมการแข่งขัน แต่เป็นการได้รับประสบการณ์ที่ครบถ้วนทั้งความมันส์ ความคุ้มค่า และความประทับใจที่แฟน ๆ ไม่มีวันลืม”
นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเจ้าบ้าน กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงานว่า “ความสำเร็จของ MotoGP นั้น ไม่ได้วัดเพียง 3 วันของการแข่งขัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน บุรีรัมย์ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ยังยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
และที่สำคัญคือการกระจายรายได้สู่ชุมชน สร้างงานให้แก่คนในพื้นที่ไปกว่า 46,000 ตำแหน่ง ในตลอด 6 ปีที่ผ่านมาในฐานะเจ้าบ้าน เมืองหลวงแห่งมอเตอร์สปอร์ต จังหวัดบุรีรัมย์พร้อม 100% แล้ว ทั้งในเชิงโครงสร้างพื้นฐาน การยกระดับระบบสาธารณูปโภค การรักษาความปลอดภัย และหัวใจการเป็นเจ้าบ้านที่อบอุ่น
เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สุดให้กับผู้มาเยือนจากทั่วโลก เราจะยังคงเดินหน้าต่อยอดสิ่งนี้ให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งการได้เป็นสนามเปิดฤดูกาลอีกครั้งคือโอกาสสำคัญที่ใช้ผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเต็มที่”
ปิดท้ายด้วย นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต กล่าวว่า สำหรับ ThaiGP 2026 จัดในคอนเซ็ปต์ ‘More than a race’ สะท้อนบทบาทของสนามช้างฯ ที่เป็นมากกว่าสนามแข่งขัน แต่เป็นพื้นที่เคียงข้างชุมชนในทุกช่วงเวลา ทั้งศูนย์พักพิงช่วงโควิด-19, ศูนย์อพยพผู้ประสบภัย ฯลฯ
รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมหลายรายการ โดยการจัดในปีนี้จะยกระดับให้ “ยิ่งใหญ่และสนุกขึ้น” ด้วยกิจกรรมเสริมเต็มรูปแบบตลอด 3 วัน ดังเช่นที่ดอร์น่ายกให้เป็นสนามที่มีกิจกรรมเสริมดีที่สุด โดยจะขยาย Fan Zone ให้ใหญ่และสนุกขึ้น จัดเต็มคอนเสิร์ตระดับประเทศจาก Chang Music Connection
และยังคงรักษาความคุ้มค่าด้วยโปรโมชั่นตั๋ว MotoGP ที่ถูกที่สุดในโลก ตั้งเป้าเป็นสนามแข่งที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดในปฏิทิน MotoGP และคาดหวังว่า ปีนี้จะเป็นปีที่สามารถล้มสถิติจำนวนผู้ชมสูงสุด 226,655 คน เมื่อปี 2019 ให้ได้” พร้อมตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีกในสัญญาใหม่ต่อจากนี้ไม่น้อยกว่า 5 ปี
เครดิต pptvhd36

