Apple Watch ข้อมูลและข่าวลือล่าสุดเกี่ยวกับ Apple Watch รุ่นถัดไป หรือ Apple Watch Series 11 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง กันยายน ปีนี้
แม้ว่าข้อมูลในตอนนี้จะยังไม่ชี้ว่าจะเป็นรุ่นที่พลิกโฉมวงการฉลองครบรอบอย่างยิ่งใหญ่ แต่ก็มีการอัปเกรดที่น่าสนใจในหลายด้าน อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
มีรายงานว่า Apple จะหันไปใช้เทคโนโลยีของ MediaTek สำหรับ Apple Watch รุ่นในอนาคต ซึ่งชิปโมเด็มของ MediaTek รองรับ 5G RedCap (Reduced Capability) มาตรฐาน 5G ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์สวมใส่
โดยเฉพาะเน้นการใช้พลังงานต่ำและไม่ต้องการความเร็วสูงเท่า 5G เต็มรูปแบบ การเปลี่ยนมาใช้ 5G RedCap นี้ คาดว่าจะช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อไร้สายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Apple Watch Series 11 คาดว่าจะมาพร้อมชิปประมวลผล S11 รุ่นใหม่ ซึ่งอาจได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดและประหยัดพลังงานมากขึ้น การปรับปรุงนี้อาจส่งผลดีต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ หรือเพิ่มพื้นที่ภายในตัวเครื่องสำหรับใส่ส่วนประกอบอื่นๆ ได้
Apple กำลังพัฒนาฟีเจอร์การ ตรวจวัดความดันโลหิต สำหรับ Apple Watch ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะพร้อมเปิดตัวในรุ่นปี 2025 อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเรื่องความท้าทายในการพัฒนาด้านความแม่นยำและความน่าเชื่อถือที่อาจทำให้กำหนดการเลื่อนออกไป
หากฟีเจอร์นี้เปิดตัวจริง จะยังไม่แสดงค่าความดัน systolic และ diastolic ที่แม่นยำแบบเครื่องมือแพทย์ทั่วไป แต่จะเน้นการ ตรวจจับภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension) และแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบความผิดปกติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้งานนำข้อมูลไปปรึกษาแพทย์ต่อไป คล้ายกับการทำงานของฟีเจอร์ตรวจจับ AFib ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในการอัปเดต iOS 19 คาดว่า Apple จะปรับปรุงแอป Health โดยเพิ่มความสามารถด้าน AI-Powered Health Coaching ที่จะให้คำแนะนำสุขภาพส่วนบุคคลโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เก็บได้จาก Apple Watch รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ ติดตามการบริโภคอาหาร เข้ามาในอนาคต
การเชื่อมต่อ:
รองรับ 5G RedCap (มาตรฐาน 5G สำหรับอุปกรณ์สวมใส่)
เปลี่ยนผู้ผลิตโมเด็มเป็น MediaTek
ชิปประมวลผล:
ชิปใหม่ Apple S11
คาดว่ามีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น
ซอฟต์แวร์ (watchOS 12):
เปิดตัวพร้อมกันในเดือนกันยายน
ปรับปรุงดีไซน์ UI เล็กน้อย ได้แรงบันดาลใจจาก visionOS
รองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence (ประมวลผลส่วนใหญ่บน iPhone ที่เชื่อมต่อ)
ฟีเจอร์สุขภาพ (ที่คาดว่าจะเพิ่ม/ปรับปรุง):
ตรวจวัดความดันโลหิต: คาดว่าจะเพิ่มในปี 2025 เน้นตรวจจับภาวะความดันโลหิตสูงและแจ้งเตือน (ไม่ใช่การวัดค่าแม่นยำ) – มีความเป็นไปได้ที่จะล่าช้า
AI Health Coaching: ให้คำแนะนำสุขภาพส่วนบุคคล (ร่วมกับ Health App ใน iOS 19)
ติดตามการบริโภคอาหาร: ฟีเจอร์ที่อาจเพิ่มในอนาคต
ตรวจวัดออกซิเจนในเลือด: คาดว่า จะไม่สามารถใช้งานได้ ในรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา (เนื่องจากปัญหาด้านสิทธิบัตร)
ดีไซน์:
คาดว่าตัวเรือนจะบางลงเล็กน้อย (ตามรอย Series 10)
ไม่มีข่าวลือ เรื่องการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ หรือระบบเชื่อมต่อสายแบบแม่เหล็กในรุ่นนี้
ราคา:
คาดว่าราคาเริ่มต้นยังคงอยู่ที่ $399
อาจมีการปรับขึ้นได้หากมีปัจจัยด้านภาษี
การเปิดตัว:
คาดการณ์ในเดือน กันยายน 2025 พร้อม iPhone รุ่นใหม่
เครดิต sanook.com
