1 ฟีเจอร์เพื่อสุขภาพ Apple Watch เปิดตัวฟีเจอร์ แจ้งเตือนความดันโลหิตสูง ให้คนไทยได้ใช้แล้ววันนี้
Apple ได้ประกาศเปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่บน Apple Watch อย่างเป็นทางการ กับฟีเจอร์ “การแจ้งเตือนภาวะความดันโลหิตสูง” (Hypertension Notifications) ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะคอยสอดส่องสัญญาณอันตรายของร่างกายที่เราอาจมองข้ามไป ได้เปิดให้ใช้แล้วในประเทศไทยอ่านผลข่าวเพิ่มเติม
ฟีเจอร์ Hypertension คืออะไร
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Apple Watch Series 11 และ Watch Ultra ได้ฟีเจอร์นี้ โดยเป็นฟีจอร์ที่ช่วยคนไทยได้เยอะ เนื่องจาก เรื่องของ “ภาวะความดันโลหิตสูง”
ถือเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อประชากรโลกกว่า 1.3 พันล้านคน ความน่ากลัวของมันคือ “มักไม่แสดงอาการ” ทำให้หลายคนใช้ชีวิตโดยไม่รู้ตัวว่ามีความเสี่ยง หรือบางครั้งการไปวัดความดันที่โรงพยาบาลเพียงครั้งเดียวอาจไม่เจอความผิดปกติ (เพราะตื่นเต้นหรือเหนื่อย) ทำให้ถูกมองข้ามได้ง่ายๆ
ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร
ความเจ๋งของฟีเจอร์นี้คือ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์รัดแขน แต่ Apple Watch จะใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วในตัวเครื่องทำงานร่วมกับ AI ดังนี้
ใช้เซ็นเซอร์วัดหัวใจ: ระบบจะใช้ Optical Heart Sensor (เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล) เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองของ “หลอดเลือด” ต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ
วิเคราะห์ย้อนหลัง 30 วัน: อัลกอริทึมสุดฉลาดจะทำงานอยู่เบื้องหลัง โดยเก็บข้อมูลต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 วัน
แจ้งเตือนเมื่อเจอความเสี่ยง: หากระบบตรวจพบแพทเทิร์นหรือสัญญาณของภาวะความดันโลหิตสูงที่เกิดขึ้น “อย่างต่อเนื่อง” นาฬิกาจะส่งการแจ้งเตือนให้คุณทราบทันที
มีแล้วเชื่อได้ไหม
เช่นเดียวกับฟีเจอร์สุขภาพอื่นๆ ของ Apple ฟีเจอร์นี้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวด โดยพัฒนาขึ้นจาก Machine Learning ขั้นสูง และผ่านการทดสอบทางคลินิก (Clinical Studies) จากหลากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้นั้นแม่นยำและเชื่อถือได้
เมื่อไหร่ถึงได้รับการแจ้งเตือน
มีหลายคนอาจจะสงสัยว่าฟีเจอร์นี้จะได้ใช้เมื่อไหร่ คำตอบคือหาก Apple Watch ส่งสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีภาวะความดันโลหิตสูง Apple แนะนำขั้นตอนปฏิบัติเบื้องต้นดังนี้
วัดซ้ำด้วยเครื่องวัดความดัน: ควรใช้เครื่องวัดความดันโลหิตมาตรฐาน (แบบรัดแขน) ทำการวัดและจดบันทึกค่าต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน
ปรึกษาแพทย์: นำข้อมูลที่นาฬิกาแจ้งเตือนและผลที่จดบันทึก ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการนัดหมายครั้งถัดไปเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
โดยสรวมแล้วใครที่มี Apple Watch อยู่ที่ข้อมือ อย่าลืมเข้าไปเช็กและตั้งค่าฟีเจอร์นี้กันนะครับ เพราะเรื่องสุขภาพ รู้ก่อน ป้องกันได้ ดีกว่าเสมอ!
เครดิต sanook.com

