Republic of Gamers (ROG) สร้างความฮือฮาในงาน COMPUTEX 2025 ด้วยการเปิดตัวบูทสุดล้ำในธีม The ROG Lab ซึ่งสะท้อนถึงวิวัฒนาการครั้งสำคัญ
ของแบรนด์ในการก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่แห่งนวัตกรรมเกมมิ่ง การจัดแสดงในครั้งนี้ตอกย้ำพันธกิจของ ROG ในการก้าวข้ามขีดจำกัด และสร้างแรงบันดาลใจให้เกมเมอร์ทั่วโลกด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีที่มองไปข้างหน้า อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
โดย COMPUTEX 2025 นี้ไม่เพียงเผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก ASUS และ ROG เท่านั้น แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังของเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมเหล่านั้นอีกด้วย ด้วยการวิจัยอย่างลึกซึ้ง การทดสอบที่เข้มข้น และจินตนาการไร้ขีดจำกัด ROG ได้ยกระดับมาตรฐานประสบการณ์เกมมิ่งให้ก้าวล้ำกว่าที่เคย
The ROG Lab ไม่ได้นำเสนอเพียงแค่ฮาร์ดแวร์ แต่ยังเจาะลึกถึงหัวใจแห่งความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์ ด้วยแนวคิดห้องทดลองต้นแบบที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กรทั้งหมด สะท้อนปรัชญา “0 to 1” (จากศูนย์ไปหนึ่ง) ของ ROG ที่เปลี่ยนไอเดียเริ่มต้นให้กลายเป็นประสบการณ์ใหม่สุดท้าทาย
นวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการยอมรับบนเวที COMPUTEX Best Choice Awards 2025 ซึ่ง ROG สามารถคว้ารางวัลมาได้หลากหลายรายการ โดยเฉพาะเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก ROG Zephyrus G14 ที่คว้ารางวัล Category Award ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ ROG ในตลาดเกมมิ่งโน้ตบุ๊กอย่างแท้จริง
The ROG Lab: ก้าวสู่อนาคตแห่งโลกเกมมิ่งด้วยโซนจัดแสดงสุดล้ำ
ใจกลางของบูทจัดแสดงคือไฮไลต์ที่สะกดทุกสายตาอย่าง APEX Craft ซึ่งเป็นหลอดทดลองขนาดยักษ์ที่ให้กลิ่นอายของห้องแล็บล้ำยุค สื่อถึงจุดเริ่มต้นของแนวคิดสุดล้ำที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้น ภายในจัดแสดงคอลเลกชันพิเศษของ “Black Tech” และดีไซน์ที่เน้นงานฝีมือระดับสูงจาก ROG อาทิ
ROG Flow Z13: เกมมิ่งแท็บเล็ต 2-in-1 ที่แรงที่สุดในโลก ขับเคลื่อนด้วย AMD Ryzen AI Max+ 395 พร้อมกราฟิกการ์ดบนซีพียู RDNA 3.5 ให้ประสิทธิภาพเกินตัวในบอดี้ที่กะทัดรัด
ROG Intelligent Cooling: ระบบระบายความร้อนอันล้ำหน้า
ROG Nebula Display: จอแสดงผลที่ดีที่สุด
ตัวเครื่องอลูมิเนียม CNC: เทคนิคการผลิตที่ปราณีตและแม่นยำสูงเพื่อตัวเครื่องที่ออกแบบได้อย่างลงตัว
The ROG Lab ยังเชื่อมโยงไปยังนิทรรศการจัดแสดงอีก 5 โซน ได้แก่ Future Gamer, Illumotion, Mechano, Humanlink และ CodeVerse แต่ละโซนนำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมในมุมมองที่แตกต่างกันผ่านกิจกรรมแบบอินเทอร์แอคที
Future Gamer: เน้นการแสดงตัวตนผ่านระบบที่ออกแบบพิเศษโดย ROG ผู้เข้าชมสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ดิจิทัลและพิมพ์การ์ดโปรไฟล์เกมเมอร์สุดพิเศษกลับบ้านได้
Illumotion: ผสมผสานพลังของ AI กับเทคโนโลยี Immersive ให้ผู้เข้าชมสามารถพิมพ์คำต่างๆ แล้วระบบ AI จะเปลี่ยนข้อความให้เป็นซิมโฟนีแห่งสี รูปทรง และการเคลื่อนไหว พร้อมสาธิตเอฟเฟกต์แสงไฟ ASUS Aura Sync ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อม
Mechano: พบกับ “Omni” ตัวละครหุ่นยนต์ที่โต้ตอบแบบเรียลไทม์ ซึ่งแท้จริงคือพีซีที่ทำงานได้จริง สร้างจากชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์แล็ปท็อป โซนนี้โชว์ศักยภาพของฮาร์ดแวร์ ROG ล้ำสมัย เช่น การ์ดจอประสิทธิภาพสูง, เมนบอร์ด, ระบบระบายความร้อน และ External Docks
CodeVerse: มอบประสบการณ์มัลติสกรีนที่นำแบรนด์ ROG มามีชีวิตชีวาผ่านฉากหลังที่เคลื่อนไหวด้วยโลโก้และกราฟิกของ ROG ด้วยการผสมผสาน AI ผู้ชมสามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงภาพได้แบบเรียลไทม์ผ่านเสียงและการจับการเคลื่อนไหว โดยใช้จอเกมมิ่ง ROG รุ่นล่าสุดในการแสดงผล
Humanlink: สะท้อนความมุ่งมั่นของ ROG ในการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยมีผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง จัดแสดงอุปกรณ์เสริมที่เกิดจากการวิจัยและทดสอบภาคสนามอย่างเข้มข้น เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ทรงพลังและเป็นธรรมชาติ
นอกจากโซนอินเทอร์แอคทีฟแล้ว บูท ROG ยังนำเสนอไฮไลต์ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สะท้อนถึงประสบการณ์การเล่นเกมแบบครบวงจร
เกมมิ่งโน้ตบุ๊ก ROG รุ่นใหม่ล่าสุด (2025): ขับเคลื่อนด้วยการ์ดจอ NVIDIA
GeForce RTX 50 Series และโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่จากทั้ง AMD และ Intel
ROG Strix: รุ่นเรือธงสำหรับประสิทธิภาพสูงสุดในการแข่งขัน เช่น ROG Strix SCAR 16/18 (G635/G835), ROG Strix G18 (G815/G814) และ ROG Strix G16 (G615/G614)
ROG Zephyrus: โน้ตบุ๊กบางเบาแต่ทรงพลังอย่าง ROG Zephyrus G16 (GU605/GA605) และ ROG Zephyrus G14 (GA403)
ROG Flow Z13 (2025): เกมมิ่งแท็บเล็ต 2-in-1 ที่แรงที่สุดในโลก และ ROG XG Mobile การ์ดจอแยกระดับสูงที่รองรับ Thunderbolt 5
ROG G700 (G700/GM700): เดสก์ท็อปเกมมิ่งตัวเลือก CPU สูงสุด AMD Ryzen 9 9950X3D หรือ Intel Core™ Ultra 9 285K พร้อมการ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 5090
ยกระดับการเล่นเกมพกพา:
ROG Ally X: เครื่องเล่นเกมพกพาที่ออกแบบมาเพื่อประสบการณ์ที่ลื่นไหลทุกที่ทุกเวลา
ROG Dock: อุปกรณ์เชื่อมต่อ 7-in-1 ครบครันด้วยพอร์ต HDMI 2.1, USB หลายพอร์ต, RJ45 Ethernet และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. รองรับการแสดงผลสูงสุด 4K ที่ 144Hz หรือ 8K ที่ 30Hz
ROG 100W Gaming Charger Dock: แท่นชาร์จไฟอเนกประสงค์รองรับกำลังไฟสูงสุด 100W
ROG Phone 9 Series: AI On, Game On:
ROG Phone 9 และ ROG Phone 9 Pro: มอบพลังการเล่นเกมระดับโปรในดีไซน์พรีเมียมบางเฉียบ มาพร้อมจอ AniMe Vision ปรับแต่งได้ตามสไตล์ โดยรุ่น Pro และ Pro Edition มีหลอด mini-LED 648 ดวง รองรับการแสดงแอนิเมชันแบบไดนามิก และเล่นเกมพิกเซลคลาสสิกผ่าน AniMe Play
อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI จาก ROG เพื่อยกระดับประสบการณ์เกมมือถือ: X Sense 3.0 (อัปเกรดสกิลตัวละครอัตโนมัติ), X Capture 2.0 (บันทึกช่วงเวลาสำคัญ), AI Grabber 2.0 (แยกและแปลข้อความในเกมเรียลไทม์), และ AI Noise Cancelation (ตัดเสียงรบกวน)
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite และระบบระบายความร้อน ROG GameCool 9 รองรับการควบคุมแบบเกมคอนโซลผ่าน AirTrigger และอุปกรณ์เสริมอย่างพัดลม AeroActive Cooler X Pro พร้อมจอ AMOLED E6 ขนาด 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรต 185Hz และกล้องหลัง 3 ตัว
ASUS TUF Gaming ที่มาพร้อมการ์ดจอ RTX 50 Series:
เกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่คงความแข็งแกร่งระดับกองทัพสหรัฐฯ และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้รองรับเกมเจนใหม่
ASUS TUF Gaming A16 (FA608): CPU สูงสุด AMD Ryzen 9 8940HX
ASUS TUF Gaming F16 (FX608): CPU สูงสุด Intel Core Ultra 9
275HX ทั้งสองรุ่นรองรับการ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 5070
ASUS TUF Gaming A18 (FA808): หน้าจอ 18 นิ้ว, CPU AMD Ryzen 7 260, การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5070
ASUS TUF Gaming A14 (FA401): หน้าจอ 14 นิ้ว, การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5060
ASUS TUF Gaming T500: เดสก์ท็อป CPU Intel Core i7 13620H, การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti ในตัวเครื่องกะทัดรัด
ทั้งหมดนี้ร่วมกับไลน์ผลิตภัณฑ์ ROG PC จะสร้างระบบนิเวศของ ASUS ที่ขับเคลื่อนด้วย RTX 50 Series เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของเกมเมอร์ในทุกระดับ
เครดิต sanook.com
