MediaTek ได้ประกาศเปิดตัวชิปเซ็ตระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Dimensity อย่างเป็นทางการ คือ MediaTek Dimensity 9400e ชิปเซ็ตนี้
ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดไว้ต่ำกว่ารุ่นพี่ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าอย่าง Dimensity 9400 และ 9400+ และอาจกล่าวได้ว่าเป็นการนำเอาชิป Dimensity 9300+ ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วมาปรับปรุงและทำการรีแบรนด์ใหม่ โดยมีการเปลี่ยนแปลงสเปกหลักๆ บางส่วนที่น่าสนใจ อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
ในส่วนของสถาปัตยกรรม CPU นั้น Dimensity 9400e ยังคงใช้ดีไซน์แบบ “All Big Core” เหมือนกับ Dimensity 9300+ ทุกประการ ประกอบด้วยแกนประมวลผลประสิทธิภาพสูงพิเศษ (Prime Core) แบบ Cortex-X4 ความเร็วสูงสุด 3.4GHz จำนวน 1 คอร์, แกนประสิทธิภาพสูง (Performance Cores) แบบ Cortex-X4 ความเร็ว 2.85GHz จำนวน 3 คอร์
และแกนประสิทธิภาพ (Efficiency Cores) แบบ Cortex-A720 ความเร็ว 2.0GHz จำนวน 4 คอร์ พร้อมด้วยแคช L3 ขนาด 8MB และ SLC ขนาด 10MB
หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ยังคงใช้ตัวเดิมคือ Immortalis-G720 MC12 แบบ 12 คอร์ ซึ่งรองรับเทคโนโลยี Ray-Tracing แบบเร่งด้วยฮาร์ดแวร์ อย่างไรก็ตาม มีการปรับลดความเร็วในการรองรับหน่วยความจำลง
โดย Dimensity 9400e รองรับหน่วยความจำแบบ LPDDR5X ได้สูงสุดที่ความเร็ว 8533MHz จากเดิมที่ Dimensity 9300+ รองรับได้ถึง 9600MHz แต่ยังคงรองรับพื้นที่เก็บข้อมูลความเร็วสูงแบบ UFS 4 พร้อมเทคโนโลยี MCQ (Multi-Circular Queue)
จุดที่มีการอัปเกรดอย่างชัดเจนคือด้านการเชื่อมต่อไร้สาย โดย Dimensity 9400e มาพร้อมความสามารถด้าน Wi-Fi ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 7.3Gbps ซึ่งเร็วกว่า 6.5Gbps บน Dimensity 9300+
นอกจากนี้ยังรองรับ Bluetooth เวอร์ชั่น 6.0 ที่มาพร้อม Dual Bluetooth Engine และทาง MediaTek เคลมว่าสามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลถึง 5 กิโลเมตรในพื้นที่เปิดโล่งที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง
ด้านความสามารถด้าน AI ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญในปัจจุบัน Dimensity 9400e รองรับ MediaTek NeuroPilot SDK รุ่นล่าสุด ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้งานเทคโนโลยี AI ที่ทันสมัย รวมถึงการรองรับ Multi-Modality (LMM), Large Vision Models (LVM) และ Language Models (SLM/LLM) จากระบบนิเวศ AI ทั่วโลก
สำหรับประสบการณ์การเล่นเกม Dimensity 9400e ยังคงรองรับเทคโนโลยี MediaTek HyperEngine และ MediaTek Adaptive Gaming Technology เช่นเดียวกับ Dimensity 9300+ เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานขณะเล่นเกม
แต่มีการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่คือ MediaTek Frame Rate Converter ซึ่งทางบริษัทอ้างว่าสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 40% เมื่อเปิดใช้งาน แม้จะยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับกลไกการทำงานของเทคโนโลยีนี้
คาดว่าชิป Dimensity 9400e จะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟนจริงในเร็วๆ นี้ โดยแบรนด์ในเครืออย่าง OnePlus และ Realme ได้ประกาศรองรับชิปนี้แล้ว โดย OnePlus จะนำไปใช้ในรุ่น OnePlus Ace5 Racing Edition ที่เตรียมเปิดตัวในตลาดประเทศจีน และ Realme จะนำไปใช้ในรุ่น Realme GT 7 ซึ่งทั้งสองรุ่นคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือนนี้ (พฤษภาคม 2568)
โดยสรุป MediaTek Dimensity 9400e ถือเป็นการนำเอาประสิทธิภาพระดับเรือธงของ Dimensity 9300+ มาต่อยอด โดยเน้นการอัปเกรดความสามารถด้านการเชื่อมต่อไร้สายให้เร็วและเสถียรขึ้น รวมถึงการเสริมทัพความพร้อมสำหรับเทคโนโลยี AI ล่าสุด ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ในช่วงราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
เครดิต sanook.com