ใครที่ใช้งาน iOS 26 ก็มีข่าวดีว่าล่าสุดนี้มีการปรับปรุงเรื่อยๆ ตามคำที่นักพัฒนาและกลุ่มผู้อยากลองได้บอกไป ล่าสุด Apple ปล่อยอัปเดต iOS 26 Beta 3 ออกมา
ซึ่งมีการปรับแค่เล็กๆ น้อยๆ จาก Beta 2 รวมถึงปรับดีไซน์ “Liquid Glass” ให้ลงตัวยิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรใหม่บ้าง เรามาดูกัน อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
อะไรใหม่ใน iOS 26 Beta 3
ปรับปรุงดีไซน์และความโปร่งใส (UI Tweaks & Transparency)
เริ่มต้นกับการปรับความโปร่งใสในแอปอย่าง Music, Podcasts และ App Store แถบเมนูด้านล่างถูกปรับให้มีความทึบแสงมากขึ้น เพื่อให้ปุ่มต่างๆ มองเห็นและกดได้ง่ายกว่าเดิม ด้านการแจ้งเตือน (Notifications) บนพื้นหลังบางรูปแบบ จะมีโทนสีที่เข้มขึ้นเพื่อเพิ่มความชัดเจนของตัวอักษร ช่วยให้มองงานกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน
Wallpaper ใหม่ในธีม “iOS”
เพื่อความใสมากขึ้น มีการเพิ่มตัวเลือกสีใหม่สำหรับ Wallpaper เริ่มต้นของ iOS 26 โดยมีให้เลือก 4 โทนสี ได้แก่ Halo, Dusk, Sky, และ Shadow ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโทนสีฟ้าและมีสีม่วง 1 แบบ โดยสีสันจะแตกต่างกันอย่างชัดเจนเมื่อเปิดใช้งาน Dark Mode
Control Center สีสันสดใสขึ้น
นอกจากการปรับสิ่งต่างๆ แล้วยังมีการปรับสีของปุ่มเปิด-ปิด Wi-Fi, Bluetooth, AirDrop และ Cellular ให้มีความสว่างและสดใสมากขึ้น เพื่อให้ดูกลมกลืนกับส่วนอื่นๆ ใน Control Center ทำให้มองง่ายมากขึ้น
ฟีเจอร์ภายในของ Applicationใหม่
Maps: เพิ่มการแจ้งเตือน “หมอกลงจัด” (Fog Advisories) เมื่อใช้งานแผนที่แบบออฟไลน์ และปรับปรุงการแจ้งเตือนความล่าช้าในการเดินทางให้ดีขึ้น
Safari: ปรับดีไซน์เล็กน้อยในหน้าอินเทอร์เฟซของโฟลเดอร์
ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ iPadOS 26
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้าไปและอัปเดต Apps เข้าไปด้วยไม่ว่าจะเป็นเช่น
“เขย่าเพื่อหาเคอร์เซอร์” (Shake to Find Cursor): ยกฟีเจอร์จาก macOS มาสู่ iPadOS หากคุณหาเคอร์เซอร์เมาส์ไม่เจอ เพียงแค่เขย่าเมาส์ เคอร์เซอร์ก็จะขยายใหญ่ขึ้นชั่วขณะเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย
การแก้ไขบั๊ก (Bug Fixes)
และมีการแก้ปัญหาสำคัญที่ทำให้ iPad ที่เชื่อมต่อกับจอภายนอกเข้าสู่โหมด Sleep ขณะกำลังวิดีโอคอล ที่มีปัญหาก็สามารถใช้งานได้แล้วในตอนนี้
ขณะนี้ iOS 26 ยังคงเป็นเวอร์ชันสำหรับนักพัฒนา (Developer Beta) ซึ่งอาจยังมีบั๊กและปัญหาความไม่เสถียรอยู่ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการทดลองเล่น แนะนำให้รอเวอร์ชัน Public Beta ที่จะมีความเสถียรกว่า ซึ่ง Apple มีกำหนดจะปล่อยให้อัปเดตกันภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนเวอร์ชันเต็มสำหรับผู้ใช้งานทุกคนจะเปิดให้อัปเดตพร้อมกันช่วงปลายปีนี้ครับ
เครดิต sanook.com