visionOS 26 เป็นอีกระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลมากขึ้นเช่นเเดียวกัน รอบนี่้ฟีเจอร์อะไรใหม่ที่เราต้องรู้กันก่อนจะลองเล่น แม้ประเทศไทยจะไม่มีการขาย
อะไรใหม่ของ visionOS 26 อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
1. สร้างโลกส่วนตัวที่สมจริงยิ่งขึ้น (More Immersive Personal Space)
visionOS 26 ได้เปลี่ยนวิธีการที่เราโต้ตอบกับคอนเทนต์ดิจิทัลในพื้นที่ของเราเอง ที่เหนือกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้เช่น
Spatial Scenes (ฉากเชิงมิติพื้นที่): นี่คือฟีเจอร์ที่น่าทึ่งที่สุด โดยใช้ Generative AI ในการ เปลี่ยนภาพถ่าย 2D ธรรมดาให้กลายเป็นภาพที่มีมิติความลึก ผู้ใช้จะสามารถ “โน้มตัว” หรือ “มองไปรอบๆ” วัตถุในภาพถ่ายได้ราวกับว่าได้กลับไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
Spatial Widgets (วิดเจ็ตเชิงมิติพื้นที่): วิดเจ็ตต่างๆ ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมอีกต่อไป แต่สามารถ “ลอย” และ “จัดวาง” ได้อย่างอิสระในพื้นที่ของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา, สภาพอากาศ, หรือแอปเพลง โดยวิดเจ็ตเหล่านี้จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้สวม Vision Pro
2. ปฏิวัติการสื่อสารและประสบการณ์ร่วมกัน (Revolutionizing Social Interaction)
Apple ได้แก้ไขจุดอ่อนและผลักดันขีดความสามารถในการใช้งานร่วมกับผู้อื่นไปอีกขั้น ประกอบไปด้วย
Persona ที่สมจริงยิ่งขึ้น: Persona หรืออวตารดิจิทัลของผู้ใช้ ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ให้มีความสมจริงอย่างน่าทึ่ง ด้วยความละเอียดที่สูงขึ้น สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้ชัดเจน และมีรายละเอียดของเส้นผมและสีผิวที่แม่นยำกว่าเดิมมาก
Shared Spatial Experiences: นี่คือฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย ผู้ใช้ Vision Pro หลายคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน สามารถมองเห็นและโต้ตอบกับคอนเทนต์ 3 มิติชิ้นเดียวกันได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง 3 มิติ, เล่นเกม, หรือทำงานออกแบบร่วมกันในพื้นที่เสมือนจริงที่ใช้ร่วมกัน
3. เปิดรับคอนเทนต์และเกมจากโลกภายนอก (Expanding Content & Gaming)
visionOS 26 เปิดกว้างให้กับคอนเทนต์และอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่นมากขึ้นกับมุมองที่ชัดเจนเช่น
รองรับคอนเทนต์ 180/360 องศา: สามารถเล่นไฟล์วิดีโอแบบ 180 และ 360 องศาจากกล้องยอดนิยมอย่าง Insta360, GoPro และ Canon ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับวิดีโอแอ็คชั่นและทิวทัศน์ได้อย่างเต็มอรรถรส
รองรับคอนโทรลเลอร์ PlayStation VR2 Sense: ข่าวดีสำหรับคอเกม! การรองรับคอนโทรลเลอร์ PS VR2 Sense จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเกมที่มีความซับซ้อนและสมจริงยิ่งขึ้นบน Vision Pro ได้ โดยใช้ประโยชน์จากการติดตามการเคลื่อนไหวแบบ 6 ทิศทางและระบบสั่น
4. เครื่องมือสำหรับองค์กรและผู้ใช้งานระดับสูง (Enterprise & Pro Tools)
Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์สำคัญเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในระดับองค์กรและมืออาชีพ
การจัดการอุปกรณ์ในองค์กร: เพิ่มโหมด Shared Device ที่ช่วยให้พนักงานหลายคนสามารถใช้อุปกรณ์ Vision Pro เครื่องเดียวกันได้ โดยแต่ละคนสามารถบันทึกค่าสายตาและการตั้งค่าส่วนตัวไว้บน iPhone ของตนเอง แล้วซิงค์กับ Vision Pro ได้ทันที
API ใหม่เพื่อความปลอดภัย: Protected Content API จะช่วยให้องค์กรสามารถจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น เวชระเบียน หรือข้อมูลธุรกิจ โดยจะป้องกันการถ่ายภาพหน้าจอหรือการแชร์หน้าจอโดยไม่ได้รับอนุญาต
Look to Scroll: ผู้ใช้สามารถเลื่อนหน้าเว็บหรือแอปได้โดยไม่ต้องใช้มือ เพียงแค่ใช้สายตามองไปยังขอบบนหรือล่างของหน้าจอ
อย่างไรก็ตามนี่เป็นระบบปฏิบัติการที่คุณไม่ได้สัมผัสแน่นอนดังนุั้นต้องรอติดตามกันกดับระบบปฏิบัติการอื่นกันต่อไป
เครดิต sanook.com
