บีม กวี เผยปมในใจ ออย ไม่เคยมองเป็นที่ 1 จนกระทั่งมีลูกมาเปลี่ยนทุกอย่าง
จากสามีที่รู้สึกเป็นคนนอก สู่ครอบครัวที่สมบูรณ์ บีม กวี และ ออย อฏิพรณ์ เล่าจุดเปลี่ยนของชีวิตคู่ในรายการ WOODY FM เผยปมที่ติดอยู่ในใจไม่ได้เป็นที่ 1 ของภรรยา เพราะให้ความสำคัญกับครอบครัวเดิมมากกว่า จนมีลูกมาเป็นโซ่ทองคล้องใจทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น
ความสัมพันธ์ของคุณสองคนในฐานะที่เป็นพ่อแม่ได้มีโอกาสกลับมาทบทวนกันบ้างไหมอ่านผลข่าวเพิ่มเติม
โดย บีม กวี ผมมีเรื่องติดอยู่ในใจมานานแล้ว ตั้งแต่แต่งงานกันมาใหม่ๆ เลย ผมมีความรู้สึกว่าออยเขาไม่ได้ให้ผมเป็นที่ 1 ช่วงแรกๆต้องเล่าแบบนี้ครับ ด้วยความที่ต้องแต่งงานกันใหม่ๆ เขาก็จะไม่รู้สึกว่าผูกพันกับที่บ้านคือหมายถึงบ้านที่ผมอยู่กับเขาตอนนี้ แล้วเขาก็จะชอบหนีกลับบ้านทุกวัน บางทีผมก็ไม่รู้ว่าเขากลับไปทำอะไร พอไปถึงผมก็นั่งอยู่ตรงโซฟาแล้วก็นั่งดูเขาใช้ชีวิตในบ้านของเขา แล้วรู้สึกว่าผมมาทำอะไรตรงนี้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าแล้วผมแต่งงานไปทำไม เป็นอย่างนั้นทุกวัน
แม้กระทั่งผมออกไปทำงานไม่ได้อยู่กับเขา ก็ขับรถออกไปอยู่บ้านเขา บางทีผมคาดหวังว่าโทรกลับมาหาว่าเดี๋ยวเย็นนี้กินข้าวกันนะ เขาก็จะบอกว่าไม่ได้รออยู่ที่บ้านนะ ตอนนี้อยู่บ้านเขาเดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วกลับมา เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเขาไม่รู้สึกว่าเป็นครอบครัวกับผม หรือไม่ได้อยากเริ่มต้นใช้ชีวิตกับผมเลยในตอนนั้น มีความรู้สึกแบบนั้น
นานไหมช่วงนั้น ?
บีม : นานเลยนะ คือมันติดอยู่ในใจนาน จนกระทั่งเรามีลูก โอเคเขาคงรู้สึกว่าผมเป็นพ่อของลูกแล้ว ผมเป็นครอบครัว แต่ว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกมั่นใจขนาดนั้น เพราะว่าไม่เคยได้ยินจากปากเขา ว่าผมเป็นครอบครัวเขา ผมเป็นนัมเบอร์วัน อันนี้พูดความจริงเลย จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เองผมได้ยินเขาพูด ตอนขับรถอยู่แล้วเขาพูด
ออย : ก็คือว่ามันมีช่วงหนึ่งออยทะเลาะกับน้องเรื่องจุกจิก
บีม : ซึ่งน้องเขายังไม่ได้แต่งงาน เขาก็รู้สึกว่าเป็นพี่สาวก็ต้องอยู่ที่บ้านดูแลครอบครัว คือยังรู้สึกว่าพี่สาวเขายังอยู่บ้านอยู่มั้ง แล้วออยเขาพูดกับผมประโยคหนึ่งว่า…. น้องเขายังไม่เข้าใจเพราะว่ายังไม่มีครอบครัว ไม่เข้าใจว่าคนที่แต่งงานไปครอบครัวใหม่ที่สร้างขึ้นเขามีลูกมีสามีตอนนี้มันก็ต้องเป็นอันดับ 1 สิ เขาพูดประโยคนี้ระหว่างที่ผมขับรถ ซึ่งพูดออกมาว่าเราเป็นที่ 1 แล้ว ความรู้สึกในหัวแบบมัน ป๊อก!! รู้สึกแบบนั้นจริงๆ (หัวเราะ)
ออย : เหมือนเด็กมีปมเลย (หัวเราะ)
บีม : แล้วผมก็นั่งทบทวน รู้สึกว่าตอนนี้เขากำลังสร้างครอบครัวกับเราอยู่
หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยได้พูดแบบตรงไปตรงมากับความรู้สึกนี้ทั้งๆ ที่คุยกันทุกเรื่อง ?
บีม : คือช่วงแรกๆผมก็ถามเขาแหล่ะว่ากลับบ้านทำไม อยู่บ้านกับผมแล้วมันไม่มีความสุขเหรอ
เขาตอบว่ายังไง ?
บีม : ผมว่าเขาคงเรียงลำดับความสำคัญว่าอยากให้บ้านเขาตอนนี้เป็นที่ 1 มาก่อน
ออย : ก็คือตอนที่แต่งงานใหม่ๆ ผู้หญิงเราก็คิดถึงบ้านเนอะ จนสักพักหนึ่งเราเริ่มปรับตัวได้แล้ว แต่ว่าที่ออยยังกลับบ้านอยู่เพราะเรายังรู้สึกว่าเป็นห่วงที่บ้าน คือให้ความสำคัญกับคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราก่อน คือบีมเขาไม่ได้มีอะไรอยู่แล้วไงที่บ้านก็คือมีคนดูแลทุกอย่าง แล้วการที่บีมเขาออกไปทำงานเราก็ไปนั่งที่บ้านเพราะอยู่คนเดียวไง มานั่งคุยกับแม่
พาหมาไปหาหมอ หมาไม่สบายแก่มากแล้วต้องมาทำแผลให้มันทุกวัน เพราะว่าคนอื่นไม่กล้าทำเพราะมันเป็นแผลสด กลับมากวาดถูบ้าน เพราะไม่มีแม่บ้านช่วงนั้น เป็นห่วงพ่อแม่ เพราะมันเป็นหน้าที่เราเคยทำมาก่อน พอไม่อยู่ก็ห่วงว่าจะมีคนทำไหม ก็เลยกลับไปทำทุกวันจนตัวเองมีลูกก็ถอยออกมาเรื่อยๆเพราะว่ามันไม่มีเวลาเป็นตามธรรมชาติ แต่ถามว่าลึกๆออยรู้ว่าตรงนั้นไม่ใช่นัมเบอร์วันของเราอยู่แล้ว แต่ที่ออยให้ความสำคัญก่อนเพราะว่าเรารู้สึกเป็นห่วง ซึ่งเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ จริงๆ อาจจะไม่ต้องห่วงก็ได้ เหมือนเป็นหน้าที่ๆ เคยทำมาแล้วจะไม่กลับไปเลยเรารู้สึกผิดลึกๆ ก็อยากกลับไปทำหน้าที่เราอยู่ คืออยากทำหน้าที่ลูก ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าโดนทิ้ง
รู้สึกว่าการที่เราห่างเขา 1 วัน เหมือนเราเสียเวลาไป 1 วัน เพราะพ่อแม่เราอายุเขาหายไปทุกวันๆ
พอมีลูกก็ยังติดอยู่ไหม เพราะบีมก็เพิ่งรู้สึกเมื่อไม่นานมานี้ว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ?
บีม : ใช่ครับ ไม่มีเวลาให้เราด้วย มันไม่ใช่แค่เรื่องเวลา ความรู้สึกไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทีมเดียวกัน รู้สึกว่าผมก็ยังเป็นคนนอกเหนือจากครอบครัวเขา ผมเป็นแค่แฟนเขา เป็นแค่สามีเขา แต่ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ในรถคันเดียวกันที่กำลังมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นในตอนนั้นนะครับ จะบอกว่าผมขอบคุณลูกก็ได้ที่แบบคำว่าลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ ซึ่งมันเป็นโซ่ที่ดึงเขามาติดกับผมตอนนี้ แล้วผมก็ได้ในสิ่งที่ผมต้องการตอนนี้ แล้วเขาก็พูดออกมาด้วย
คุณเป็นคนที่เก็บเอาไว้เหมือนกันนะ ?
ออย : ไม่เคยรู้เลยว่าเขาคิดอย่างงี้ พอเขาพูด ปุ๊บ! รู้สึกว่าแล้วที่ผ่านมาที่แบบว่าทำงาน คือออยรู้สึกว่าเป็นทีมเดียวกับเขามากเลย
บีม : คือตอนนั้นก็รู้สึกแล้ว แต่ว่าเราไม่เคยได้ยินจากปากเธอแค่นั้นเองเข้าใจไหม คือเรารู้สึกว่าเป็นทีมเดียวกันตั้งแต่มีลูกนั่นแหล่ะ พอเขาเริ่มท้องก็เริ่มทำงานชิ้นเดียวกันก็คือเริ่มปั้นช่อง Youtube ของเรา ทำงานด้วยกัน รู้สึกว่าเป็นทีมเดียวกันมันเริ่มมาจากตอนนั้น
เครดิต sanook.com
เรื่องราวเพิ่มเติม
ใบเตย กลับบ้าน เปิดภาพบ้านสวนละมุดส้มโอทับทิมสยาม 2568
เสี่ยตา ปัญญา จัดวันเกิดให้ภรรยา แอ๊ว วาสนา 2568
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ร่วมพิธีบุญแบบชาวศรีลังกา 2568