21/05/2024

ผลข่าว ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด

ผลข่าว อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด 24 ชั่วโมง

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โชว์แผนพัฒนาไทยควรได้อะไรจาก 5 แสนล้าน

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โชว์วิสัยทัศน์ ประเทศไทยควรได้อะไรหากต้องใช้ 5 แสนล้าน

ประธานคณะก้าวหน้า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชี้ หากมีงบ 5 แสนล้านบาท สามารถสร้างรถเมล์ไฟฟ้าได้ทุกจังหวัด เกิดระบบแพทย์ทางไกล มีน้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศ โรงเรียนถูกเพิ่มงบ และมีการจัดการขยะ ยันทำได้แบบงบประมาณปกติ สามารถเป็นจริงได้ภายใน 8 ปี อ่านข่าวเพิ่มเติม

วานนี้วันที่ 17 พ.ย. 2566 เวลา 15.00 น ที่อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร-จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้กล่าวคำบรรยายสาธารณะ “ประเทศไทยควรได้อะไร หากต้องใช้ 5 แสนล้าน” 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

โดยนายธนาธร กล่าวว่า ปัจจุบัน GDP ไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีขีดความแข่งขันไม่ได้เท่ากับประเทศเพื่อนบ้านและโลก สืบเนื่องมาจากคนไม่มีงานที่มั่นคงทำ เช่น ในภาคเกษตร ทำให้คนไม่กล้าฝัน ไม่กล้าเสี่ยง

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

หากตนมีงบ 5 แสนล้านบาทอยู่ในมือ ตนจะพัฒนาด้านคมนาคม ในเรื่องรถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด ทุกอำเภอ โดยใช้งบอยู่ที่ 88,000 ล้านบาท ระบบสาธารณสุข เพื่อสร้างระบบแพทย์ทางไกล หรือ เทเลเมดิซีนทั่วประเทศ 60,000 ล้านบาท 

น้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศ 67,000 ล้านบาท การศึกษา เพื่อลงทุนเพิ่มศักยภาพโรงเรียน 121,000 ล้านบาท และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อจัดการขยะทั่วประเทศ 120,000 ล้านบาท

โดยนายธนาธร กล่าวว่า เรื่องการแพทย์ต้องติดตั้งระบบเทเลเมดิซีนทุกหมู่บ้าน ซึ่งจะทำให้ลดการเดินทางของผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล แต่หากเห็นการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพค่อยพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

โดยข้อมูลทุกอย่างจะเก็บในคลาวด์ โดยมี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เก็บรวบรวมข้อมูล ถือเป็นการตรวจสุขภาพเบื้องต้นได้ ส่วนเรื่องการพัฒนาระบบคมนาคมนั้น นายธนาธร ระบุว่าการเดินทางคือการเพิ่มโอกาสของชีวิต หากพัฒนาระบบสาธารณะ จะเกิดการจ้างงานขนาดใหญ่ และจะเกิดเศรษฐกิจข้างทาง อีกทั้งยังช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ด้วย 

ส่วนเรื่องน้ำประปา ต้องเป็นสิทธิพื้นฐาน เพราะการใช้งบ กว่า 6 หมื่นล้านบาทถือว่าถูกที่สุด อีกทั้งโรงงานผลิตสมาร์ตมิเตอร์ยังอยู่ในประเทศไทย ถือเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมในไทย และเชื่อว่าอีกไม่กี่ปี ทั่วโลกจะเปลี่ยนเป็นสมาร์ทมิเตอร์ทั้งหมด

ขณะที่เรื่องบ่อขยะทั่วประเทศไทย ตนเชื่อว่ากว่า 80 % ในประเทศไทย ไม่ได้มาตรฐาน โดยวิธีการการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพต้องแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ส่วนโรงเผาขยะต้องดึง Know-how จากเดนมาร์ก และญี่ปุ่นมาร่วมบริหารจัดการด้วย ซึ่งเป็นประเทศที่ทำเรื่องดังกล่าวได้ดี ก่อนจะต่อยอดสร้างเองในอนาคต 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ส่วนเรื่องการเพิ่มศักยภาพของโรงเรียน ต้องทำให้โรงเรียนของลูกหลานมีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ครบครัน โดยข้อมูลจากสถิติแห่งชาติ พบว่าการศึกษาฟรีในประเทศไทยนั้นไม่มีจริง ในทุกระดับชั้นการศึกษาต้องจ่ายเงินเพิ่ม จึงทำให้มีนักเรียนบางส่วนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะผู้ปกครองไม่สามารถรับผิดชอบค่าเล่าเรียนไหว 

ดังนั้นการลงทุนด้านการศึกษาจะต้องทำให้ทั้งคนรวย และคนจน ได้รับระบบการศึกษาที่เท่าเทียมกัน จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มใน ระดับอาชีวะ 20 ล้านบาทต่อแห่ง โรงเรียนพื้นฐาน 3 ล้านบาทต่อแห่ง โรงเรียนขนาดเล็ก 5 แสนบาทต่อแห่ง และลงทุนในกองทุนเพื่อความเสมอภาคด้านการศึกษา อีก 4,500 ล้านบาท เพื่อไม่ให้มีเด็กคนไหนจะต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา

โดยงบประมาณที่ นายธนาธร พูดมาในการพัฒนาทุกด้าน รวมทุกก้อนแล้วจะอยู่ที่ 456,000 ล้านบาท และยังสามารถเลือกได้ว่าจะทำเองในหน่วยงานรัฐ หรือจะจ้างบริการจากเอกชน แต่การดึงเอกชนเข้ามาอย่าเปิดโอกาสให้เงินเข้ากระเป๋านายทุนอย่างเดียว แต่ต้องเกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมด้วย ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่เลยทีเดียว

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักแนวคิดของตน ก็คือ การเอาปัญหาสังคม เปลี่ยนเป็นความต้องการ มาสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ก่อนเป็นการสร้างงาน และสร้างเทคโนโลยี เพราะหากไม่สร้างเทคโนโลยี ก็จะเกิดการซื้อเทคโนโลยีอยู่เรื่อย ๆ เพราะทุกสิ่งต้องใช้เทคโนโลยี และหากไม่มีเทคโนโลยีก็จะเปลี่ยนแปลงรายได้และเป็นประเทศที่ร่ำรวยไม่ได้

ทั้งนี้ หากมองตามความจริง ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวสามารถเป็นไปได้ภายใน 8 ปี หากนำงบ 456,000 ล้านบาท มาหาร 8 ปี ในการใช้งบประมาณปกติ ก็จะอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท/ปี จึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ ด้วยการตัดงบบางด้านที่ไม่จำเป็นจริง ๆ ออก และนำงบนั้นมาลงทุนกับสิ่งที่เป็นเรื่องพื้นฐานของประชาชน