โครงการ Easy E-Receipt มีระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยผู้ใช้สิทธิ์จะต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice หรือ e-Receipt) จะขอลดหย่อนค่าภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท (ตามฐานภาษีจากรายได้สุทธิของแต่ละคน) อ่านข่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้แต่ละคนจะได้รับการลดหย่อนค่าภาษีไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิที่ต้องยื่นเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลของแต่ละคน โดยถ้าใช้สิทธิเต็ม 50,000 บาท ได้สิทธิ์ลดหย่อนดังนี้
- จะได้ภาษีเงินคืน 5,000 บาท ถ้ามีรายได้สุทธิ 300,001-500,000 บาทต่อปี
- จะได้ภาษีเงินคืน 7,500 บาท ถ้ามีรายได้สุทธิ 500,001-750,000 บาทต่อปี
- จะได้ภาษีเงินคืน 10,000 บาท ถ้ามีรายได้สุทธิ 750,001-1,000,000 บาทต่อปี
- จะได้ภาษีเงินคืน 12,500 บาท ถ้ามีรายได้สุทธิ 1,000,001-2,000,000 บาทต่อปี
- จะได้ภาษีเงินคืน 15,000 บาท ถ้ามีรายได้สุทธิ 2,000,001-5,000,000 บาทต่อปี
- จะได้ภาษีเงินคืน 17,500 บาท ถ้ามีรายได้สุทธิ 5,000,001 บาทขึ้นต่อปี
ลดหย่อนภาษี ตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วม e-Tax Invoice
วิธีแรกสามารถเข้าไปที่ ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการเข้าระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt
สามารถเลือกประเภทกิจการ / เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร / ชื่อสถานประกอบการหรือชื่อผู้ประกอบการ
สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วม e-Tax Invoice ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือที่ https://etax.rd.go.th โดยกดไปที่เมนู “ผู้ได้รับอนุมัติ” ซึ่งจะแสดงรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้จัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับ ภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่สามารถออก e-Tax Invoice & e-Receipt จำนวน 2,499 ราย และผู้ประกอบการที่สามารถออก e-Tax Invoice by Time Stamp ได้จำนวน 1,730 ราย
เรื่องราวเพิ่มเติม
ฟาร์มแนวตั้ง Gloucestershire เป็น 1 ในที่ทันสมัยที่สุด
แต่งห้องวันคริสต์มาส 10 ไอเดียสุดอบอุ่น ในเทศกาลส่งท้ายปี
ต้นไม้ที่คนญี่ปุ่นมู 5 ไม้ใบ เพิ่มโชคลาภประจำปี 2566