เมื่อตำรวจออกมาแฉแก๊งยิงครูเจี๊ยบที่โดนลูกหลง และน้องหยอด นักศึกษาอุเทนถวาย ทราบว่ามีการร่วมวางแผนถึง 10 คนขึ้นไป พัฒนารูปแบบการก่อเหตุเด็ดหัวฝ่ายอริให้ซับซ้อนมากยิ่งกว่าองค์กรอาชญากรรม อ่านข่าวเพิ่มเติม
รูปแบบการก่อเหตุเพื่อเด็ดหัวฝ่ายอริที่ซับซ้อนเพื่อไม่ให้โดนจับ ยิ่งกว่าองค์กรอาชญากรรม ไปแล้ว หลังมีการระดมทุนทั้งเงินถูกกฎหมาย และทุนสีเทา ตั้งกองทุนในการซื้ออาวุธ มีเงินทุนใช้ประกันตัว จ้างทนายสู้คดี มีรุ่นพี่เป็นพี่เลี้ยงสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่คนในสังคมจะมองข้ามกันได้แล้ว เพราะมันลุกลามบานปลายถึงขั้นทำให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องมาเผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายจากแก๊งโจ๋ทมิฬอดีตเด็กช่าง
หลังตำรวจแกะรอยไล่ล่าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รวม 4 จุด และล่าสุดสามารถรวบตัว 8 ผู้ต้องหาร่วมขบวนการ มีการจัดตั้งองค์กร “ช.ก.” ซึ่งเป็นชื่อย่อของช่างกลปทุมวัน โดยมีการเช่าที่พักเป็นแหล่งซ่องสุม ติดภาพเหยื่อต่างสถาบันและผู้เสียชีวิตสถาบันเดียวกัน เพื่อปลุกเร้าสร้างความฮึกเหิม
อีกทั้งยังตั้งกลุ่มแชตไลน์เพื่อสร้างตัวเองขึ้นมาในโลกเสมือนจริง ทั้งที่ไม่มีสถานะเป็นนักศึกษาเทคโนโลยีปทุมวัน เนื่องจากลาออกมาตั้งแต่ปี 1 แต่กลับพยายามสร้างตัวตนให้เกิดการยอมรับ เชิญชวนอดีตนักศึกษาและนักศึกษาปัจจุบันเข้าร่วม ปลูกฝังค่านิยมให้ถือว่า “อุเทนถวาย คือศัตรู” และจะได้รับการยอมรับเมื่อทำร้ายคนอื่นได้
โดยใช้ชื่อกลุ่มไลน์ว่า PATUMWAN 890 (ปทุมวัน 890) มีสมาชิกทั้งสิ้น 103 ราย ยิ่งไปกว่านั้นมีผู้ใช้นามว่า “P” ระบุว่า “พี่ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก.90 ที่พาน้อง ช.ก.91 ไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกลปทุมวัน” ได้มีคนกดไลก์เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ยิงครูเจี๊ยบ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า 1 ในผู้ต้องหาเชื่อมโยงกับคดียิงนักศึกษาอุเทนถวาย หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2566 ขณะที่มือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด รวมถึงผู้ขี่จักรยานยนต์สั่งการให้ยิง อยู่ระหว่างขั้นตอนการติดตามจับกุมตัว
แก๊งโจ๋สุดเหี้ยม จากความเกลียดชังกระตุ้นต่อมศักดิ์ศรีวัยรุ่นยุคใหม่ถูกหลอกใช้ง่าย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ดูเหมือนว่าสังคมไทยนับวันจะอยู่ยากมากขึ้น เพราะจะมีอีกกี่คนที่ต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งเหล่านี้ หากโชคดีก็รอดตาย หากโชคร้ายอาจจะต้องซ้ำรอยกรณีครูเจี๊ยบ ผู้ไม่รู้เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสถาบันที่เกิดขึ้น
แล้วกรณีดังกล่าวเป็นยิ่งกว่าองค์กรอาชญากรรมจริงหรือไม่ “ผศ.ดร.ฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุล” นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยา มองว่า แก๊งโจ๋ทมิฬยังไม่เข้าข่ายองค์กรอาชญากรรมตามคำนิยาม อาจเข้าข่ายจากความเกลียดชังหรือไม่ เพราะไม่มีสถาบันการศึกษาอื่นเป็นคู่อริ มีเพียงอุเทนถวายเท่านั้น
จากการวิเคราะห์บุคคลที่เป็นผู้คุมแก๊งนี้ อาจมีปัญหาและมีความเกลียดชังอุเทนถวาย โดยอาศัยการปลุกปั่นโดยใช้เด็กวัยรุ่นเป็นเครื่องมือและสนับสนุนทางอ้อมให้กระทำความผิดจากความเกลียดชังของตัวเอง เพราะการจะเป็นองค์กรอาชญากรรมได้จะต้องมีระดับชั้นในการสั่งการ ตั้งแต่หัวหน้าไปถึงลูกน้องผู้ปฏิบัติการ อย่างแก๊งยากูซ่า
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นแสดงถึงการเกลียดชังมากกว่า และคนเข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่นที่มีความห้าวเลือดร้อน มีนิสัยเกเร ถูกหลอกเข้ามาร่วมแก๊ง อาจเอาเรื่องศักดิ์ศรีของสถาบันเข้ามาล่อ เอาจุดอ่อนของเด็กมาล่อ ซึ่งสมัยก่อนการปลุกปั่นไม่แพร่ระบาดเร็วขนาดนี้ ยังไม่มีการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ แต่สมัยนี้ทำได้ง่ายมากขึ้นผ่านโซเชียล
หากมองด้านของแรงจูงใจให้เด็กวัยรุ่นเข้าร่วมนั้นปกติแล้วคนเราจะทำอะไรร่วมกันได้ ต้องมีเอกลักษณ์ร่วมอาจถูกดึงเข้ามา, เด็กวัยรุ่นอาจมีปมปัญหาที่ตรงกันจากความเกลียดชัง, น่าจะได้ผลตอบแทนจากการกระทำ คงไม่ก่อเหตุเฉย ๆ โดยไม่มีค่าตอบแทน ไม่มีผลประโยชน์ จากความฝังใจเหมือนกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นจึงทำให้เป็นกังวลต่อเด็กวัยรุ่นกำลังเติบโตในยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่มีจุดอ่อนสุ่มเสี่ยงจะตกเป็นเหยื่อและถูกหลอกใช้ หากตรวจสอบลึก ๆ พบว่าเด็กวัยรุ่นเหล่านี้ไม่ได้เป็นศัตรูโดยส่วนตัวกับเหยื่อต่างสถาบัน แต่ถูกกระตุ้นในเรื่องของศักดิ์ศรีให้มีความฮึกเหิม
เรื่องราวเพิ่มเติม
หวยลาวคืออะไร ออกวันไหน ได้เงินอย่างไร ผลรางวัลทั้งหมด 6 ตัว
จับลัทธิเชื่อมจิต น้องไนซ์ กับพวก 9 คน อุปโลกน์เป็นผู้วิเศษ
ปารีณา ไกรคุปต์ แจ้งความ โน้ส อุดม โดยอ้างม.112 ขอจบที่ศาล