เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานสารเคมี ที่จังหวัดระยองเป็นระยะเวลานานกว่า 20 ชม. ไฟไหม้โรงงานสารเคมี คพ.ตรวจพบ VOCs แต่ยังไม่เกินมาตรฐาน-ยังไม่วางใจคุมรัศมี 7 กม.ตรวจมลพิษ จ่อประกาศ 2 ตำบลพื้นที่ประสบสาธารณภัย อ่านข่าวเพิ่มเติม
ไฟไหม้โรงงานสารเคมี ความคืบหน้ากรณีไฟไหม้โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ในพื้นที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ต.บ้านค่าย จ.ระยอง
วันนี้ 23 เม.ย. 67 น.ส.ผานิต รัตสุข ผอ.กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทางช่องทางออนไลน์ว่า จากการติดตามสถานการณ์ไฟไหม้โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรม วิน โพรเสส ผ่านมาถึง 20 ชั่วโมงยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด
อีกทั้งยังมีรายงานว่าโกดังทั้ง 5 ที่เป็นจุดเก็บถังใส่น้ำมันดำ กากของเสียและโซเว้นท์ถูกไฟไหม้ไปเกือบทั้งหมด จึงทำให้ยังต้องติดตามมลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนและหลังดับไฟ
นางผานิต กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 67 หลังไฟไหม้ช่วงแรกและมีเสียงระเบิดจากน้ำมันดำที่อยู่ในโรงงาน ทางคพ.ประสานอพยพคนกลุ่มเสี่ยงในรัศมีใกล้โรงงานดังกล่าว เนื่องจากจะมีผลกระทบจากกลิ่นไฟไหม้ และเกิดมลพิษทางอากาศเนื่องจากโซเวนท์ที่ถูกไฟไหม้อาจทำให้ค่าสารอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ VOCs เกินมาตรฐานได้
ด้าน คพ. ลงพื้นที่ตรวจสอบมลพิษทางอากาศ แบ่งออกเป็น 2 รอบช่วง ได้แก่ เช้า และบ่าย โดยตรวจเรื่องแก๊สพิษโดยตีวงรัศมี 10 กม. ท้ายลมรอบโรงงาน เบื้องต้นตรวจพบ VOCs แต่ยังไม่เกินเกณ์มาตรฐาน ห่างจากโรงงานไปทางด้านทิศเหนือ 4 กม. และได้รับกลิ่นเหม็นไหม้ด้านท้ายลม
คพ. จะยังติดตามสถานการณ์มลพิษอย่างต่อไปจนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ รวมทั้งต้องติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ทั้งดิน น้ำ อากาศจากการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้
เก็บกากของเสียอันตรายเพียบ
ข้อมูลจาก กรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ในพื้นที่ของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด มีทั้งหมด 5 อาคาร ด้วยกันประกอบไปด้วย
- อาคาร 1 จัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อนและตะกอนปนเปื้อน
- อาคาร 2 บ่อตะกอนน้ำมัน
- อาคาร 3 เศษวัสดุ ยางรถยนต์ พลาสติก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
- อาคาร 4 เก็บถัง IBC 1000 ลิตร และถัง 200 ลิตร
- อาคาร 5 ส่วนหน้าอาคาร เศษวัสดุ ถัง IBC 1000 ลิตร เศษพลาสติก กองยิปซัม เถ้าลอย ส่วนกลางอาคาร ถัง 200 ลิตร และขยะทั่วไป ส่วนหลังอาคาร บ่อของเสีย และพื้นที่ระหว่างอาคาร 3 กับอาคาร 5 มีการจัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อน น้ำกรด และกากตะกอน จำนวนมาก ปัจจุบันถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด
เตรียมประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย 2 ตำบล
นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและ อปท.วางแผนเผชิญเหตุ การควบคุมพื้นที่เพลิงไหม้และลดความรุนแรง เพื่อจำกัดวงความเสียหายของพื้นที่อาคารเก็บกักวัสดุทั้ง 5 อาคาร
ล่าสุดเพลิงทำความเสียหายไปแล้ว 3 อาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงด้วยการฉีดโฟมและน้ำ กระทำควบคู่กันไปด้วยนักดับเพลิงที่ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ขณะนี้มีโฟมสารเคมีที่จะระงับเพลิงกว่า 7,000 ลิตร จากของ อบต.ต่าง ๆ และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
ขณะนี้ได้เตรียมประกาศพื้นที่บางส่วนของต.บางบุตร และต.หนองบัว อ.บ้านค่าย เป็นพื้นพี่ประสบสาธารณภัย เพื่อระงับยับยั้งเหตุและให้ความช่วยประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
สำหรับผู้ประสบภัยบางส่วนได้เคลื่อนย้ายตัวเองไปยังที่พักพิงชั่วคราวของ อบต.บางบุตร และอบต.หนองบัว จำนวนกว่า 50 คน ซึ่งทาง อบต. ร่วมกับกำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ช่วยกันดูแลให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
ด้าน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เผยว่า สั่งการไปยังปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว และรายงานให้ทราบเป็นระยะ ๆ
โดยให้สืบหาข้อเท็จจริง เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้สั่งปิดไปแล้ว แต่ยังมีการเก็บสารเคมีอันตรายไว้ภายในบริเวณโรงงาน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงลุกลามเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงขอให้เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ
เรื่องนี้ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในวงกว้าง จะต้องมีการสั่งการให้สอบสวนหาข้อเท็จจริง และสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน
เรื่องราวเพิ่มเติม
Voice TV จ่อปิดกิจการ ลือสะพัดเลิกจ้างพนักงานกว่า 200 คน
น้องไนซ์เชื่อมจิต วัย 8 ขวบ ลวงปชช. หรือไม่ พวงเพ็ชรสั่งสอบ
น้องใบบุญ เด็กชายวัย 6 ขวบ พูดคุยธรรมะ กับ หนุ่ม กรรชัย