ฟุตบอล Premier League แมนยู เปิดบ้านพบ ไบรท์ตัน วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม ไปติดตามความพร้อม และผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม
โดยคู่นี้จะเตะในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 เวลา 23.30 น.ตามเวลาประเทศไทย สถิติการพบกันฤดูกาลที่ผ่านมา แมนยู แพ้ทั้งหมดไป-กลับ โดยนัดแรกไบรท์ตัน ชนะที่้บ้าน 2-1 ก่อนบุกมาชนะที่นี่ 3-1 และย้อนไป 5 เกมหลัง แมนยู ชนะเกมเดียว ที่เหลือแพ้ทั้งหมด อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
ศึกPremier League อังกฤษ ฤดูกาล 2025-2026 เข้าสู่นัดที่ 9 “ปีศาจแดง” แมนยู ทีมอันดับ 9 เตรียมเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน อันดับ 10
เกมนี้ “ปีศาจแดง” แมนยูฯ ได้โอกาสกลับมาเล่นในบ้านที่ Old Trafford ภายใต้การนำของกุนซือ Rúben Amorim ซึ่งกำลังพยายามสร้างโมเมนตัม หลังจากเพิ่งบุกชนะ Liverpool 2-1 สร้างความมั่นใจให้กับทีมได้อย่างดี
ขณะเดียวกัน ไบรท์ตัน ก็ไม่ใช่ทีมที่มาเล่นฟรี ๆ พวกเขาเข้ามาด้วยฟอร์มที่สมํ่าเสมอ มีศักยภาพสูงในการทำเกม และเคยสร้างปัญหาให้แมนยูฯ ที่นี่ ด้วยสถิติที่ค่อนข้าง “เหนือ” เมื่อต้องเจอกันหลายครั้งที่ผ่านมา
แม้ว่า แมนยูฯ จะอยู่ในจุดที่พร้อมมากกว่านิดหน่อย อย่างไรก็ตาม ไบรท์ตันก็ไม่ใช่คู่แข่งที่สามารถมองข้ามได้ ที่สนามเก่าแก่ Old Trafford เกมนี้อาจเป็นบททดสอบอย่างแท้จริง หากแมนยูฯ อยากรักษาการขึ้นลำดับและสร้างความมั่นใจต่อเนื่อง ก็ต้องเล่นให้จริงจังตั้งแต่ต้นจนจบ
รูเบน อโมริม เกมล่าสุดพาทีมบุกไปชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 เกมแดงเดือด ทำให้เก็บชัยชนะนัดที่ 4 ในลีก มีเพิ่มเป็น 9 แต้ม แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ทำประตูชัยที่แอนฟิลด์ และ เมสัน เมาท์ ที่เจ็บเล็กน้อย คาดว่าผ่านความฟิตลงเล่นได้
แต่นัดนี้ยังไม่มี ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เจ็บเข่ายังคงต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะกลับมาลงสนามได้ เช่นเดียวกับ อายเด้น เฮเว่น ส่วน นุสแซร์ มาซราอุย เต็มที่คงเป็นได้สำรองเท่านั้น เลนี่ โยโร่ หวังเบียดตำแหน่งตัวจริงในพื้นที่สามตำแหน่ง ด้าน เบนจามิน เชชโก้ ที่ทำประตูได้ในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดติดต่อกันก่อนั่งสำรองในเกมกับลิเวอร์พูล เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่อาจได้ลงตัวจริง
ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ กุนซือชาวเยอรมัน เกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พาทีมพลิกกลับมาชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 ทำให้ชนะนัดที่ 3 ของฤดูกาลมี 13 แต้ม นัดนี้จะไม่มี ซอลลี่ มาร์ช, อดัม เว็บสเตอร์ และ แจ็ค ฮินเชลวู้ด ด้าน คาโอรุ มิโตมะ (ข้อเท้า), โจเอล เฟลต์แมน (น่อง), ดิเอโก้ โกเมซ (สะโพก)
และ บราจาน กรูดา (หัวเข่า) ทั้งหมดรอเช็กว่าจะผ่านความฟิตลงได้หรือไม่ มักซิม เดอ คูเปอร์ น่าจะต้องแย่งชิงตำแหน่งแบ็กซ้ายจากเฟร์ดี้ คาดิโอกลู แต่หากมิโตมะ หรือโกเมซ ฟิตไม่พอลงเล่น แข้งชาวเบลเยียมรายนี้อาจถูกดันให้เล่นปีกซ้าย คาร์ลอส บาเลบา
ซึ่งมีข่าวเชื่อมโยงกับแมนฯ ยูไนเต็ดมาอย่างต่อเนื่อง ยังลงเชื่อมเกมแดนกลางเหมือนเดิม โดยมี แดนนี่ เวลเบ็ค ซึ่งทำได้ 4 ประตูจาก 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก อาจจะได้ลงเล่นร่วมกับ จอร์จินโย่ รุตแตร์ และ ยานคูบา มินเตห์
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) : เซนเน่อ ลัมเมนส์ – มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – อาหมัด ดิยัลโล่, กาเซมีโร่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ดีโอโก้ ดาโลต์ – ไบรอัน เอ็มเบอโม่, มาเตอุส คุนญ่า – เบนจามิน เชชโก้
ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : บาร์ต แฟร์บรู๊กเก้น – มัตส์ วีฟเฟอร์, ลูอิส ดังค์, ยาน-พอล ฟาน เฮ็คเค่, เฟร์ดี้ คาดิโอกลู – คาร์ลอส บาเลบา , ยาซิน อายารี่ – ยานคูบา มินเตห์, จอร์จินโย่ รุตแตร์, มักซิม เดอ คูเปอร์ – แดนนี่ เวลเบ็ค
คาดการณ์ผลการแข่งขัน
สถิติ หลายแหล่งคาดว่า แมนยูฯ จะเอาชนะได้แบบเฉียด ๆ โดยสกอร์ที่ถูกหยิบขึ้นมาบ่อยคือ แมนยูฯ 2 ชนะ 1 ไบรท์ตัน
อย่างไรก็ดี ถึงแม้แมนยูฯ จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ภัยที่อาจเกิดขึ้นคือไบรท์ตันมีโอกาสยิงได้เช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกมไม่ง่ายอย่างที่คิด
เครดิต manutd

