Honor กลับมาทวงบัลลังก์กล้องสมาร์ทโฟนความละเอียดสูงอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Honor 400 Series ซึ่งนำเซ็นเซอร์ 200MP กลับมาใช้อย่างยิ่งใหญ่
หลังจากที่เคยสร้างความฮือฮาไปแล้วใน Honor 90 Series เมื่อหลายปีก่อน การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ความละเอียด แต่ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี AI ล้ำสมัย และสเปกระดับเรือธงในรุ่น Pro
อ่านผลข่าวเพิ่มเติม
เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ Honor 400 และ Honor 400 Pro โดยรุ่น Pro จัดเต็มด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า ขุมพลังที่แรงกว่า และกล้อง Telephoto โดยเฉพาะ ขณะที่รุ่น Vanilla เน้นความคุ้มค่า ขนาดกะทัดรัดกว่า แต่ยังคงชูโรงด้วยกล้องหลัก 200MP และฟีเจอร์ AI ครบครัน
Honor 400 Pro เรือธง AI Camera Phone ตัวจริง
Honor 400 Pro คือสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการที่สุดของเทคโนโลยีการถ่ายภาพและประสิทธิภาพ มาพร้อมชุดกล้องหลัง 3 ตัวสุดเทพ:
กล้องหลัก 200MP: ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว, รูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบกันสั่น OIS
กล้อง Telephoto 50MP: ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX856 ขนาด 1/2 นิ้ว, รูรับแสง f/2.0 พร้อม OIS
กล้อง Ultra-Wide 12MP: รูรับแสง f/2.2, มุมมองกว้าง 112° พร้อมความสามารถถ่าย Macro
กล้องหน้า 50MP: สำหรับการเซลฟี่ที่คมชัด
หัวใจหลักคือชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ตัวแรง ประกบคู่กับ RAM 12GB และมีตัวเลือกหน่วยความจำ 256GB/512GB ขับเคลื่อนประสบการณ์ AI สุดล้ำที่พัฒนาร่วมกับ Google Cloud ทำให้สามารถเปลี่ยนภาพนิ่งเป็นวิดีโอ, ลบวัตถุที่ไม่ต้องการ, ลดแสงสะท้อน
และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมี AI Subtitles, AI Translation, AI Writing tools, AI Summary และฟีเจอร์ Deepfake Detection เพื่อป้องกันการหลอกลวงทางวิดีโอคอล
หน้าจอแสดงผลแบบ Quad-curved ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 2,800 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด (Peak HDR) ถึง 5,000 nits และ PWM Dimming 3,840Hz
เพื่อความสบายตา ตัวเครื่องมีขนาด 160.8 x 76.1 x 8.1 มม., หนัก 205 กรัม และกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68/IP69 แบตเตอรี่ Si/C ขนาดใหญ่ 5,300mAh รองรับชาร์จไว 100W และชาร์จไร้สาย 50W
โดย Honor การันตีว่าแบตเตอรี่จะคงความจุอย่างน้อย 80% หลังใช้งาน 4 ปี (1,200 รอบชาร์จ) มาพร้อม MagicOS 9.0 (Android 15) และการันตีอัปเดตยาวนานถึง 6 ปี
Honor 400: คุ้มค่า กล้องเทพ AI ครบ
สำหรับ Honor 400 เป็นรุ่นที่เน้นความคุ้มค่า ขนาดกะทัดรัดกว่าด้วยหน้าจอแบน 6.55 นิ้ว Refresh Rate 120Hz ความละเอียด 1,264 x 2,736 พิกเซล และยังคงความสว่างสูงสุด 5,000 nits พร้อม PWM Dimming 3,840Hz ตัวเครื่องมีขนาด 156.5 x 74.6 x 7.3 มม., หนัก 184 กรัม แต่ยังคงให้แบตเตอรี่ขนาด 5,300mAh เท่ารุ่น Pro แม้จะลดทอนการชาร์จไวเหลือ 66W (แบบมีสายเท่านั้น)
ในส่วนของกล้อง ยังคงให้กล้องหลัก 200MP (1/1.4”, f/1.9, OIS) และกล้อง Ultra-Wide 12MP (f/2.2 112°, Macro) รวมถึงกล้องหน้า 50MP เช่นเดียวกับรุ่น Pro แต่จะไม่มีกล้อง Telephoto มาให้ โดยอาศัยพลังจากเซ็นเซอร์ 200MP ในการซูมภาพแทน
ด้านประสิทธิภาพ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 ซึ่งเป็นชิปตัวเดียวกับรุ่นก่อนหน้า มาพร้อม RAM 8GB และหน่วยความจำ 256GB/512GB และยังคงได้รับฟีเจอร์ AI เต็มรูปแบบเหมือนรุ่น Pro แต่มีการลดระดับการกันน้ำลงมาอยู่ที่ IP65 (กันน้ำกระเซ็น)
ราคาและการวางจำหน่าย
Honor 400 และ 400 Pro เริ่มวางจำหน่ายแล้วผ่านทาง honor.com และตัวแทนจำหน่ายในบางประเทศ สำหรับราคาในไทยยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
แต่สามารถคาดการณ์ราคาเบื้องต้นจากการแปลงค่าเงินได้ดังนี้ (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2568: 1 GBP ≈ 46.50 THB, 1 EUR ≈ 39.50 THB):
Honor 400 (8/256GB): £400 / €500 ≈ 18,600 – 19,750 บาท
Honor 400 (8/512GB): £450 / €550 ≈ 20,925 – 21,725 บาท
Honor 400 Pro (12/512GB): £700 / €800 ≈ 31,600 – 32,550 บาท
(หมายเหตุ: ราคาข้างต้นเป็นเพียงการประมาณการจากการแปลงค่าเงินเท่านั้น ราคาจำหน่ายจริงในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากภาษีและปัจจัยอื่นๆ)
ตารางเปรียบเทียบสเปก Honor 400 vs Honor 400 Pro
การกลับมาของ Honor 400 Series พร้อมกล้อง 200MP และฟีเจอร์ AI ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ต้องรอติดตามว่าเมื่อเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่และจะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดสมาร์ทโฟนได้มากน้อยเพียงใด
เครดิต sanook.com