19/05/2024

ผลข่าว ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด

ผลข่าว อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด 24 ชั่วโมง

ผลวิจัยมะเร็ง เกิดขึ้นในคนอายุต่ำกว่า 50 ปี เพิ่มขึ้นถึง 80%

ผลวิจัยมะเร็ง

จากผลการสำรวจวิจัยครั้งใหญ่กับประชากรนับล้านคนในหลายร้อยประเทศทั่วโลก ผลชี้ว่าคนหนุ่มสาวที่มีอายุน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุยังไม่ถึง 50 ปี ผลการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งกันเพิ่มขึ้นถึง 79% ตลอดช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา อ่านข่าวเพิ่มเติม

ผลวิจัยมะเร็ง ชี้ว่าจำนวนผู้ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อยเพิ่มขึ้น

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ BMJ Oncology ล่าสุดผลชี้ว่าจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย เพิ่มขึ้นจาก 1.82 ล้านคน ในปี 1990 เป็น 3.26 ล้านคน ในปี 2019 

ส่วนจำนวนผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งนั้น ยังอยู่ในวัยเพียง 30-40 ปี โดยเพิ่มสูงขึ้น 27% ทำให้ปัจจุบันมีคนอายุต่ำกว่า 50 ปี ต้องเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคมะเร็ง มากกว่าปีละ 1 ล้านคนทั่วโลก

ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของแนวโน้มที่น่าวิตกดังกล่าวนี้ แต่ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ นำโดยนักวิจัยด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระของสหราชอาณาจักร และมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงของจีนระบุว่า 

ผลวิจัยมะเร็ง

“วิถีชีวิตที่ไม่เอื้ออำนวยให้มีสุขภาพดี, การกินอาหารที่ผิดหลักโภชนาการ, การสูบบุหรี่และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ความอ้วน, ชีวิตประจำวันที่ขาดการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนหนุ่มสาวล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งกันมากขึ้น”

เป็นครั้งแรกที่มีผู้ทำการวิจัยขนาดใหญ่ระดับโลก ครอบคลุมด้วยประชากรวัย 14-49 ปี ใน 204 ประเทศ และใช้ฐานข้อมูลทางการแพทย์ที่รวมถึงโรคมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ 29 ชนิด

ในผู้ป่วยมะเร็งที่อายุต่ำกว่า 50 ปี พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจำนวนเพิ่มขึ้นมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนที่พบได้ราว 13.7 คน ต่อประชากร 100,000 คน และมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุด ที่ 3.5 คน ต่อประชากร 100,000 คน

ผู้ป่วยมะเร็งหลอดลมและมะเร็งต่อมลูกหมาก มีอัตราที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยอายุน้อยอย่างรวดเร็วที่สุด โดยตลอดช่วง 30 ปี ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยหนุ่มสาวที่เป็นมะเร็งทั้ง 2 ชนิดเพิ่มขึ้น 2.28% และ 2.23% ตามลำดับ อีกด้านโรคมะเร็งตับมีแนวโน้มพบได้น้อยลงมากที่สุดในกลุ่มคนวัยเยาว์ โดยมีจำนวนผู้ป่วยต่ำลง 2.88% ต่อปี

ผลวิจัยมะเร็ง
ภาพสแกนอวัยวะภายในของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด

ทีมผู้วิจัยระบุ

จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทุกชนิดในกลุ่มอายุไม่ถึง 50 ปี มีจำนวน 1.06 ล้านคนในปี 2019 เพิ่มขึ้นราว 27% จากสถิติของ 3 ทศวรรษก่อน โดยนอกจากมะเร็งเต้านมแล้ว สาเหตุการตายรองลงมาได้แก่ มะเร็งหลอดลม, มะเร็งปอด, มะเร็งกระเพาะอาหาร, และมะเร็งลำไส้ ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตที่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วที่สุดในกลุ่มนี้ ได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งไต และมะเร็งรังไข่

ภูมิภาคที่พบผู้ป่วยมะเร็งอายุน้อยมากที่สุด ได้แก่ทวีปอเมริกาเหนือ, พื้นที่แถบโอเชียเนีย, และประเทศในยุโรปตะวันตก ส่วนภูมิภาคที่ประชากรมีรายได้ในระดับปานกลางและระดับต่ำ จะพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวัยหนุ่มสาวได้มากที่สุด ที่กลุ่มประเทศแถบโอเชียเนีย, ยุโรปตะวันออก, และเอเชียกลาง

ในบรรดาประเทศที่มีรายได้อยู่ที่ระดับปานกลาง โรคมะเร็งมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและอายุขัยของหญิงสาวมากกว่าชายหนุ่ม ซึ่งมะเร็งเต้านมทำให้มีอัตราการตายในสตรีวัยเยาว์ชาวเอเชียเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยประมาณ 5-13 คน ต่อประชากร 100,000 คน ในปี 1990 เพิ่มขึ้นเป็น 8.7-15.6 คน ต่อประชากร 100,000 คน ในปี 2019 

อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต มาอยู่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับชาวตะวันตกมากขึ้น

ผลวิจัยมะเร็ง

ทีมวิจัยระบุว่า “โรคมะเร็งเต้านมพบในคนอายุน้อยเพิ่มขึ้น อาจมีสาเหตุมาจากความเปลี่ยนแปลงในเรื่องการเจริญพันธุ์ เช่น การมีประจำเดือนเร็วขึ้น, การใช้ยาคุมกำเนิด, การไม่เคยให้กำเนิดบุตรเลย, หรือการมีบุตรคนแรกเมื่ออายุมากแล้ว, รวมทั้งอาจมีสาเหตุจากปัจจัยทางกายภาพและพฤติกรรมในการดำรงชีวิตอื่น ๆ ด้วย”

ทีมวิจัยยังประมาณการด้วยว่า หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาทางสาธารณสุขนี้โดยด่วน อัตราของผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกมากถึง 31% และ 21% ตามลำดับ ภายในปี 2030

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายได้แสดงความคิดเห็นต่อผลการศึกษาข้างต้นว่า บุคคลทั่วไปยังไม่ควรจะต้องวิตกกังวลกับแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งเป็นการคาดการณ์จาก “ตัวเลขดิบ” ที่ยังไม่ใช่ตัวเลขซึ่งผ่านการคำนวณตรวจสอบและถ่วงดุลตามมาตรฐานทางสถิติศาสตร์ 

หากนำตัวเลขดิบไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในบริบทแวดล้อมอื่น ๆ แล้ว จะพบว่าอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งของคนในวัยนี้ลดลงด้วยซ้ำ

อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่า จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งอายุน้อยอาจดูเหมือนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรโลก รวมทั้งมีการตรวจคัดกรองมะเร็งกันแพร่หลายมากขึ้นกว่าในสมัยก่อนนั่นเอง

เครดิต BBC.COM