01/05/2024

ผลข่าว ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด

ผลข่าว อัพเดทข่าวสาร ข่าวสด ข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด 24 ชั่วโมง

พม่าทิ้งเมียวดี รัฐบาลผู้ยึดอำนาจเมื่อ 3 ปีก่อนใกล้ถึงจุดจบ?

พม่าทิ้งเมียวดี

รัฐบาลทหารผู้ยึดอำนาจในเมียนมาหรือพม่าเมื่อ 3 ปีก่อน ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยครั้งนี้เกิดขึ้นที่ชายแดนทางตะวันออกติดกับไทย ขณะที่ทางรัฐบาลทหารเมียนมาขอใช้สนามบินแม่สอด จ.ตาก ระหว่างวันที่ 7-9 เม.ย. 67 เพื่อรับทหารจำนวน 600 กว่าคนพร้อมครอบครัวกลับไปยังประเทศ หลังทั้งหมดยอมจำนนต่อกองกำลังฝ่ายต่อต้าน อ่านข่าวเพิ่มเติม

ผู้เชี่ยวชาญด้านพม่าจาก ม.เกษตรศาสตร์ และ ม.ธรรมศาสตร์ มีความเห็นว่า เสถียรภาพของรัฐบาลทหารกำลังสั่นคลอน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านกำลังได้เปรียบและทำงานสอดประสานกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์เพื่อเผด็จศึกกองทัพเมียนมาก่อนฤดูฝนจะมาเยือน

พม่าทิ้งเมียวดี

วันนี้ 8 เม.ย. 67 จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารพม่า กับฝ่ายต่อต้านที่มีทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองกำลังปกป้องประชาชน (PDF) เข้ายึดกองบังคับการยุทธวิธีของทหารเมียนมาที่บ้านปางกาน จ.เมียวดี ตรงข้าม ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก รวมทั้งบุกพื้นที่กองพันที่ 275 เมียวดี

ทางการเมียนมาอพยพคน ทรัพย์สิน ออกจากเมียวดี หลังเพลี่ยงพล้ำให้ทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงฯ ใช้วิธีเช่าเหมาลำเครื่องบินพาณิชย์ นำเจ้าหน้าที่และสิ่งของ คาดว่าเป็นเงินสด 1 คันรถ จากสนามบินนานาชาติแม่สอด จ.ตาก กลับไปเมืองย่างกุ้ง

นับว่าเป็นค่ายทหารที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ในตัวเมืองเมียวดี ทำให้ฝ่ายต่อต้านควบคุมพื้นที่ จ.เมียวดี ได้ทั้งหมด ส่งผลให้ข้าราชการในสังกัดสภาบริหารทหารเมียนมาอย่าง ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง จ.เมียวดี และหน่วยงานต่าง ๆ ต้องถอนตัวออกจากตัวเมืองเมียวดี และต้องอพยพไปกอกาเร็ก ในเขตปกครองของ พ.อ.หม่อง ชิต ตู่

อีกทั้งยังมีรายงานว่า รัฐบาลเมียนมาใช้ช่องทางกระทรวงต่างประเทศ ประสานกับรัฐบาลไทย เพื่อให้เครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ ลงจอดช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. คืนที่ผ่านมา 

จากนั้นมีรถยนต์กระบะ บรรทุกสิ่งของบางอย่างนำขึ้นเครื่องบิน ซึ่งคาดว่าเป็นเงินสดที่นำมาจากฝั่ง จ.เมียวดี แล้วมีเจ้าหน้าที่เมียนมาส่วนหนึ่งขึ้นไปบนเครื่อง ก่อนที่เครื่องบินจะขึ้นบินข้ามไปฝั่งเมียนมา ทราบว่าเดินทางไปยังเมืองย่างกุ้ง

พม่าทิ้งเมียวดี รัฐบาลทหารสูญเสียพื้นที่เมียวดี

พม่าทิ้งเมียวดี ล่าสุดทหารในกองทัพเมียนมาจำนวนหลายร้อยนายปกป้องเมืองชายแดน จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ยอมจำนนกับกลุ่มต่อต้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังถูกกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงซึ่งเป็นพันธมิตรกับกองกำลังอื่น ๆ ที่ต่อต้านรัฐประหารเข้าโจมตีอย่างหนักเป็นเวลาหลายสัปดาห์ อีกทั้งเมียวดีคือเส้นทางการค้าทางบกที่สำคัญของเมียนมาและไทย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือเคเอ็นยู (Karen National Union – KNU) แถลงการณ์ว่า ตนเองยอมรับการยอมจำนนของกองพันที่ตั้งอยู่ในเมืองติงกะหยิงหย่อง (Thingannyinaung) ซึ่งห่างจากเมียวดีไปทางทิศตะวันตกประมาณ 10 กิโลเมตร

โดยทาง KNU ได้ลงภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าทหารของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงต่างปลื้มปิติยินดีเมื่อพวกเขาสามารถยึดคลังแสงอาวุธจำนวนมากไว้ได้ซึ่งตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง KNU ได้เจรจากับกองพันสุดท้ายของกองทัพเมียนมาที่เหลืออยู่ในเมียวดีและตกลงยอมจำนนในเวลาต่อมา

นับเป็นอีกหนึ่งความพ่ายแพ้อย่างร้ายแรงสำหรับรัฐบาลทหาร หลังจากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ด้านกองทัพเพิ่งเสียพื้นที่ควบคุมขนาดใหญ่ในรัฐฉานซึ่งอยู่ติดกับชายแดนประเทศจีน เช่นเดียวกับพื้นที่ชายแดนติดประเทศบังกลาเทศซึ่งอยู่ในรัฐยะไข่ 

พม่าทิ้งเมียวดี

พบว่าทหารหลายพันนายถูกสังหาร บ้างก็ยอมจำนน ย้ายไปอยู่กับฝ่ายต่อต้าน ทำให้กองทัพเมียนมาต้องประกาศบังคับเกณฑ์ทหารพลเรือนทั้งหญิงและชาย เพื่อชดเชยความสูญเสียนี้

KNU นับว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องการปกครองตนเองมาตั้งแต่เมียนมาได้รับเอกราชในปี 1948 อย่างไรก็ตามพวกเขาได้พ่ายแพ้ให้กองทัพเมียนมาหลายต่อหลายครั้งในช่วงทศวรรษ 1990 และหลังปี 2015 ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (National Ceasefire Agreement-NCA)

ต่อมาในปี 2021 กลุ่ม KNU ประกาศว่าข้อตกลงหยุดยิงถือเป็นโมฆะ หลังจากกองทัพเมียนมา นำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ทำการรัฐประหารและโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งนำโดยนางออง ซาน ซู จี

รัฐกะเหรี่ยงอยู่ใกล้กับนครย่างกุ้งนับเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา และเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดหากต้องการเดินทางไปยังชายแดนไทย ส่งผลให้รัฐกะเหรี่ยงกลายเป็นเป้าหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้เห็นต่างที่ต้องการหลบหนีการปราบปรามอันโหดเหี้ยมของกองทัพเมียนมา หลังการรัฐประหารครั้งล่าสุด

พม่าทิ้งเมียวดี
ทหารเมียนมาในเมืองเมียวดีพร้อมกับครอบครัวที่ยอมจำนนต่อกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ตอนนี้อยู่ความควบคุมโดย KNU

ด้าน KNU ยังช่วยฝึกรบให้กับอาสาสมัครจำนวนมากจากเมืองต่าง ๆ ที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับ KNU เพื่อช่วยโจมตีกองทัพเมียนมา

ทาง KNU ยังร่วมมือกับกองกำลังต่อต้านที่มีขนาดใหญ่กลุ่มอื่น ๆ เช่น กองกำลังชาติพันธุ์กะเรนนี หรือเคเอ็นดีเอฟ (Karenni Nationalities Defence Force – KNDF) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐกะเหรี่ยง รวมไปถึงกองทัพเอกราชคะฉิ่นหรือเคไอเอ (Kachin Independence Army – KIA) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเมียนมา

การที่กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือกะเหรี่ยงบีจีเอฟ (Karen Border Guard Force – Karen BGF) เป็นอีกหนึ่งในกองกำลังติดอาวุธที่ทรงพลังและเป็นผู้ควบคุมพื้นที่ชายแดนซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองสแกมเมอร์ติดชายแดน จ.ตากของไทย 

ได้ออกมาประกาศตัดความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ดุลอำนาจในรัฐกะเหรี่ยงเปลี่ยนไปและสร้างความได้เปรียบให้กับฝ่ายต่อต้าน

ล่าสุด ทางกองทัพเมียนมายังไม่สามารถเสริมกำลังเข้ามาในรัฐกะเหรี่ยงได้ และสูญเสียการควบคุมในถนนสายหลักที่เชื่อมต่อไปยังชายแดนไทย เนื่องจากต้องรับมือกับศึกรอบด้านในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

รัฐบาลทหารออกมาตอบโต้ความสูญเสียด้วยการเพิ่มการโจมตีทางอากาศมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเป็นพื้นที่ที่ตกอยู่ในความควบคุมของกองกำลังฝ่ายต่อต้าน จึงส่งผลให้พลเรือนในรัฐกะเหรี่ยงจำนวนนับพันคนสูญเสียบ้านเรือน และอีกจำนวนมากที่อพยพไปยังชายแดนไทย เพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

พม่าทิ้งเมียวดี
อาวุธทหารเมียนมาที่ทาง KNU ยึดไว้ได้